May 14, 2024   9:35:37 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เวิร์คพอยท์" หุ้นปันผล เถ้าแก่ "ปัญญา นิรันดร์กุล&
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 30/12/2006 @ 20:29:06
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เปิดกรุปันผล เสี่ยตา-คู่หู 2 ปีรับกว่า 430 ล้านบาท จับตาปี 2550 แม้ เวิร์คพอยท์ ต้องตัดค่าเสื่อม สตูดิโอ 35-40 ล้านบาท แต่ ซีเอฟโอ ยืนยัน..ปันผลจะสูงกว่าเดิม



ความมั่งคั่งของ เสี่ยตา ปัญญา นิรันดร์กุล ประธานกรรมการ บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ กับ คู่หู ประภาส ชลศรานนท์ รองประธานกรรมการ ที่ถือหุ้นเท่าๆ กัน นับวันยิ่งทวีมากขึ้น

หากมองผ่านราคาหุ้นล่าสุด ที่ 21.80 บาท จะมีค่ารวมกัน สูงถึง 3,240 ล้านบาท เลยทีเดียว

เบื้องหลังความสำเร็จของ 2 เสี่ย ในวงการบันเทิง มีกุนซือทางการเงิน ครรชิต ควะชาติ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) อยู่ฉากหลัง

การเดินเกมของ ซีเอฟโอ เวิร์คพอยท์ รายนี้ คือการตอกย้ำภาพลักษณ์ให้ เวิร์คพอยท์ เป็น Growth Stock ที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้ส่งผล วกกลับมาที่ ราคาหุ้น แล้วก็ได้ผลอย่างที่ตั้งใจ

นับตั้งแต่เข้าตลาด เมื่อ 29 กันยายน 2547 เวิร์คพอยท์ ปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 5 ครั้ง รวม 2.90 บาท

เฉพาะ เสี่ยตา กับ ประภาส ที่ถือหุ้นรวมกัน กว่า 148 ล้านหุ้น หรือ 74.25% รับเงินปันผลแล้ว กว่า 430 ล้านบาท หรือคนละประมาณ 215 ล้านบาท

นี่ยังไม่นับรวมผลตอบแทนในฐานะผู้บริหารของบริษัท ที่ได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า คนละ 6.8 ล้านบาทต่อปี ในส่วนของ เสี่ยตา ยังมีรายได้ในฐานะพิธีกรรายการหลักๆ ที่คาดว่าได้รับอีกปีละ หลายสิบล้านบาท

มือการเงินเวิร์คพอยท์ กล่าวว่า ตามนโยบายเราจะปันผลประมาณ 70% ของกำไรสุทธิ (Pay out ratio) แต่ครึ่งปีที่ผ่านมาปันผลไปแล้วกว่า 80% ของกำไรสุทธิ และมีแนวโน้มที่จะจ่ายเพิ่มขึ้นอีก

แม้ว่าในปี 2550 จะเป็นปีแรกที่ เวิร์คพอยท์ จะต้องหักค่าเสื่อมของ สตูดิโอ ใหม่ ที่บริษัทลงทุนด้วยเม็ดเงิน กว่า 300 ล้านบาท

ตามเกณฑ์แล้ว จะต้องตัดค่าเสื่อมของ ?สตูดิโอ? ปีละ 35-40 ล้านบาท โดยปี 2550 จะตัดตามเกณฑ์ดังกล่าว หลังจาก ปี 2549 ตัดค่าเสื่อมไปเพียง 3 เดือน (ตุลาคม-ธันวาคม) เท่านั้น

ทั้งนี้ยอมรับว่า ค่าเสื่อม จะเป็นปัจจัยที่กดดันตัวเลขกำไรสุทธิ ในปีหน้าของบริษัท แต่นั่นเป็นเพียงตัวเลขทางบัญชี เม็ดเงินจริงยังอยู่ เพราะได้ใช้เงินลงทุนกับสตูดิโอใหม่..ไปหมดแล้ว

ซีเอฟโอเวิร์คพอยท์ บอกว่า ในปีหน้าการลงทุนใหญ่ๆ จะไม่มี ดังนั้น Pay out ratio ในปี 2550 จะสูงมากขึ้น

อย่างไรก็ตามในปีหน้าบริษัทจะเริ่มเปิดให้เช่าสตูดิโอ เพื่อเสริมรายได้อีกทางหนึ่ง คาดว่าปีแรกจะมีรายได้ในส่วนนี้ ประมาณ 10 ล้านบาท

เราจะพยายามสร้างรายได้จากสตูดิโอเพิ่มขึ้น ซึ่งการมีสตูดิโอเอง ลดค่าใช้จ่ายค่าเช่าได้ปีละ 10 ล้านบาท คุณอย่าลืมว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ ลงทุนไปหมดแล้ว แต่หากสามารถให้เช่าได้ จะมีรายได้มากขึ้น

สำหรับรายได้หลักจากธุรกิจโทรทัศน์ ในช่วงต้นปี 2550 เวิร์คพอยท์ จะปรับอัตราค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 8-10% ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนนาทีโฆษณา 215 นาที

ผู้บริหารบริษัทคาดว่า ในปีหน้าจะมีจำนวนนาทีโฆษณาเพิ่มขึ้น ประมาณ 20% หรืออีก 40-50 นาที โดยจะได้ขยายเวลาเพิ่มในรายการเดิม 1 รายการ คือ แฟนพันธุ์แท้ (ออกอากาศทุกวันศุกร์ ช่อง 5) ขยายเพิ่มอีก 30 นาที

และจะมีรายการใหม่เพิ่มขึ้นมา 1 รายการ คือ รายการมหานคร ทางช่อง 7 ออกอากาศทุกวันอังคาร ในช่วงเวลา ไพร์มไทม์ รวมเวลา 2 ชั่วโมง โดยลักษณะรายการจะเป็นวาไรตี้ ลงทุนร่วมกับ มีเดีย ออฟ มีเดียส์ และกำลังทำรายการเสนอช่อง 9 ด้วย

แต่บริษัทก็จะคืนเวลาของรายการ Asian Box (ออกอากาศวันพุธทางช่อง 5 เวลา 23.00-23.30 น.) ซึ่งมีอัตราการโฆษณาเข้าน้อย เนื่องจากออกอากาศชนกับรายการ ชิงร้อยชิงล้าน

ครรชิต บอกว่า แม้จะปรับอัตราโฆษณาเพิ่ม แต่ก็จะพยายามเพิ่มอัตราการโฆษณาต่อช่วงเวลาโฆษณาที่มีทั้งหมด (Utilization rate) ให้มากขึ้น คือ 75% หลังจากไตรมาส 3 ตกลงเหลือ 72% จากผลกระทบการงดโฆษณา เหล้าเบียร์

นอกจากนี้ เวิร์คพอยท์ ยังจะเร่งกลยุทธ์การโฆษณาแฝง (Tie-in) เข้าไปในรายการที่เป็นที่นิยม เช่น ทรูมูฟ ในรายการ ชิงร้อยชิงล้าน, โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ใน รายการ ชัยบดินทร์ บลู ด้วย

ผมเชื่อว่า เราสามารถเพิ่มได้ แม้ปีหน้าทิศทางเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน แต่สำหรับอุตสาหกรรมโฆษณาทางทีวี จากผลสำรวจของ นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช มีประมาณ 5 หมื่นล้านบาท เรามองว่าอาจจะเป็นเม็ดเงินจริง ประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท

เวิร์คพอยท์ มีโฆษณาเข้า ปีละ 1,000 ล้านบาท คิดเป็นไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของตลาดรวม เป้าหมายของเรา หวังการเติบโตไว้ 20% ซึ่งยังไม่รวมรายได้จากการ Tie-in นะ

ในส่วนธุรกิจภาพยนตร์ ในปี 2550 จะร่วมกับ บริษัท สหมงคลฟิล์ม ผลิตหนัง 2 เรื่องคาดว่าจะใช้งบลงทุนเฉพาะของบริษัท ประมาณเรื่องละ 25 ล้านบาท โดยเรื่องแรก คือ เท่ง โหน่ง คนมหาเฮีย จะฉายเดือนพฤษภาคม 2550

ส่วนอีกเรื่องคาดว่าจะฉายในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะมี น้องเดียว ร่วมแสดง บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้จาก 2 เรื่อง ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

ความจริงเราจะไม่เน้นการผลิตภาพยนตร์มาก เพราะถือว่ามีความเสี่ยง ถ้าเรื่องไหนไม่โดน ก็คือ จบ ไม่เหมือนรายการโทรทัศน์ที่พัฒนาให้ดีขึ้นได้ แต่ทุกเรื่องที่เราลงทุน แสดงว่ามั่นใจว่า ต้องได้กำไร

เขายังเปิดเผยด้วยว่า ในปีหน้า เวิร์คพอยท์ จะรุกธุรกิจจัดงานอีเวนท์มากขึ้น อาศัยธีมรายการของบริษัท เช่น ธีมชิงช้าสวรรค์ ก็จะคล้ายกับการจัดงานวัด เป็นต้น

ทั้งนี้ เวิร์คพอยท์ ได้ตั้งงบลงทุนในปี 2550 ไว้ประมาณ 70-80 ล้านบาท และตั้งเป้าให้สัดส่วนกระจายมากขึ้น โดยจะมาจากรายการโทรทัศน์ 80% ภาพยนตร์ 10% อีเวนท์ 5% และธุรกิจแอนิเมชันอีก 5%

***************************************

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com