Puu สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 476 | วันที่: 08/01/2007 @ 09:11:44 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต * เศรษฐกิจแย่ ตลาดหุ้นทรุด บ้านเมืองก็ขาดความสงบ เหลียวมองไปทางไหน ก็เจอแต่หน้าตาผู้คน คร่ำเครียดกันไปทั้งนั้น ไม่เคยพบเคยเห็นบรรยากาศต้นปีเช่นนี้มาก่อน
* เปิดตลาดมาได้แค่ 3 วัน หุ้นร่วงไปแล้ว 51 จุดคิดเป็น7.6% หุ้นบลูชิพทั้งแบงก์ พลังงาน ถูกเทขายทิ้งเรียบ ทั้งตกใจระเบิด และมาตรการซาดิสม์ คุมเงินทุนของแบงก์ชาติ
* อะไรเป็นปัจจัยหลักมากกว่ากัน น่าคิด! ระหว่างระเบิด กับมาตรการ 18 ธ.ค.
* หุ้นก็ร่วงวินาศสันตะโรมาตั้งแต่หลังออกมาตรการแล้วล่ะ มาได้เหตุระเบิดเข้าไป แบงก์ชาติก็เลยได้ที กำบังตัวได้หน่อย ดูบทเรียนจากเหตุการณ์9/11 ตลาดหุ้นนิวยอร์คก็ร่วงหลังเหตุการณ์ แต่ผ่านไปสักพักหนึ่ง ก็สามารถรีบาวน์ดกลับมาได้ ส่วนตลาดหุ้นไทย มีมาตรการเหวี่ยงแหปิดกั้นเงินทุน ตลาดหุ้นคงฟื้นยาก
* น่าสงสารนักลงทุน ถูกผู้บริหารแบงก์ชาติเชิดหน้าใส่ ไม่รับฟังความทุกข์ร้อน โดยให้หตุผลว่านักลงทุนกำไรไปมากแล้ว โถ! ความจริงมันคนละเรื่อง ขาดทุนกันซะเป็นส่วนใหญ่ล่ะไม่ว่า
* คุณชายอุ๋ย&ดญ.ธาริษา โปรดฟังความคิดเห็นที่แตกต่างหน่อยบ้างก็จะดี ไม่ใช่คนในตลาดหุ้นเท่านั้นหรอกที่ร้องโอดโอย แต่ภาคเอกชน นักธุรกิจ ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ ก็ร้องให้ทบทวนมาตรการด้วย
* ภาคเอกชนที่เตรียมการจะออกหุ้นกู้รวมกันเป็นแสนล้านมาขยายงาน จะทำอย่างไร ไหนจะรัฐวิสาหกิจที่ต้องออกพันธบัตรอีกเป็นแสนล้าน รวมทั้งตัวรัฐบาลเองก็ต้องออกบอนด์มาชดเชยงบประมาณขาดดุลอีกตั้ง 1.5 แสนล้านบาท มันเดือดร้อนกันไปโดยถ้วนทั่วแหละ
* พรรณี สถาวโรดม คนเคยรับผิดชอบสำนักบริหารหนี้สาธารณะ ปัจจุบันเป็นผอ.สศค. พูดก็น่าคิด มาตรการสำรองเงิน30% ควรเป็นมาตรการชั่วคราวเท่านั้น ควรจะยกเลิกในระยะเวลาอันสั้น เพราะส่งผลกระทบต่อทั้งตลาดเงินและตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างมาก บรรดาเหล่านางฟ้าที่แบงก์ชาติจะเงี่ยหูฟังกันบ้างไหมเนี่ย
* ก็ไหนว่ามาตรการทมิฬ คุมการโจมตีเงินบาทได้อยู่หมัดแล้ว แต่ที่ไหนได้ ตัวเลขทุนสำรองเงินตราต่างประเทศจาก 22 ธ.ค.มา 29 ธ.ค.พุ่งพรวดขึ้นมาถึง 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นั่นเพราะเอาเงินบาทไปแทรกแซงในตลาดใช่หรือไม่
* ตกลงว่าปิดกั้นเงินทุนก็แล้ว ยังไม่ได้ผล ก็ยังใช้วิธีโบราณเดิมๆ คือเอาเงินบาทไปสว็อปเป็นดอลลาร์กลับมา ควบคู่กันไปด้วยใช่หรือไม่ ประสิทธิภาพของธนาคารกลาง มันอยู่ที่ไหนกันหือ
* เรื่องระเบิด ตัดประเด็นแคบเข้ามาแล้ว ไม่ใช่ฝีมือโจรกลุ่มใต้เป็นแน่ ก็เหลือแต่กลุ่มคนมีสี เป็นผู้ลงมือทำ เพียงแต่ยังไม่ชัด เป็นกลุ่มคนมีสีในขั้วอำนาจเก่า หรือขั้วอำนาจใหม่เท่านั้น
*วงในสายงานข่าวกรองฝ่ายพลเรือน ดูจะมีข้อมูลรู้แล้วว่าฝีมือใคร เพียงแต่การจัดการ อาจจะไปเจอการลูบหน้าปะจมูก จึงต้องยอมปล่อยให้กลุ่มคนจิตใจหยาบช้า ลอยนวลกันต่อไป น่าสงสารคนไทยพ.ศ.นี้จังเลย
* ยามนี้ กระดานหุ้นแดงเถือกทุกวัน และในสัปดาห์นี้ สถานการณ์ก็คงไม่เปลี่ยนแปลง ได้เห็นหุ้นหลุด 600 จุดในสัปดาห์นี้เป็นแน่
* ไม่มีกะจิตกะใจแนะนำหุ้นตัวไหนเลย เอาเป็นว่า เก็บเงินสดไว้รอช้อนหุ้นตอนดัชนีลงไปอยู่ระดับ 500 จุดต้นๆดีกว่า ถึงตอนนั้นก็คงจะมีการยกเลิกมาตรการเส็งเคร็งของธปท. พร้อมกับการกระเด็นตกเก้าอี้ของใครบางคนแล้วกระมัง
[/color:5960b332eb">[/size:5960b332eb">
|