May 14, 2024   5:22:33 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ลาทีปีจอ....เพียงพอปีกุน ?
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 27/12/2006 @ 13:49:15
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยระยะสั้นยังคงซบเซาเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนเนื่องจากภาวการณ์ลงทุนโดยรวมยังไม่เป็นใจและตลาดหุ้นไทยยังคงเผชิญความเสี่ยงจาก
?การดำเนินนโยบาย?ของทางการทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งขาดความมั่นใจในการลงทุนระยะสั้นส่งผลให้ภาวการณ์ซื้อขายโดยรวมซบเซาและดัชนีราคาหุ้นเคลื่อนไหวแคบๆ ในกรอบ 670 -700 จุดเพื่อประคองทิศทางระยะสั้นก่อนสิ้นปี

ภาพการลงทุนตลอดปี 2549 ตลาดหุ้นไทยยังคงเผชิญกับปัญหาต่าง ๆแทบทั้งปีเริ่มตั้งแต่สถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มสัญญาณไม่ดีตั้งแต่ปลายปี2548 ต่อเนื่องจนกระทั่งต้นปี 2549 ที่ภาพการลงทุนโดยรวมเป็นเพียงการ
?ทรงกับทรุด? เนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง โดยเฉพาะ กรณี ?ทักษิณ ? สนธิ? โดยบรรยากาศค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อใกล้พระราชพิธีฉลองครองราชย์ครบ 60 พรรษาหลังจากนั้นสถานการณ์ทางการเมืองไม่ดีขึ้นและนำไปสู่การรัฐประหารในที่สุด

ระหว่างปีภาวะตลาดหุ้นโดยรวมยังได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ถีบตัวสูงขึ้นจนทำให้ภาวะเงินเฟ้อรุนแรงสถานการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยภายในและต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้นซึ่งทำให้ตลาดหุ้นไทย
?ล้าหลัง? ตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั้งในยุโรป เอเชีย และอเมริกาซึ่งส่วนใหญ่เป็นตลาดหุ้นขาขึ้นแบบสมบูรณ์แบบ แต่ตลาดหุ้นไทยยังคง?ไม่รู้ร้อนรู้หนาว? กับแนวโน้มของตลาดหุ้นโลกตรงกันข้ามดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์กลับลงด้วยซ้ำ โดยเฉพาะก่อนสิ้นปีธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศนโยบายการเงินเพื่อปกปัองค่าเงินบาททำให้ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่ค่อยดีอยู่แล้วเกิดอาการ?ดิ่งเหวถอยหลังเข้าคลอง? ชนิดรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เพราะระหว่างชั่วโมงดัชนีดิ่งกว่า 142 จุดก่อนจะปิดตลาด ซึ่งติดลบเพียง 108 จุด แต่ก็นับว่าเป็นการสร้างสถิติแย่ที่สุดสำหรับตลาดหุ้นที่ฐานของดัชนีอยู่ที่ระดับหลัก 700 จุดเท่านั้น

ปรากฏการณ์ที่น่าเป็นห่วงสำหรับตลาดหุ้นไทยอีกอย่างหนึ่งคือ ปรากฏการณ์เกี่ยวกับความพยายามในการลงโทษผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉพาะกรณีของ PICNI และกรณีอื่น ๆ เช่น BBC ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า
?สภาพมวยล้มต้มคนดู? นั้นยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องสำหรับตลาดหุ้นไทย เพราะทางการไม่สามารถจัดการกับปัญหาได้อย่างทันท่วงที และปล่อยให้มีการ?ใช้ช่องกฎหมายเอาประโยชน์จากประชาชนอย่างซึ่ง ๆ หน้า
โดยไม่สามารถหาหลักฐานหรือชี้นำให้นำคนกระทำผิดมาลงโทษได้? ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า
?การดำเนินการทางกฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นไม่ทันเกม ไม่ทันเวลา และไม่สามารถประยุกต์ข้อกฎหมายให้นำคนผิดมาลงโทษได้ และไม่สามารถอายัดทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่สุจริตให้กลับคืนที่ ๆ ควรจะเป็นได้? ถามว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการและขั้นตอนเกี่ยวกับความยุติธรรมของประเทศไทย

เป็นที่น่าสังเกตว่า ?ข้อกฎหมาย? ส่วนหนึ่งเปิดช่องให้มีการกระทำผิดโดยอาศัยช่องว่างของกฎหมายเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์และสร้างความเสียหายให้เป็นต้นทุนทางสังคมที่แพงขึ้นขณะที่การดำเนินการหาผู้กระทำผิดมาลงโทษนั้น เป็นไปอย่าง ?เชื่องช้า? ทั้งนี้เพราะปัญหาเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจและตลาดหลักทรัพย์นั้นยังขาดผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจังเพราะกระบวนการต่าง ๆ มีความซับซ้อนเกินความเข้าใจของผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบและกว่าเรื่องราวจะสิ้นสุดปรากฎว่าคนที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาตินั้นเอาเงินและทรัพย์สินไปเล่นแร่แปรธาตุจนมองไม่เห็นสภาพเดิมซึ่งคาดว่าปัญหาเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยและทำให้ประเทศไทยยังคง?ล้าหลัง? เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆซึ่งพัฒนาและแซงนำหน้าประเทศไทยไปประเทศแล้วประเทศเล่า

และที่สำคัญคือประเทศไทยยังคงเผชิญกับการบริหารประเทศประเภทที่เรียกว่า?แตะตัดขา? ทำให้การเมืองไทยอยู่ในภาวะที่ไม่พัฒนา และใช้เวลาในการ ?ต่อรองกัน? แทนที่จะช่วยกันพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า
ปัญหาการเผาโรงเรียนในภาคอีสาน ปัญหาในภาคใต้และปัญหาทุจริตคอรัปชั่นแอบแฝงรูปแบบต่าง ๆ ได้กลายเป็น ?ลูกตุ้มถ่วง? ความเจริญของประเทศชาติ ทางรัฐบาลและ ค.ม.ช. ควรจะมีบทลงโทษกับบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการกระทำเหล่านี้ ชนิดที่?ไม่ได้กลับบ้านไปหาลูกเมีย? เพราะคนเหล่านี้นอกจากไม่สร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับประเทศชาติแล้วยังสร้างปัญหาให้ประเทศชาติและเด็กนักเรียนตัวเล็กๆที่ต้องการการเรียนรู้และการพัฒนาทางการศึกษาเพื่อกลับมาตอบแทนประเทศชาติและประชาชน

ที่กล่าวมาอาจจะไม่ใช่ประเด็นเกี่ยวกับตลาดหุ้น 100% แต่คาดว่าส่วนหนึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยไปไม่ถึงดวงดาวหากเปรียบเทียบกับอินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ซึ่งสภาพไม่ค่อยต่างจากประเทศไทยปรากฏว่าเห็นดัชนีของเขาขึ้นแล้วเราใจหายวูบเพราะของเรานอกจากไม่ขึ้นแล้วยังอยู่ในสภาพ?ถดถอย? ด้วยซ้ำ เพราะดัชนีปีที่แล้วปิดที่ระดับ 713 จุด แต่ดัชนีปัจจุบันของไทยอยู่ที่ระดับ 686 จุด(14.22น 26/12/2006) ซึ่งถามว่าตลาดมีโอกาสฟื้นไปปิดที่ดัชนีเหนือ 700 จุดหรือไม่คาดว่ายังเป็นคำตอบที่คนไม่กล้าพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำเพราะมองไปทางไหนแล้วยังไม่เห็นการดำเนินนโยบายในเชิงสนับสนุนให้ตลาดหุ้นมีการพัฒนาขึ้นแต่อย่างใด

เอาเป็นว่าตลาดหุ้นยามนี้ ลงทุนกันแบบฉาบฉวยและเอาตัวรอดไปวัน ๆ ยังไม่แน่ใจว่าจะอยู่รอดไปวัน ๆ หรือไม่
ดังนั้นกลยุทธ์ยังคงเน้นการถือครองเงินสดและเก็งกำไรระยะสั้น ๆ เพราะตลาดหุ้นยังขาดปัจจัยหนุนที่ชัดเจน
สำหรับหุ้นที่อยู่ในข่ายเก็งกำไรที่น่าติดตาม เช่น APURE ASP BSEC GBX KEST NWR SYNTEC TGCI เป็นต้น ส่วนเกรดลงทุนยังหน้าเดิม BBL PTTEP PTT SCB KBANK KTB เป็นต้น


.00020 [/color:55f89b8871">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com