April 29, 2024   1:23:25 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กระซิบหน้าจอ
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 05/01/2007 @ 11:12:28
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

SET Index
วันพฤหัสบดีที่ 4 ม.ค. ปิดที่ 648.22 จุด ลดลง 11.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 12,910 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 622.31 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิที่ 314.99 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิที่ 937.30 ล้านบาท ปัจจัยความรุนแรงที่เกิดขึ้นกลางกรุงยังคงเป็นประเด็นหลักที่กดดันสภาวะของตลาดหุ้นในตอนนี้ ทั้งเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในวันส่งท้ายปีและยังมีการขู่วางระเบิดตามมาอีกทั่วเมือง ทำให้ Standard & Poor เตรียมทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของไทย บอกได้ว่าตลาดหุ้นไทยยังไร้ปัจจัยบวกใดใดในช่วงนี้เพราะปัจจัยลบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นยังไม่คลี่คลาย แถมยังซ้ำเข้ามาอีกราคาน้ำมันโลกก็เริ่มผันผวนอีกระลอกเนื่องจากมีรายงานว่าสภาพอากาศในตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ อบอุ่นขึ้น ทั้งค่าเงินบาทเริ่มที่จะแข็งค่าขึ้นอีกรอบ เหตุการณ์ที่บั่นทอนสภาพตลาดที่เกิดขึ้นส่งผลให้ตลาดไทยมี P/E ที่ลดลงเหลือราว 8 เท่าซึ่งยังไม่ถือว่าเป็นระดับที่ปลอดภัยนัก เมื่อเทียบกับความเสี่ยงภายในประเทศดังกล่าวข้างต้น SET Index ในช่วงครึ่งวันเช้าวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ นักลงทุนหันเก็งกำไรหุ้นเล็ก พักการลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ส่วนการซื้อขายในภาคบ่ายได้มีกระแสข่าว การวางระเบิดที่แบงค์กรุงเทพ ซึ่งทางแบงค์ก็ออกมาปฏิเสธกับข่าวที่เกิดขึ้น แต่ก็ทำให้หุ้นธนาคารสถาบันต่าง ๆ มีแรงขายค่อนข้างมากโดยเฉพาะหุ้นแบงค์กรุงเทพ กรุงไทย และกรุงศรีอยุธยา กดดัชนีให้ทรุดลงหนักในการซื้อขายรอบบ่าย แต่อย่างไรก็ตามเห็นว่าทางตลท. และ สภาธุรกิจตลาดทุนไทยก็มิได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด (เหมือนไฟลนก้น) รีบนัดหารือกับโบรกต่างชาติรายใหญ่ๆมาเป็นวันจันทร์ที่ 8 มกราคมนี้

ETG
ราคาเปิด 5.25 บาท ราคาปิด 5.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 58.03 ล้านบาท ผู้บริหารของ ETG เปิดเผยว่า...ในปี 2550 ETG มีแผนที่จะขยายพื้นที่ให้บริการไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งงบประมาณการลงทุนในปีหน้าไว้ที่ 50-60 ล้านบาท และมีการใช้พลังงานทดแทนเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน ตั้งเป้ารายได้ของปี 2550 ไว้ที่ 1,300 ล้านบาท ส่วนธุรกิจโลจิสติคส์ ETGยังไม่ได้ดำเนินการ แต่ไม่ต้องใช้งบประมาณการลงทุน ถือเป็นการต่อยอดจากธุรกิจที่ดำเนินการในปัจจุบัน เพื่อให้การบริการครอบคลุม และลูกค้าสามารถเลือกการบริการได้ คาดว่าจะชัดเจนในQ2/50 นอกจากนี้ทาง ETG จะมีรายได้ที่ผูกสัมพันธ์กับศุลกากรในการนำเข้าและส่งออก ทำให้เติบโตได้ทั้ง 2 ขา ประกอบกับราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตั้งแต่ Q4/49 ต่อเนื่องมาถึง Q1/50 รวมทั้งยังปัจจัยเรื่องภาษีที่เพิ่มขึ้นหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ K.KRAZIP มองว่าการที่ ETG จะขยายงานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน น่าจะเป็นผลดีที่จะเป็นผู้นำตลาดในภูมิภาคเอเชียก่อน ด้วยต้นทุนที่ถูกกว่า และมีลูกค้าที่แน่นอน จึงยังมีโอกาสเติบโตได้ แต่น่าจะยังไม่สามารถสร้างรายได้กับบริษัทมากนัก ส่วนเรื่องของบริการใหม่นั้นอาจจะเป็นการขนส่งทางเรือ หรือระบบราง ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ ซื้อ แนวรับ 5.25 บาท แนวต้าน 6 บาท

ASCON
ราคาเปิด-ปิด 11.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 47.09 ล้านบาท ASCON จัดเป็นหุ้นรับเหมาที่มีการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิในปี 2550 ในระดับสูง ASCON ยังคงมีแนวโน้มที่ดี โดยหากดูจากงานมือก็เชื่อว่าจะทำให้รายได้ในปี 2550 เติบโตอย่างก้าวกระโดดหรือเติบโตประมาณ 80% อย่างที่บริษัทฯเคยประมาณการณ์ไว้ได้ โดยจะมาจากงานในมือที่ไม่ได้รวมงานใหม่ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/49 จะอยู่ที่ 3,400 ล้านบาท ซึ่งจะมีการรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 4/49 จำนวน 400 ล้านบาท และจะรับรู้รายได้ในปีหน้าจำนวน 2,000 ล้านบาท และอีก 1,000 ล้านบาทจะรับรู้รายได้ในปี 2551 และประเด็นงานโครงการเวียดนามมูลค่า 4 พันล้านบาท ที่ASCON มีโอกาสได้งานค่อนข้างมากและจะทราบผลได้ภายใน Q1/50 K.KRAZIP มองว่า ASCON แนวโน้มราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในระยะสั้น ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ ซื้อ มีแนวรับที่ราคา 11.50 บาท แนวต้านที่ราคา 12.30 บาท

BAFS
ราคาเปิด-ปิด 10.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3.41 ล้านบาท เดือนธันวาคมปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานโตถึง 6.4% แต่ในส่วนของบริษัทลดลง 3% yoy โดยบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดที่สนามบินสุวรรณภูมิในช่วง 3 เดือนแรกตั้งแต่เปิดบริการอยู่ที่ 91% จากผลดังกล่าวทำให้ปริมาณการให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานในไตรมาส 4/49 ของบริษัทลดลง 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากพิจารณาปริมาณการให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานทั้งปีในปี 2549 ก็ยังเติบโตขึ้น 2.4% จากปี 2548 ดังนั้นคาดว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผลในครึ่งปีหลังได้อีก 0.30 บาท/หุ้น หลังจากที่ได้จ่ายเงินปันผลในครึ่งปีแรกไปแล้ว 0.20 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนทั้งปีที่ 4.9% ราคาหุ้นปัจจุบันที่ลดลงมาตามภาวะตลาดฯ สวนทางกับปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้นของบริษัท ทั้งในด้านของปริมาณการให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ที่คาดว่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องจากการย้ายสนามบินใหม่, เงินบาทที่มีโอกาสอ่อนตัวระยะสั้นจากมาตราการของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งส่งผลดีต่อรายได้ของบริษัทและผลกำไรที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นในปีนี้ K.KRAZIP แนะนำ ซื้อ แนวรับที่ 10.00 บาท แนวต้านที่ 10.70 บาท

BEC
ราคาเปิดที่ 20.50 บาท ราคาปิดที่ 19.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 256.19 ล้านบาท จากการที่บริษัทได้ยกเลิกงานเคาต์ดาวน์ส่งท้ายปี 2549 ที่จะจัดขึ้นบริเวณลานหน้าห้าง เวิลด์ เทรด ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 49 ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิด 8 จุดทั่วกรุงเทพฯ ทางบริษัทฯกล่าวว่าไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว เนื่องจากมูลค่าการเสียหายไม่มากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ในแต่ละไตรมาส ส่วนในปี 2550 มั่นใจว่ารายได้ของบริษัทฯ คงจะขยายตัวตามที่ประมาณการไว้ที่ 10-20% เพราะ ธุรกิจบันเทิงยังคงมีอัตราการเติบโตในทิศทางที่ดี รวมทั้งยังมีเม็ดเงินจากอัตราค่าโฆษณาเข้ามาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย โดยเฉพาะรายได้จากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ในขณะที่ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV มีการปรับผังรายการใหม่ โดยมีสัดส่วนข่าว 70% และบันเทิง 30% ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับอานิสงส์เพราะทำให้ประชาชนหันมาดูรายการบันเทิงของบริษัทฯ มากขึ้น และส่งผลให้มีเม็ดเงินโฆษณาไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง K.KRAZIP แนะนำ ทยอยสะสม โดยมีแนวรับที่ 19.00 บาท[/color:2b554ad85c">

ที่มา ทันหุ้น
.000005 .000005

 กลับขึ้นบน
อลันจัง
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 73
#1 วันที่: 05/01/2007 @ 14:59:56 : re: กระซิบหน้าจอ
เกิดระเบิด ขึ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ แล้วครับ โดยผู้ก่อการร้าย ออกปล้น ล่าสดมมีผู้บริสุทมาก มายตกเป็น เหยื่อ มีผู้บาดเจ็บ ล้มตายจำนวนมากต้องการหน่วยกู้ภัย ตำรวจ และ พยาบาล ให้ความช่วยเหลือด่วน
.0002 ซึ่งเหตุระเบิดครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดความเสียหาย มูลค่า หลายล้านดอลล่า สหรัฐ .000012
.000c
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com