April 29, 2024   9:56:41 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สารพัดความเสี่ยงกระหน่ำดัชนี...
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 08/01/2007 @ 10:28:41
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

สารพัดความเสี่ยงกระหน่ำดัชนีหุ้นไทยจ่อหลุด600จุด

นักวิเคราะห์ ชี้ปัจจัยลบสารพัดเรื่องยังเป็นเหตุสำคัญกระทบการลงทุน หวังเห็นความชัดเจนเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน ชี้หากทุกอย่างยังอึมครึมดัชนีจ่อรูดหลุด 600 จุดอีกครั้ง บล.กรุงศรีฯ ฟันธงปีนี้ไร้วี่แวว January Effect แนะลดพอร์ตการลงทุนเหลือถือหุ้นแค่ 60% ของพอร์ต ก้องเกียรติเตรียมเรียกสมาชิกสภาธุรกิจตลาดทุนไทยหารือประเมินผลกระทบจากเหตุระเบิด

ความไม่ชัดเจนในหลายประเด็นที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ สังคม และความรู้สึกของประชาชนในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ลอบวางระเบิดทั่วกรุงเทพมหานครในช่วงวันส่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่ รวมถึงการขู่วางระเบิดอีกหลายครั้งในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งส่งผลกระทบค่อนข้างรุนแรงต่อความมั่นใจในเรื่องการลงทุนทั้งในส่วนของนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนในประเทศ

ทั้งนี้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากับตลาดหุ้นไทยซึ่งส่งผลทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงไปแล้วกว่า 50 จุดเพราะแรงเทขายอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ในสัปดาห์นี้นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่าดัชนีมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงได้อย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์ในประเทศจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และนักลงทุนต่างชาติมีความมั่นใจต่อการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น

นายอดิพงษ์ ภัทรวิกรม ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้วภาวะการลงทุนในสัปดาห์นี้ (8-12 ม.ค.)ยังเต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศทั้งในเรื่องการเมือง กฎหมาย สังคม และความมั่นคงของชาติ ซึ่งอาจจะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นก็มีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงต่ำกว่า 600 จุด ได้ เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวไม่สามารถคาดการณ์ได้ ประกอบกับยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ทางการเมืองได้ว่าจะไปเป็นทิศทางใด และจะเกิดเหตุร้ายเกิดขึ้นหรือไม่ รวมถึงภาคประชาชนจะมีการชะลอการใช้จ่ายมาน้อยเพียงใด หรือรัฐบาลจะมีนโยบายอะไรออกมาอีกหรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

?ตลาดหุ้นสัปดาห์หน้ายังเต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยง ทางด้านเสถียรภาพการเมือง กฎหมาย เช่น พรบ.ต่างด้าว การยึดทรัพย์ ฯลฯ สังคมในเรื่องความเชื่อมั่นของประเทศชนการใช้จ่ายของประชาชน ความมั่นคง จากเหตุขู่วางระเบิด โดยเหตุการณ์นั้นไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งตลาดหุ้นเองก็มีโอกาสหลุด 600 จุด ได้ ส่วนเรื่องนักลงทุนต่างประเทศนั้นก็เชื่อยังมีอยู่แต่ขณะนี้กองทุนในประเทศมีการแย่งขายมากขึ้น ?นายอดิพงษ์ กล่าว

นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ จำกัด (มหาชน)หรือ KGI กล่าวว่า ปัจจัยสัปดาห์หน้าจะต้องติดตามในเรื่องการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศว่าเม็ดเงินที่ยังคงลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีก 80,000 ล้านบาท จะมีทิศทางเป็นอย่างไร จากที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอข้อมูลในการพิจารณาการลงทุน

ในส่วนของเสถียรภาพทางการเมืองนั้นเป็นเรื่องการควบคุมสถานการณ์ความสงบภายในประเทศ รวมถึงความมั่นใจในการบริโภคของประชาชนจะมีการชะลอตัวหรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อการลงทุน การปล่อยสินเชื่อของธนาคารโดยจะมีผลต่อการเติบโตเศรษฐกิจที่จะเติบโตน้อยกว่าที่ประมาณการณ์ไว้

ทั้งนี้หากมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในเจ้าหน้าที่ตำรวจสามาถดำเนินการจับกุมผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดรวมถึงการขู่วางระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นก็อาจจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ 20-30 จุด แต่หากสถานการณ์ยังคงคลุมเครือทำให้ประชาชนต้องมีการระมัดระวังตัวมากขึ้น ก็มีโอกาสสูงที่ดัชนีจะปรับตัวลดลง 600 จุด

บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด ระบุว่า แม้ในทางสถิติในหลายปีที่ผ่านมาจะพบว่าเดือนมกราคม จะเป็นเดือนที่ SET จะมีอัตราผลตอบแทนสูงที่สุด แต่ในปีนี้ January Effect มีแนวโน้มว่าจะไม่เกิดเนื่องจากผลกระทบจากมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยเรื่องการสำรองเงินเข้าประเทศ 30% เพื่อป้องกันการเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาทจึงอาจจะทำให้สถิติผลตอบแทนในปีนี้แตกต่างออกไป โดยสถิติตั้งแต่ปี 1975-2006 เดือนมกราคมจะเป็นเดือนที่ผลตอบแทนจากการลงทุนใน SET เฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 3.1%

ทั้งนี้ บริษัทแนะนะให้ลงทุนในหุ้นเหลือเพียง 60% จาก 100% ของพอร์ตการลงทุนโดยคาดว่าตลาดหุ้นจะค่อยๆซึมลงในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้า ขณะที่เป้าหมายดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปีนี้จากเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ 800 จุดเป็นเคลื่อนไหวในกรอบ 645-720 จุด

หารือประเมินผลกระทบ

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ในวันนี้จะร่วมหารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และ 5 สมาคมบริษัทจดทะเบียนเพื่อประเมินสถานการณ์ตลาดหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ รวมถึงประเมินว่ามาตรการกันสำรอง 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ต้องการสกัดกั้นการเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาทส่งผลกระทบอย่างไรบ้างกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งการหารือดังกล่าวเพื่อให้เป็นข้อสรุปของสภาธุรกิจตลาดทุนไทย

ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เตรียมเรียก 10 บริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศร่วมหารือถึงผลกระทบต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย พร้อมชี้แจงข้อมูลเพื่อเร่งสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนไทยที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและเตรียมที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ในเวลา 16.00 น.ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com