samjin สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 352 | วันที่: 08/01/2007 @ 08:57:47 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศยังมีความวิตกกังวลเรื่องการเมือง การลอบวางระเบิด มาตรการปกป้องการเก็งกำไรค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นในกลุ่มธนาคารออกมาค่อนข้างมาก
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจึงมีลักษณะซึมลงไปเรื่อยๆ ซึ่งต้องรอดูว่าธปท.จะมีการทบทวนในเรื่องมาตรการสำรองเงิน 30% ของนักลงทุนต่างชาติเป็นลักษณะใดในวันที่ 18 มกราคมนี้
ขณะที่ช่วงท้ายสัปดาห์ก็มีกระแสข่าวลือเกี่ยวกับการปฎิวัติซ้อน จนนักลงทุนสอบถามถึงเรื่องดังกล่าวกันจ้าระหวั่นและเป็นฉนวนเหตุสำคัญที่ทำให้มีแรงเทขายออกมาเป็นจำนวนมากเพราะนักลงทุนต้องการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตหลังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ในอนาคตได้
ทั้งนี้ เริ่มมีการคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดหากมีการทำการปฎิวัติขึ้นจริง โดยหลายฝ่ายเชื่อว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อตลาดหุ้นจะรุนแรงกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 19 ก.ย.49 ที่ผ่านมาอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคงไม่รุนแรงเท่ามาตรการของธปท. เมื่อวันที่ 19ธ.ค.49
ผลพ่วงดังกล่าวทำให้นักลงทุนต่างชาติค่อนข้างกังวลเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีข่าวร้ายเรื่องประเทศไทยอาจโดนปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ทั้งในส่วนของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส หรือS&P และมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส จึงทำให้นักลงทุนต่างชาติยังเทขายอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกรณี นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) บอกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในปี 2550 กลุ่มนักลงทุนสถาบันจะเข้ามามีบทบาทในการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทประกันชีวิต เพราะเมื่อเกิดเหตุร้ายความไม่แน่นอนเกิดขึ้น ทำให้ประชาชนหันมาทำประกันชีวิตและประกันด้านอื่นมากขึ้น
ส่งผลให้เม็ดเงินของประกันสูงขึ้น จนต้องจัดสรรเงินเพื่อไปลงทุนด้านอื่นเพื่อหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นให้ผู้ประกัน ซึ่งส่วนหนึ่งก็จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้นนั้น โอกาสที่จะเป็นไปตามที่รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ข่าวมีน้อยมาก
ดังนั้นนักลงทุนควรหันมาถือครองเงินสดให้มากที่สุด และชะลอการลงทุนออกไปก่อนซึ่งดัชนีมีแนวรับสำคัญที่ 600-580 จุด แนวต้านที่ระดับ 630-640 จุด
|