Puu
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476 |  วันที่: 27/12/2006 @ 08:59:30 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต *ทันทีที่มีข่าวออกมาว่า บมจ.เอเชียน ไฟย์โตซูติคอล ซึ่งประกอบธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามจากสมุนไพรธรรมชาติ ยกเลิกแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) เพราะเข้าตลาดไม่ทันปีนี้ รวมทั้งไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ภาษี ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นก็ไม่เอื้อต่อการระดมทุน ถือเป็นลางร้ายที่ทำให้ โมนิก้า ถึงกับทรุดลงไปกองอยู่กับพื้น
*เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นบรรทัดฐานให้บริษัทอื่นๆ เอาเป็นแบบอย่าง เพราะมองว่า เข้าตลาดหุ้นในตอนนี้ก็คงไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ รวมทั้งคำให้สัมภาษณ์ของ นายศฤงคาร สุทัศน์ชูโต กรรมการบริหาร บมจ.เอแคป แอ๊ดไวเซอรี ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินที่บอกว่า เอเชียน ไฟย์โตฯ คงยกเลิกแผนเข้าระดมทุนในตลาดเอ็มเอไอ พร้อมกับหันไประดมทุนทางอื่นเป็นการทดแทน เช่น การเพิ่มทุน หรือการขอสินเชื่อจากธนาคารเป็นการทดแทนแบบนี้
*โมนิก้า คงต้องกลับไปหัดร้องเพลง ไอ้หวังตายแน่...ตายแน่ไอ้หวัง...เป็นการด่วน เพราะถ้อยคำชี้แจงข้างต้นสื่อความหมายเป็นนัยให้รู้ว่า ในอนาคตจะมีบริษัทขนาดเล็กเข้ามาจดทะเบียนน้อยลงเรื่อยๆ และสุดท้ายจะไม่ใครให้ความสำคัญอีกต่อไป ซึ่งความคิดดังกล่าวเป็นความคิดที่ผิดมหันต์นะจะบอกให้
*นี่จึงเป็นลางร้ายส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่แสบสันต์เกินจะพรรณาได้นะเนี่ย
*โชคดีที่คุณพี่สุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการสายงานกำกับองค์กร และส่งเสริมบรรษัทภิบาล ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ) ออกมาสร้างความมั่นใจกับนักลงทุนว่า ปี 2550 จะเน้นการพัฒนาให้ผู้ถือหุ้นและบริษัทจดทะเบียนให้ความสำคัญกับสิทธิของผู้ถือหุ้น
*รวมทั้งสนับสนุนให้กรรมการบริษัทจดทะเบียนมีความรู้ความเข้าใจในบทบาทของตนมากขึ้น และผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนมีหน่วยงานที่ดูแลงานด้านนักลงทุนสัมพันธ์โดยเฉพาะ
เพื่อให้บริษัทจดทะเบียนสามารถสื่อสารข้อมูลกับผู้ถือหุ้นและบุคคลภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นข่าวที่สร้างขวัญและกำลังใจให้กับคนในแวดวงตลาดทุนได้เป็นอย่างดี
*เนื่องจากตลาดหุ้นในปี 2549 ถูกใส่ร้ายป้ายสีว่าไม่ดีอย่างโน้น ไม่ดีอย่างนี้ มาโดยตลอด แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่เคยชะโงกหัวไปดูว่าเขายกระดับบริษัทจดทะเบียนเป็นมาตรฐานสากลขนาดไหน รวมทั้งมีกการกำกับดูแลที่โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ยังไม่พออีกเหรอพวกเต่าล้านปี
*วกกลับมาที่เรื่องการซื้อๆ ขายๆ กันดีกว่า เพราะวอลุ่มที่เบาบางขนาดนี้ อาจทำให้บรรดามาร์เก็ตติ้งต้องชักแถวยื่นใบลาออกระลอกใหญ่ ยิ่งมาเจอมาตรการของตลาดหลักทรัพย์ฯ และสมาคมโบรกเกอร์ ให้หักเงินค่าคอมมิสชั่น 25% ไว้เป็นหลักประกันเพื่อมาร์เก็ตติ้งทำผิด และหากภายในระยะเวลา 6 เดือนไม่ได้ทำผิดถึงจะคืนให้แบบนี้...มันเป็นมาตรการเหวี่ยงแหเกินไปหน่อยนะค่ะ
*ขนาด โมนิก้า ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับมาร์เก็ตติ้งยังรู้สึกอนาถใจกับมาตรการดังกล่าวเลย เพราะทำให้มาร์เก็ตติ้งเงินเดือนน้อยๆ ไม่มีอันจะกินนะซี...เดี๊ยนถึงวิงวอนให้ผู้ที่มีอำนาจลงมาแก้ไขปัญหานี้ด่วนจี่ เพราะลำพังแค่เห็นบรรดาโบรกเกอร์ต่างสาดโคลนกันไปมา หรือบางทีก็เปลี่ยนรังรักกันเป็นว่าเล่น ก็ทำให้ธุรกิจหลักทรัพย์เสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ นะจะบอกให้
*ทางที่ดีช่วยกันหาทางออกสวยๆ และเป็นที่พอใจแก่ทุกฝ่ายจะดีที่สุด เพราะการขึ้นโรงขึ้นศาลระหว่าง โบรกเกอร์ กับ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มันเป็นภาพที่ไม่สวยงามเลยพับผ่าซิ
*การปรับตัวขึ้นมาของ ZMICO ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการผสมโรง แบบเล่นกันเองภายในโบรกฯะ และเป็นการโยนกันเองระหว่างสาขา ซึ่งช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นร่วงลงมาต่ำก็มีคนเข้ามาทยอยเก็บ ส่วนคนที่ติดอยู่สูงก็ไม่กล้าเล่นด้วยคะ เพราะยังไม่มั่นใจว่าจะขึ้นไปที่ตรงไหน แนวโน้มวันนี้ยังมีสิทธิไปได้ต่อ เพราะยังเหลือแก๊ปให้เล่นอีก แต่ถ้าเกิดเจ้าจะเอา
คงจะมาโกรธกันไม่ได้นะคะ เพราะเดี๊ยนไม่ได้เป็นเจ้ามือเอง เลยไม่รู้ว่าหวยจะออกที่ใครนะซี ล่าสุดราคาหุ้นปิดที่ 3.82 บาท บวกไป 0.30 บาท
*ส่วนหุ้น TWZ ที่มาแบบเงียบ ๆ แถมยังมีบิ๊กล็อตเข้ามาอีก 5.1 ล้านหุ้น ราคา 17.60 บาท ถือเป็นราคาสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นมาเลยทีเดียวคะ ของแบบนี้มีสิทธิที่จะลุ้นไปต่อคะ
ด้วยกำลังภายใน แต่ถ้าพูดถึงพื้นฐานของบริษัทละก้อ คงจะนำมาใช้อ้างอิงไม่ได้หรอกคะ เพราะราคาหุ้นนั้นอยู่สูงกว่าพื้นฐานมากเกินแล้ว ถ้าอยากลองวัดใจก็ลองนะคะ เพราะราคาหุ้นมีสิทธิที่จะทะลุ 18 บาทได้อย่างไม่ยากเย็นคะ ราคาหุ้นปิดที่ 17.70 บาท บวกไป 0.10 บาท
*สำหรับหุ้น ETG ที่อยู่ในตลาดmai ที่เดี๊ยนเคยแนะไปแล้ว ก็ให้จับตาดูให้ดีนะคะ เพราะราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นไปที่ระดับ 6 บาทเหมือนเดิม หลังจากที่กองทุนเข้ามาแอบเก็บหุ้นเพิ่มเฉลี่ยกับส่วนที่ซื้อไปก่อนหน้านี้ ถ้าใครยังไม่มีก็ให้ถือข้ามปีได้คะ เพราะปีหน้าจะมีข่าวดีที่จะดันให้หุ้นวิ่งได้อีกมากมายคะ เพียงแต่ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะบอกว่าเป็นข่าวอะไรคะ ราคาหุ้นปิดที่ บาท 5.15 บาท บวกไป 0.25 บาท
*ปิดท้ายกันที่เรื่องวุ่นๆ ในการสรรหาเอ็มดี SCIB เพราะท้ายที่สุดต้องไปเริ่มตั้งต้นนับหนึ่งใหม่ในเดือนหน้า และผลจะออกมาเป็นเช่นไร คงไม่มีใครรู้ดีไปกว่าคนในนั้น เดี๊ยนจึงไม่ขอแสดงความคิดเห็น...แต่รับรองว่ามีการประลองกำลังภายในกันอีกยกอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ[/color:de80ed7aa5">
|
