April 29, 2024   5:09:31 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ปี 2549 หุ้นเก็งกำไรยอดนิยม
 

???
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 410
วันที่: 09/01/2007 @ 09:04:17
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

สำหรับปี 2549 ที่ผ่านมาการลงทุนนับว่าได้รับแรงกดดันหลายด้านเข้ามากระทบ ส่งผลให้ภาวะตลาดหุ้น 1 ปีที่ผ่านมาอยู่ในภาวะผันผวนเป็นหลัก โดยเฉพาะปัญหาทางด้านการเมือง รองลงมาปัญหาทางด้านน้ำมันและดอกเบี้ย

ขณะเดียวกันค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็ว ทำให้ทางแบงก์ชาติ(ธปท.)ต้องเร่งออกมาตรการสกัดปัญหาดังกล่าวเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2549ที่ผ่านมา และมีเหตุลอบวางระเบิดกลางกรุงเทพฯหลายจุดปลายปีที่แล้ว จนเป็นเหตุให้ตลาดหุ้นทรุดลงอย่างหนัก

อย่างไรก็ตามแม้ภาวะตลาดหุ้นปี 2549 จะรุมเร้าด้วยปัญหานานัปการ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นอย่างต่อเนื่องสำหรับตลาดหุ้นปี2549 นั้นก็คือการลงทุนในหุ้นขนาดเล็กที่นับว่าได้รับความนิยมอย่างชัดเจน

สาเหตุที่นักลงทุนนิยมเล่นหุ้นเก็งกำไร น่าจะเป็นผลมาจากผลประกอบการหุ้นใหญ่ไม่เป็นไปตามเป้า หลังต้องเผชิญกับปัญหาดังกล่าว จนกำไรสุทธิช่วง 9 เดือนแรก2549ที่ผ่านมาลดลงถ้วนหน้า และส่วนหนึ่งที่เข้ามาเล่นหุ้นขนาดเล็กคือเพื่อค่าเวลารอความชัดเจนเรื่องต่างๆ และกส่วนหนึ่งคาดว่าหุ้นตัวเล็กมีราคาถูกและให้ผลตอบแทนเร็วกว่านั้นเอง

หนังสือพิมพ์รายวัน ข่าวหุ้นธุรกิจ ได้รวบรวมความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นตลอดทั้ง ปี 2549 ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2548 - 31 ธันวาคม 2549 จากจำนวนหุ้นทั้งหมด 439 ตัว พบว่ามีหุ้นกว่า208 ตัว ปรับตัวเพิ่มขึ้นและอีก ตัวปรับตัวลดลง 225ส่วนอีก 6 ตัว ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง แต่ครั้งนี้จะขอนำเสนอหุ้นที่ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด 50อันดับแรกเท่านั้น

สำหรับหุ้นที่ราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็น[b:b2652318db">อันดับ1 คือ บริษัทไทยฟิล์มอินดัสตรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TFI [/b:b2652318db">ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 367.74 % มาที่ระดับ1.45บาท (31ธ.ค. 2549) จากเดิมอยู่ที่ 0.31 บาท (31 ธ.ค. 2548) แม้ราคาหุ้นรายนี้จะปรับตัวขึ้นแรง แต่อย่าลืมว่าหุ้นรายนี้เป็นหุ้นที่ขาดสภาพคล่อง สังเกตได้จากชวงที่ผ่านมาหุ้นรายนี้ประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทได้ประกาศลดลงทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสมช่วงที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2549 ที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิ 101.21ล้านบาท หรือ 0.143 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันปีก่อนอยู่ 30.51 ล้านบาท หรือ 0.043 บาทต่อหุ้น เนื่องจากยอดขายฟิล์มชนิดต่างๆ ของบริษัท เพิ่มขึ้น เป็น 1,438 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,370 ล้านบาท น่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หุ้นรายนี้มีแรงซื้อเข้ามามาก

[b:b2652318db">อันดับ 2 บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ[/b:b2652318db"> ผู้จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์สื่อสาร ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 361.14% มาที่ระดับ 17.80บาท จากเดิมอยู่ที่ 3.86 บาท สาเหตุที่หุ้นรายนี้ปรับตัวอยู่ในระดับสูง เป็นผลมาจากนักลงทุนมีความมั่นใจต่อกิจการบริษัทฯ ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าแนวโน้มกิจการยังคงขยายตัวดีอย่างต่อเนื่องทั้งในภาพรวมปีนี้และปี 2550 ด้วย ซึ่งตัวเลขผลประกอบการที่ผ่านมายังเป็นน่าพอใจ

ทั้งนี้รายได้รวมของปี2549 คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ที่ 4,000 ล้านบาทส่วนในปี 2550 คาดว่ารายได้จะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทเตรียมปรับเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นอีกแต่ยังไม่สามารถสรุปตัวเลขที่ชัดเจนได้

[b:b2652318db"> อันดับ 3 บริษัท บางกอกแร้นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ RANCH[/b:b2652318db"> ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 213.33% มาที่ระดับ 47.50 บาท จากเดิมอยู่ที่ 15.00 บาท สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรง เนื่องจากบริษัทได้ผ่านพ้นและพลิกฟื้นจากการระบาดของโรคไวรัสไข้หวัดนกตั้งแต่ปี 2547 โดยสมบูรณ์

อย่างไรก็ตามไข้หวัดนกยังเป็นความเสี่ยงต่อเนื่องสำหรับธุรกิจสัตว์ปีก ซึ่งบริษัทยังคงรักษามาตรฐานด้านสุขอนามัยเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีปลอดภัยต่อลูกค้าของบริษัท

จึงส่งผลให้นักลงทุนหันมาสนใจที่จะลงทุนกับบริษัทมากขึ้น ทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นตามต่อเนื่อง

[b:b2652318db">อันดับ 4 บริษัท แกรนด์ แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND[/b:b2652318db">ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น198.20% มาที่ 4.98 บาท จากเดิม1.67บาท ราคาหุ้นที่ปรับตัวแรงเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาผู้ถือหุ้นใหญ่ GRAND ขายหุ้นทั้งหมดให้กับ ไจแอนท์ มอริเชียสโฮลดิ้งส์ และบริษัท โฮเทล แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด โดยได้ทำเทนเดอร์ฯหุ้นในราคาหุ้นละ 4.85 บาท ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาอย่างชัดเจน หลังทำเทนเดอร์ฯส่งผลให้ทั้ง 2 บริษัทเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้งหมด 54.30%

สำหรับผลประกอบการปี 2550 บริษัทมั่นใจว่ารายได้รวมจะไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท เนื่องจากมีโครงการหลายแห่งที่เปิดปีนี้ยกไปรับรู้รายได้เต็มที่ โดยเฉพาะโครงการนอร์ทพอย์ทมูลค่า 3,500 ล้านบาท ,โครงการเดอะลอฟท์ เย็นอากาศ และโครงการเดอะไฮท์ มูลค่ารวมกว่า 2,300 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการใหม่ๆ ที่เตรียมเปิดปีหน้าทยอยรับรู้รายได้เพิ่มเติมด้วย โดยเบื้องต้นเตรียมเปิด 2-3 โครงการใหม่ มูลค่าเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 3,000-4,000 ล้านบาท จึงทำให้หุ้นรายนี้ยังปรับตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง

[b:b2652318db">อันดับ 5 บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASCON[/b:b2652318db"> ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 196.57% มาที่12.10บาท จากเดิม4.08บาท เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาหุ้นรายนี้มีข่าวดีเข้ามาสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทเตรียมรับงานก่อสร้างโรงแรมที่ประเทศเวียดนามจำนวน 18 แห่ง รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท และจะมีการร่วมทุนกับพันธมิตรจากประเทศเยอรมนี

นอกจากนี้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร ข่าวที่ผู้บริหารเตรียมจะขยายธุรกิจอสังหาฯเพิ่มขึ้นโดยมีแผนจะเข้าไปเทกโอเวอร์โครงการคอนโดมิเนรียม 1-2 โครงการ มูลค่าโครงการละกว่า1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปไม่เกินเดือนมกราคมปี 2550 ทำให้หุ้นรายนี้มีนักลงทุนเข้ามาเก้งกำไรอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้แม้หุ้นขนาดเล็กจะปรับตัวขึ้นในอันดับต้นๆของตาราง แต่ก็นับว่าหุ้นเหล่านี้มีความเสี่ยง เพราะหุ้นส่วนใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นมาล้วนแต่มีปัญหาทางด้านการเงินแถบทั้งสิ้น ดังนั้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ควรจะใช้ความระมัดระวังให้มาก

โดยเฉพาะภาวะตลาดหุ้นช่วงนี้ผันผวนอย่างมาก หลังจากที่มีมาตรการสกัดการเก็งกำไรค่าเงินบาทของธปท.ออกมาเมื่อวันที่18 ธ.ค.49 ที่ผ่านมา และล่าสุดความไม่สงบในกรุงเทพฯหลังจากที่มีเหตุรอบวางระเบิดหลายจุดเมื่อปลายปีที่แล้ว การลงทุนในระยะนี้ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากหลายเท่า






[/color:b2652318db">

 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#1 วันที่: 09/01/2007 @ 09:44:49 : re: ปี 2549 หุ้นเก็งกำไรยอดนิยม
ยอดๆๆ

.0007 .0007 .0007
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#2 วันที่: 09/01/2007 @ 09:53:11 : re: ปี 2549 หุ้นเก็งกำไรยอดนิยม
มั่งจริงๆ Tfi ลดทุนจาก 6,781 ลห เหลือ 710 ลห ราคาก่อนลดทุนต้นทุนจริงๆแล้วเกือบ 3 บาท ใครถือไว้ขาดทุนป่นปี้
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com