April 29, 2024   4:57:47 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ชีพจรเศรษฐกิจ หลัง วินาศกรรม
 

??????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
วันที่: 07/01/2007 @ 15:31:17
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เสียงและควันจากแรงระเบิดกลางกรุง 8 จุด
ในคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 31 ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมาจางหายไปแล้ว
แต่ผลต่อเนื่องจากแรงระเบิดยังคงมีอยู่และซอกซอนไปทุกมิติของสังคม
เพราะเสียงระเบิดไม่เพียงคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์
หากยังก่อให้เกิดคลื่นแห่งความวิตกกังวลต่อผู้คนในสังคมโดยถ้วนหน้า
และ ทำลายเกียรติภูมิประเทศที่มี ภาพลักษณ์สันติและปลอดภัยลงโดยสิ้นเชิง

ท่ามกลางความสับสนจากเหตุการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
หนึ่งในหลายๆคำถามที่ดังไล่หลัง ตามความกังวลต่อชีวิตและทรัพย์สิน คือ
เศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบขนาดไหน และอย่างไร !!!
เพราะในช่วงไม่ถึง 6 เดือนที่ผ่านมาความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยถูกกระหน่ำจากเหตุการณ์หนักๆมาแล้วถึง 3 ครั้ง

- หนึ่ง การรัฐประหารในคืนวันที่ 19-9-49
- สอง การออกมาตราการกันสำรองเงินทุนนำเข้า 30 % ของแบงก์ชาติเมื่อ 18-12-49
- และสาม การก่อวินาศกรรมกลางกรุงเมื่อคืนวันที่ 31-12-49

ทั้งนี้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีนี้หรือ ปี 2550
ถูกคาดการณ์จากสถาบันทางเศรษฐกิจทั้งของรัฐและเอกชนด้วยมุมมองที่ไม่เลวร้ายนัก
ทุกสำนักฯมองคล้ายกันว่าโอกาสที่เศรษฐกิจจะเติบโต 5 % นั้นไม่ยาก
แม้ผ่านเหตุการณ์รัฐประหาร และมีปัจจัยเสี่ยงรุมเร้าอีกมากมาย
และหลายฝ่ายหวังกันลึกๆว่าเมื่อผ่านครึ่งปีแรกไปแล้ว
เมื่อทิศทางคืนสู่ระบบประชาธิปไตยชัดเจนจาก ร่างรัฐธรรมนูญใหม่
การลงทุนโดยตรงขนาดใหญ่ที่ เวทแอนด์ซี มาระยะหนึ่งแล้วจะเริ่มขยับตัว
ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักผลักให้เศรษฐกิจเติบโตมากกว่าที่คาดกันไว้

หากภาพดังกล่าวกำลังถูกทบทวนอีกครั้ง หลังเกิดวินาศกรรมกลางกรุงในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2549
เพราะความเชื่อมั่นกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว !!!!!

 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#1 วันที่: 07/01/2007 @ 15:39:29 : re: ชีพจรเศรษฐกิจ หลัง วินาศกรรม
จับชีพจรเศรษฐกิจ[/color:375b544e33">[/size:375b544e33">

ตลาดหุ้นที่เปรียบเหมือนเกย์วัดความเชื่อมั่นของระบบ
ผันผวนอย่างที่สุด หลังเปิดตลาดรับศักราชใหม่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่าน
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ลดลงต่อเนื่องตลอด 3 วันทำการ
โดยเฉพาะวันศุกร์(5มกราคม 2550) ถูกซ้ำเติมจากข่าวรัฐประหารซ้อน
กดดัชนีลงมาอยู่ที่ 628.19 จุดลดลง 20.03 จุด และยังมีคำสั่งรอขายอีกเพียบ

ทางด้านตลาดเงิน เงินบาทไม่ได้ผันผวนตาม เสียงระเบิด
โดยค่าบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ นับแต่วันที่ 3 มกราคมกระทั่งตลาดปิดวันศุกร์ที่ 5 มกราคม
เคลื่อนไหวระหว่าง 35.95-36.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือว่าปกติ

สำหรับเศรษฐกิจศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค แบงก์กรุงเทพ
แยกผลกระทบจากเหตุการณ์ ก่อวินาศกรรม ออกเป็น 2 ส่วนคือ
ผลกระทบระยะสั้น และผลกระทบระยะยาว

ส่วนผลกระทบระยะสั้นนั้นแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักคือ
การใช้จ่ายภาคเอกชน การลงทุนในตลาดหุ้น และ การท่องเที่ยว
การใช้จ่ายที่สำคัญที่สุดได้แก่การใช้ จ่ายภาคเอกชน ทั้งการลงทุน และกาบริโภค
ซึ่งรวมกันแล้วมีสัดส่วนสูงกว่า 70 % ของจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ)
บทวิเคราะห์ดังกล่าวระบุ

ด้านภาคการท่องเที่ยว ดร.สุวิทย์ ยอดมณี
รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวอย่างมั่นใจว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลต่อ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวระยะสั้นช่วง 1-2 เดือนเท่านั้น
การยกเลิกจากนักท่องเที่ยวมีน้อยมากไม่ถึง 5 %

ในมุมเดียวกัน ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย
ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
หรือ ศูนย์พยากรณ์ฯ ได้แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ 5 มกราคม ทีผ่านมาว่า

ศูนย์พยากรณ์ฯได้ปรับลดค่าคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจ
ไตรมาสแรกจากเดิมคาดไว้ 4 % เหลือ 3.5 %
เขาระบุว่าจากการประเมินเบื้องต้น ภาคการท่องเที่ยว ช่วงไตรมาสแรกลดลงประมาณ 20,000 ล้านบาท
การบริโภคและการลงทุนหายไปประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท

จับชีพจรเศรษฐกิจตามข้อมูลข้างต้นแล้ว ตลาดหุ้นเข้าข่ายโคม่า
ส่วนเศรษฐกิจภาพรวมหากเหตุการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดี
และรัฐบาลสามารถจับผู้อยู่เบื้องหลังได้ ผลที่เกิดขึ้นจะอยู่ในแวดวงจำกัดแบบช่วงสั้นๆ
ซึงตีค่าตามระบบเศรษฐกิจจะไม่ต่ำกว่า 40,000-50,000 ล้านบาท
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#2 วันที่: 07/01/2007 @ 15:52:10 : re: ชีพจรเศรษฐกิจ หลัง วินาศกรรม
จับตาระยะยาว[/color:f09e488a39">[/size:f09e488a39">

อย่างไรก็ดีแม้หลายฝ่ายปลอบใจตัวเองว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะจบลงโดยเร็ว
และ จะส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจในระยะสั้นซึ่งถือเป็น ความเสี่ยงที่ยังรับมือได้
หากอีกด้านหนึ่งแล้วทุกฝ่ายยังคงกังวลอยู่ลึกๆว่า เหตุการณ์อาจลุกลามไปมากกว่านี้อีก!!!

ปัจจัยที่จะบ่งชี้ว่า วงของเหตุการณ์จะขยายวงไปมากกว่านี้หรือไม่[/size:f09e488a39">

- หนึ่ง ต้นตอของเหตุการณ์เกี่ยวโยงกับการก่อการร้าย
ไม่ใช่กลุ่มอำนาจเก่าดังที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี
และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)
และ ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้น้ำหนักไว้เต็มร้อย

- สอง การก่อวินาศกรรมเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการช่วงชิงอำนาจคืน
ของกลุ่มที่สูญเสียผลประโยชน์จากการรัฐประหารเมื่อปีที่ผ่านมา
ไม่ใช่ก่อกวนแบบชั่วคราวเพื่อระบายอารมณ์แสดงความไม่พอใจ
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#3 วันที่: 07/01/2007 @ 16:01:40 : re: ชีพจรเศรษฐกิจ หลัง วินาศกรรม
ในกรณีที่ผลกระทบขยายวงและจะส่งผลกระทบในระยะยาว
สถาบันต่างๆมองไว้ดังนี้[/color:6baa1a6a45">[/size:6baa1a6a45">

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค แบงก์กรุงเทพ มองว่า
หากสถานการณ์ยังไม่ยุติและรุนแรงขึ้น
จนมีผลกระทบต่อการใช้จ่ายของภาคประชาชน การลงทุนจากต่างประเทศ และการท่องเที่ยว
อาจจะทำให้ขนาดเศรษฐกิจหายไป 0.5-1 %
และทำให้จีดีพีปี 2550 ขยายตัวระหว่าง 3 ?4.5 % เท่านั้น


ส่วน บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ไม่ได้ฟันธงเป็นตัวเลข แต่บอกว่า...

ผลกระทบจะต่อเนื่องไปอีกยาวนานเพียงใดนั้น
คงขึ้นอยู่กับสัมฤทธิ์ของการจัดการของภาครัฐบาลที่ต่อปัญหาที่เกิดขึ้น
ในการหยุดยั้งไม่ให้เหตุการณ์ความรุนแรงไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก


ด้วยเหตุ แห่งผล และเงื่อนไขข้างต้น
ชีพจรเศรษฐกิจหลังคืนวันวินาศกรรม จึงผูกโยงกับความมั่นคงอย่างแนบแน่น
หากความมั่นคงบกพร่องเสถียรภาพเศรษฐกิจย่อมมีปัญหาตามในลักษณะโดมีโน

ฉะนั้นภาระปกป้องบรรยากาศให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปตามที่ทุกฝ่ายคาดหวัง
คือ เติบโตจากปีก่อนหน้า 5 % เป็นอย่างน้อย
ย่อมเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่มี พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
และพล.อ.สนธิ หัวหน้า คมช.ที่สังคมเรียกร้องอยากเห็นความเด็ดขาด
กระชากหน้ากาก ผู้อยู่เบื้องหลัง ก่อภัยใหม่ต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์มาลงโทษโดยเร็ว.




ที่มา ฐานเศรษฐกิจ ( 07 - 10 ม.ค. 2550 )
 กลับขึ้นบน
innocent
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 729
#4 วันที่: 07/01/2007 @ 19:20:59 : re: ชีพจรเศรษฐกิจ หลัง วินาศกรรม
[b:4ad1c274b9">ขอให้กระชากหน้ากากได้จริง ๆ เถอะ ... .000004

หึหึ....สงสัยจะรอเก้อ..... .000003 [/color:4ad1c274b9">[/b:4ad1c274b9">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com