May 19, 2024   3:42:40 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > (หุ้นไทย) เปิดตลาด 677.36 +55.22
 

samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
วันที่: 20/12/2006 @ 10:21:10
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ดัชนีหลักทรัพย์ไทยเปิดตลาดเช้าวันพุธ (20 ธ.ค.) ณ เวลา 10:02 น. ดัชนีฯ อยู่ที่ระดับ 677.36 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 55.22 จุด คิดเป็น 8.88% มูลค่าการซื้อ-ขายเช้านี้ 5,602.80 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ SCB เปิดที่ 59.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท, PTT เปิดที่ 210.00 บาท เพิ่มขึ้น 24.00 บาท, BLL เปิดที่ 113.00บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท, KTB เปิดที่ 12.10 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท, KBANKเปิดที่ 63.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท

ดัชนี SET 100 เปิดตลาดที่ 1,034.08 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 92.79 จุด เปลี่ยนแปลง 9.86% มูลค่าซื้อขาย 4,369.76 ล้านบาท


ดัชนี SET 50 เปิดตลาดที่ 474.22 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 43.26 จุด เปลี่ยนแปลง 10.04% มูลค่าซื้อขาย 4,066.57 ล้านบาท


ดัชนี MAI เปิดตลาดที่ 186.07 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 8.28 จุด เปลี่ยนแปลง 4.66% มูลค่าซื้อขาย 19.80 ล้านบาท

 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#1 วันที่: 20/12/2006 @ 10:23:09 : re: (หุ้นไทย) เปิดตลาด 677.36 +55.22
หุ้นไทยฟื้นกลับมาเส้นทางการฟื้นตัวอีกครั้ง หลังกระทรวงการคลังยกเลิกแผนการกันสำรองเงินทุนระยะสั้น 30% ที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น โดยดัชนีเปิดตลาดที่ 658.26 จุด เพิ่มขึ้น 36.12 จุด หลังจากนั้นมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยเมื่อเวลา 10.03 น. ดัชนีหุ้นอยู่ที่ 677.71 จุด เพิ่มขึ้น 55.57 จุด

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในส่วนของตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังดำเนินการได้ทันท่วงที และเชื่อว่าผู้ลงทุนต่างชาติจะมั่นใจและนำเงินเข้ามาลงทุนตามปกติ แต่ปริมาณการซื้อขายคงต้องรอดูวันนี้ก่อน อย่างไรก็ตามโดยภาพรวมปัจจัยด้านเศรษฐกิจและการลงทุนไม่เปลี่ยนแปลง และเมื่อตลาดหลักทรัพย์ได้โทรศัพท์ไปปรึกษาโดยขอให้แยกเงินของผู้ลงทุนออกจากตลาดเงินและตลาดทุน รวมทั้งปิดตลาดแล้ว ทำให้สามารถพิจารณาภาพรวมได้ทั้งหมด

สำหรับการประชุมในวันนี้นั้น เดิมจะเป็นการหารือเพื่อหามาตรการรองรับการเก็งกำไรค่าเงินบาท แต่เมื่อเปลี่ยนนโยบายแล้วก็คงจะรายงานให้ทราบและประเมินผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายเท่านั้น และคงไม่มีมาตรการอะไรออกมาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ก่อนออกมาตรการดังกล่าว ธปท.ไม่ได้หารือกับตลาดหลักทรัพย์ก่อน เพราะถือเป็นเรื่องภายในของธปท.

นายรณกฤต สารินวงศ์ ผอ.ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอทคินซัน กล่าวว่า นักลงทุนต่างประเทศคงระมัดระวังมากขึ้น มองว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่มีแผนสำรองไว้ล่วงหน้า ส่วนจะใช้เวลามากน้อยแค่ไหนที่จะทำให้การลงทุนกลับมาเหมือนเดิมนั้น คงจะคาดคะเนไม่ได้ ต้องอ่านใจนักลงทุน เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์

ผมมองว่าไม่มีความเป็นโปรเฟสแชนนอล ไม่มีแผนสำรอง เพราะเมื่อเวลาผ่านไปหุ้นตกไปร้อยกว่าจุด ก็ไม่มีอะไรชัดเจน ต้องรองถึงตอนเย็น ในเช้าวันนี้เท่าที่เซอร์เวย์ดู พบว่าต่างคนต่างรอดูว่ามาตรการที่ออกมาได้ผลหรือไม่ เพราะมาตรการที่ออกมาเป็นด้านเดียว เมื่อเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาแล้วและหากแข็งค่าต่อไป จะทำอย่างไร ในส่วนของตลาดทุนจะคุ้มหรือไม่ ซึ่งในขณะนี้ก็ยังไม่เห็นมาตรการที่ 1 2 หรือ 3 ออกมารองรับ นายรณกฤต กล่าว และว่า สำหรับผู้ที่จะซื้อหุ้นเก็บไว้ในช่วงนี้นั้น หากซื้อเก็บไว้บางส่วนก็น่าจะทำได้ แต่ไม่ควรซื้อไว้มาก
 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#2 วันที่: 20/12/2006 @ 10:38:02 : re: (หุ้นไทย) เปิดตลาด 677.36 +55.22
20 ธันวาคม 2006
ตลท.คาดตปท.ใช้เวลาไม่นานกลับลงทุนหุ้น
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เชื่อว่า ผู้ลงทุนต่างประเทศจะมั่นใจและกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยตามปกติ หลังจากที่ทางการได้ผ่อนคลายมาตรการสกัดกั้นเงินทุนระยะสั้นที่เข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาทด้วยการยกเว้นการกันสำรองสำหรับเงินลงทุนในตลาดหุ้น
ขณะนี้ดัชนี SET เช้านี้ดีดขึ้นแล้ว 8.89% มาที่ 677.46 จุด หรือ บวก 55.32 จุด เมื่อ 10.05 น
 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#3 วันที่: 20/12/2006 @ 12:08:43 : re: (หุ้นไทย) เปิดตลาด 677.36 +55.22
ธปท.ย้ำช่วงนี้ไม่ออกมาตรการใหม่สกัดค่าเงิน

ธปท.ยันมาตรการสกัดค่าเงิน มีการประเมินรอบด้านก่อนประกาศใช้ ส่วนสาเหตุยกเลิกเพราะโบรกเกอร์ระบุสามารถแยกบัญชีนอนเรสซิเด้นท์ได้

นางธาริษา วัฒนเกศ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า มาตรการทั้งหมดที่ออกไปก่อนหน้านี้ มีความจำเป็นที่จะต้องดูแลค่าเงินบาท เนื่องจากมีการแข็งค่าขึ้นมามาก และมารตรการที่ออกไปจริงๆ แล้ว ในส่วนของตลาดหุ้น ถ้านักลงทุนต่างชาติไม่รีบนำเงินออกไป ก็จะได้รับการยกเว้นอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่าผลที่เกิดขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์กันไว้

มาตราการที่ออกมาเราได้มีการประเมินที่มาที่ไป และยังมีการประเมินผลกระทบ พร้อมทั้งได้มีการชั่งน้ำหนักอ่างถี่ถ้วนแล้วสำหรับนโยบายที่จะออกมา นอกจากนี้ยังได้ปรึกษากับรัฐมนตรีกระทรวงการคลังมาโดยตลอด แต่เมื่อผลกระทบที่เกิดขึ้นและแรงกว่าที่คาด จึงได้มีการประชุมหารือกับตลาดหลักทรัพย์ และสำนักงานก.ล.ต. ตลอดเมื่อวานนี้ นางธาริษา กล่าว


เธอยังกล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ต้องยกเลิกมาตรการ เพราะหลังจากหารือกับโบรกเกอร์แล้ว โบรกเกอร์ยืนยันว่า สามารถแยกเงินส่วนที่เข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้ หรือสามารถแยกบัญชีนอนเรสซิเด้นท์ออกมาต่างหากได้


เธอยังกล่าวด้วยว่า แม้ธปท.ยอมยกเลิกมาตรการดังกล่าว แต่ก็ยังกังวลเรื่องการเก็งกำไรค่าเงินบาทอยู่ และชื่อว่าการยกเลิกมาตรการนี้จะช่วยบรรเทาผลกระทบต่อตลาดหุ้นได้ ซึ่งมาตรการจะมีประสิทธิผลต่อการดูแลค่าเงินลดลงก็ตาม แต่ก็ต้องดูแล


ในระยะนี้ ธปท. ยังคงไม่มีมาตรการใดๆ ออกมาเพิ่มเติม แต่จะติดตาม และเกาะติดตลาดเงินอย่างใกล้ชิด เพราะปลายปีตลาดจะมีการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากมีวันหยุดยาว จึงมีช่วงเวลาให้เรารอดูไปอีกระยะหนึ่ง


ส่วนกรณีที่มีการเสนอเรื่องการลดดอกเบี้ย ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มีการคุยกันเยอะ แต่ไม่ใช่จังหวะ เพราะราคาน้ำมันยังไม่นิ่ง ราคาสินค้าที่ถูกควบคุมอาจจะมีการยกเลิกการควบคุมราคา ทำให้ยังมีความเสี่ยงในเงินเฟ้อ แต่อัตราเติบโตของเศรษฐกิจยังขยายตัวได้อยู่
 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#4 วันที่: 20/12/2006 @ 12:17:30 : re: (หุ้นไทย) เปิดตลาด 677.36 +55.22
ตลท.เล็งแยกบัญชีลงทุนหุ้นต่างชาติ ออกจากตลาดเงิน

ตลาดหลักทรัพย์ เตรียมหารือศูนย์รับฝากฯ และสมาคมโบรก เร่งแยกบัญชีลงทุนของต่างชาติออกจากตลาดเงิน แก้ปัญหาทุบค่าบาท

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยอมผ่อนผันให้ผู้ลงทุนต่างชาติที่ต้องการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยจริงไม่ต้องถูกกันเงินไว้ 30% เหมือนการลงทุนในตลาดเงินนั้น การทำงานของตลาดหลักทรัพย์จากนี้ไปจะผสานกับทางชมรมผู้รับฝากหลักทรัพย์(คัสโตเดียน) และสมาคมโบรกเกอร์ให้มากขึ้น เพื่อทำการแยกบัญชีลงทุนของผู้ลงทุนต่างชาติออกจากตลาดเงิน รวมทั้งจะมีรายการให้ ธปท. ได้รับทราบเป็นประจำทุกสัปดาห์
 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#5 วันที่: 20/12/2006 @ 12:56:38 : re: (หุ้นไทย) เปิดตลาด 677.36 +55.22
ธปท.แยกบัญชีต่างชาติลงทุนหุ้น ก่อนคุมเพดานนอน-เรสิเดนท์ตามเดิม

แบงก์ชาติเตรียมออกประกาศ แยกบัญชีลงทุนต่างชาติ หรือ นอน-เรสิเดนท์ ที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์โดยเฉพาะ ในอีก 1-2 วันนี้ ก่อนกลับมาคุมเพดานบัญชีเงินบาทอีกครั้ง

นายสุชาติ สักการโกศล ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับการแลกเปลี่ยนและสินเชื่อ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่าภายใน 1-2 วันนี้ ธปท.จะออกประกาศให้มีการแยกบัญชีเงินฝากของผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ(non-reident) ที่ลงทุนในตลาดหุ้นออกมาโดยเฉพาะ และธปท.กำหนดให้โบรกเกอร์และคัสโตเดียนต้องส่งรายงานการลงทุนในตลาดหุ้นของต่างชาติทุกสัปดาห์

ทั้งนี้ ธปท.ผ่อนปรนมาตรการสกัดเงินทุนนำเข้าระยะสั้นที่เข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาท โดยยกเว้นเงินทุนที่นำเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไม่ต้องกันสำรอง 30% คงกำหนดเฉพาะเงินลงทุนในตราสารหนี้

เมื่อธปท.ออกประกาศแยกบัญชีนอน-เรสิเดนท์แล้ว ธปท.จะใช้หลักเกณฑ์การกำหนดเพดานบัญชีเงินบาทของนอน-เรสิเดนท์ ไว้ที่ 300 ล้านบาทตามเดิม หลังจากเมื่อวานนี้(19 ธ.ค.) ได้ขยายเพดานออกไปอย่างไม่จำกัดจำนวน
 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#6 วันที่: 20/12/2006 @ 13:01:21 : re: (หุ้นไทย) เปิดตลาด 677.36 +55.22
หุ้นไทยภาคเช้าปิดที่ 688.17 จุด +66.03

การซื้อขายหลักทรัพย์ภาคเช้าวันพุธ (20 ธ.ค.) ดัชนีปิดที่ระดับ 688.17 จุด ปรับเพิ่มขึ้น +66.03 จุด เปลี่ยนแปลง 10.61% มูลค่าการซื้อ-ขายทั้งสิ้น 34,850.41 ล้านบาท//5 อันดับ หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูง คือ PTT ปิดที่ 214.00 บาท เพิ่มขึ้น 28.00 บาท, SCB ปิดที่ 61.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท, BBL ปิด 113.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท, KBANK ปิดที่ 64.50 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท, KTB ปิดที่ 12.70 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท

ดัชนี SET 100 ปิดตลาดภาคเที่ยงที่ 1,050.11 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 108.82 จุด เปลี่ยนแปลง 11.56% มูลค่าซื้อขาย 26,836.25 ล้านบาท


ดัชนี SET 50 ปิดตลาดภาคเที่ยงที่ 481.36 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 50.40จุด เปลี่ยนแปลง 11.69% มูลค่าซื้อขาย 24,611.33 ล้านบาท


ดัชนี MAI ปิดตลาดภาคเที่ยงที่ 190.54 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 12.75 จุด เปลี่ยนแปลง 7.17% มูลค่าซื้อขาย 136.11ล้านบาท


หุ้นปิดตลาดช่วงเช้าเพิ่ม 66.03 จุด แรงซื้อขายหนาแน่นทั่วกระดาน โบรกฯเตือนระวังเทขายทำกำไรช่วงบ่าย

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดตลาดช่วงเช้า +66.03 จุด หรือ 10.61% ดัชนีอยู่ที่ 688.17 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 34,850.4 ล้านบาท โดยดัชนีบวกตั้งแต่เปิดตลาด และมีแรงซื้อเข้ามาหนาแน่นในหุ้นกลุ่มหลักและมีแรงซื้อคืนกระจายทั่วกระดาน

ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่ราคาปรับขึ้นมีจำนวน 394 หลักทรัพย์ ,ไม่เปลี่ยนแปลง 18 หลักทรัพย์ และที่ปรับลดลง 15 หลักทรัพย์

โบรกเกอร์กล่าวว่านักลงทุนคลายความวิตกกังวลมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) หลังจากยกเลิกมาตรการดังกล่าวบังคับใช้ในตลาดหุ้น ทำให้มีแรงซื้อเข้ามามาก ซึ่งนักลงทุนต่างชาติได้กลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง แม้จะไม่มากเท่ากับแรงเทขายเมื่อวานนี้

คาดว่าในช่วงบ่าย ดัชนีน่าจะปรับขึ้นต่อไปได้ แต่ให้ระวังแรงเทขายทำกำไร ที่ออกมาเป็นระยะๆจากนักลงทุนที่เข้ามารับเมื่อวานนี้ ซึ่งอาจทำให้ดัชนีในช่วงบ่ายปรับตัวเพิ่มไม่มากนัก
 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#7 วันที่: 20/12/2006 @ 13:46:18 : re: (หุ้นไทย) เปิดตลาด 677.36 +55.22
โบรกคาดรายย่อยเก็งกำไรดัชนีบ่ายแกว่งตัว

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นหลังแบงก์ชาติยกเลิกมาตราการควบคุมเงินต่างชาติในตลาดหุ้น และเชื่อว่าคงต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะฟื้นความเชื่อมั่น ซึ่งคาดว่าแรงซื้อขายส่วนใหญ่ครึ่งวันเช้าเป็นของนักลงทุนในประเทศ และแรงเทขายจากนักลงทุนต่างชาติคงจะชะลอตัวลงแล้ว แต่แรงซื้อกลับคงต้องรออีกสักระยะหนึ่ง คาดช่วงบ่ายถ้าหากดัชนีปรับตัวขึ้นไปแรงจะมีแรงขายทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีแกว่งตัว โดยคาดว่าดัชนีบ่ายนี้จะอยู่ในกรอบ 690-700 จุด
 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#8 วันที่: 20/12/2006 @ 14:44:30 : re: (หุ้นไทย) เปิดตลาด 677.36 +55.22
หม่อมอุ๋ย-ธปท.พอใจค่าบาทนิ่ง บอกนักลงทุนเริ่มเข้าใจ

หม่อมอุ๋ยพอใจผลการยกเลิกมาตรการคุมเก็งกำไรค่าบาท ระบุมูลค่าตลาดหุ้นฟื้นมาได้ 5 แสนล้านบาท จากเมื่อวานสูญไป 8 แสนล้าน เชื่อเริ่มเข้าใจมาตรการธปท. ขณะที่ผู้ว่าแบงก์ชาติพอใจ ค่าบาทนิ่ง

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯและรมว.คลัง กล่าวว่า หุ้นไทยขึ้นวันนี้ ทำให้มูลค่าตลาดกลับคืนมา 5 แสนล้านบาท จากวานนี้ลดลงไปราว 8 แสนล้านบาท หลังต่างชาติเริ่มเข้าใจมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ขณะที่มองเงินบาทจากนี้จะนิ่งและไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มอีก

เมื่อวานที่หายไป 8 แสนล้านบาท วันนี้ได้คืนมา 5 แสนล้านบาทแล้ว ไม่ต้องห่วง วันนี้นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อ เพราะเขาเริ่มมั่นใจและเข้าใจมาตรการเรามากขึ้น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าว

ค่าเงินบาทจากนี้จะนิ่ง เพราะสามารถสกัดการเก็งกำไรตราสารหนี้ได้แล้ว และไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มอีก ขณะที่ขณะนี้ตลาดหุ้นเริ่มกลับมาดีอีกครั้ง เขากล่าวด้วยว่า การเก็งกำไรเงินบาทก่อนหน้านี้ ไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง

การเก็งกำไรบาทไม่เกี่ยวกับการเมือง ซึ่งขณะนี้เงินบาทหลังจากนี้จะนิ่ง เหตุอุดช่องเก็งกำไรบอนด์-ตั๋วเงิน เชื่อความมั่นใจต่างชาติกลับมาเหมือนเดิมหลังทำความเข้าใจแล้ว

ด้านนางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า ค่อนข้างพอใจกับค่าเงินบาทในขณะนี้ที่เริ่มนิ่งแล้วและมีความผันผวนน้อยลง โดยบาทอ่อนค่าลงบ้างจากช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งธปท.ยืนยันว่าจะดูแลค่าเงินบาทไม่ให้มีความผันผวนมากเกินกว่าที่ภาคธุรกิจจะปรับตัวได้แต่ก็จะไม่ฝืนความเป็นไปในตลาดโลก
 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#9 วันที่: 20/12/2006 @ 15:16:38 : re: (หุ้นไทย) เปิดตลาด 677.36 +55.22
จัดการ ตลท.ยอมรับเม็ดเงินหายไปจากตลาดหุ้นไทยกว่า 8 แสนลบ. เนื่องจากมาร์เก็ตแคปลดลง คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ถึงจะบอกได้ว่าเม็ดเงินจะกลับมาเมื่อใด แต่ยังมั่นใจปัจจัยพื้นฐานยังไม่เปลี่ยน แนงโน้มนักลงทุนต่างชาติ กลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างแน่นอน

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการ ตลท. ครั้งพิเศษวันนี้ (20 ธ.ค.) ได้รับทราบถึงผลกระทบจากการใช้มาตรการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำหนดให้สถาบันการเงินกันเงินสำรองร้อยละ 30 ของเงินทุนที่นำเข้าจากต่างประเทศ ส่งผลให้การลงทุนใน ตลท. เมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.) ได้รับผลกระทบอย่างมาก

สำหรับเม็ดเงินที่หายไปจากตลาดหุ้นไทยกว่า 800,000 ล้านบาท เนื่องจากมาร์เก็ต แคป ลดลง คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ จึงจะบอกได้ว่าจะกลับมาเมื่อใด แต่มั่นใจว่าเมื่อปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน นักลงทุนต่างชาติจะกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างแน่นอน โดยเฉพาะราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (พีอี/เรโช) ลดลงจาก 8.68 เท่า ในวันที่ 18 ธันวาคม 2549 เหลือ 7.3 เท่า ในวันที่ 19 ธันวาคม 2549 ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในภูมิภาคเอเชีย อย่างไรก็ตาม ตลท. จะยังไม่ปรับแผนงานระยะยาว เนื่องจากมั่นใจว่าพื้นฐานเศรษฐกิจของไทยไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม แต่ยอมรับว่าเป็นกังวลกับมาตรการที่อาจจะมีออกมาอีกหลังจากนี้ แต่ก็เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวานนี้จะเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้การออกมาตรการต่าง ๆ หลังจากนี้ทุกฝ่ายจะคำนึงถึงผลกระทบต่อตลาดทุนมากขึ้น

?นักลงทุนต่างชาติดูผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นหลัก ดังนั้น เมื่อพีอีในตลาดหุ้นไทยต่ำลง ขณะที่พื้นฐานเศรษฐกิจเหมือนเดิมและไม่มีมาตรการสำรองเงินร้อยละ 30 จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทย รวมทั้งการพิจารณาของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ? นางภัทรียา กล่าว

คณะกรรมการ ตลท. เห็นว่าแม้จะมีการขายของนักลงทุนต่างประเทศกว่า 25,000 ล้านบาท แต่ปรากฏว่ามีนักลงทุนในประเทศได้เข้ามาลงทุนเป็นการซื้อสุทธิถึงกว่า 28,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่านักลงทุนในประเทศยังมีความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทย นอกจากนี้ การใช้ระบบพักการซื้อขายชั่วคราว (Circuit breaker) ของ ตลท. แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ของ ตลท. ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ตลท. บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และคัสโตเดียน ได้ร่วมประชุมกันเพื่อนำเสนอแนวทางที่จะแยกบัญชีและเงินลงทุนของผู้ลงทุนต่างประเทศที่นำเงินมาลงทุนใน ตลท. ซึ่งจะมีผลให้ ธปท. สามารถทราบประเภทเงินที่นำเข้ามาลงทุนในประเทศได้ อีกทั้ง ตลท. ธนาคารพาณิชย์ และ บล. ได้ให้คำยืนยันที่จะแยกบัญชีการซื้อขายของผู้ลงทุนต่างประเทศที่ไม่ได้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย (Non-resident) และรายงานให้ ธปท.ทราบทุกสัปดาห์ โดยจะครอบคลุมทั้งการลงทุนใน ตลท. ตลาดอนุพันธ์ และเงินลงทุนในไอพีโอ หรือการซื้อหุ้นที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก โดย บล.จะแยกบัญชีของผู้ลงทุนต่างประเทศและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#10 วันที่: 20/12/2006 @ 15:57:09 : re: (หุ้นไทย) เปิดตลาด 677.36 +55.22
อัจนาลั่นหารือคัสโตเดียน-โบรกเกอร์-ก.ล.ต.คุมเงินเล่นหุ้นได้

รองผู้ว่าฯธปท. เข้าชี้แจงกมธ.การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงินสนช. ระบุว่าการออกมาตรการให้แบงก์กันสำรอง 30%ได้หารือ คัสโตเดียน-สมาคมโบรกเกอร์- และก.ล.ต.แล้ว และระบุว่าสามารถรับผิดชอบเงินที่เข้ามาเล่นหุ้นอย่างเดียวได้


นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ชี้แจงถึงมาตรการสกัดค่าเงินบาทว่าถ้าเราไม่ต้องการให้เงินทุนเข้ามาสร้างความผันผวนทำให้ค่าเงินบาทแข็งโดยเกินปัจจัยพื้นฐาน ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ก็คือให้เงินทุนเข้ามาได้ยาก เพราะก่อนหน้านี้เงินที่เข้ามาไม่สามารถสกัดได้ จึงต้องมีการครอบคลุมเงินทุนได้ทุกประเภท แต่มาตรการที่ออกมาสกัดเงินทุนที่มาลงทุนในพันธบัตรหรือในหุ้นจะต้องถูกสำรองไว้ 30%

แต่เนื่องจากตอนนั้นเราคิดว่า เงินเข้ามาถ้าไม่เก็บทุกคน ก็จะบอกว่าเข้ามาเล่นหุ้น และออกไปที่อื่น แต่เมื่อเกิดผลกระทบที่เกิดมารุนแรงมาก และทางสมาคมโบรกเกอร์ คัสโตเดียน และ กลต. ก็ชี้แจงว่าเขารับผิดชอบเองในแง่ของเงินที่เข้ามาเล่นหุ้น เขามั่นใจว่า เขาจะสามารถผูกผ้าแดงได้ และสามารถที่จะสร้างบล็อกแอคเคาส์ และดูแลให้เงินต่างชาติที่เข้ามาเล่นเฉพาะหุ้นอย่างเดียว ไม่ไปเล่นอย่างอื่น

ตรงนี้ถือเป็นจุดผ่อนคลายมาตรการที่รมว.คลัง ออกมาชี้แจงว่า เราทำไป เพราะไม่ได้คิดว่าจะมีการผูกผ้าแดงได้ และความผิดก็อยู่ที่คัสโตเดียน และโบรกเกอร์ ซึ่งเราจะมอนิเตอร์เป็นระยะๆและส่งรายงานให้ ธปท. ทุกสัปดาห์ ดังนั้นยาแรงที่ออกมานี้เชื่อว่าจะไม่กระทบมากเกินไปแต่ว่า ผลของมาตรการก็จะต่างลงนางอัจนากล่าวและว่า

ส่วนกรณีที่นำมาตรการนี้มาใช้จะส่งผลกระทบแบบเดียวกับตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย ที่นำมาตรการสกัดเก็งกำไรเงินทุนไหลเข้าระยะสั้นมาใช้ในปี 2541 แต่ว่าจะมานับว่าซบเซากว่า 10 ปี ไม่ได้ เพราะไทยก็ซึมยาวมากว่า 10 ปี ช่วงนั้นตลาดหุ้นไทยก็ซบเซาระยะยาว เพราะเราจะวัดว่านั้น คือผลของมาตรการไม่ได้ เราไม่ได้ใช้มาตรการใดๆเลย เราต้อนรับนักลงทุนเขายังไม่มาเลย อันนั้นคงบอกไม่ได้ แต่หากจะดูมาตรการที่ตลาดหลักทรัพย์ประเทศชิลี ใช้มาตรการนี้จริงๆแล้ว มาตรการกีดกันไม่ได้ผลระยะยาว แต่จะต้องหาช่องทาง แต่สิ่งที่ทำคือเปลี่ยนอายุของโครงสร้าง ซึ่งหากไม่กลัวเงินผันผวนมาตรการก็จะได้ผลระดับหนึ่ง

นายสมชาย สกุลสุรรัตน์ เลขานุการคณะกรรมาธิการการคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการยกเลิกมาตรการสกัดค่าเงินบาทต่อผู้ลงทุนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า เรื่องนี้ กมธ.ได้เสนอความเห็นว่ามาตรการนี้อาจจะได้รับผลดีกับเกษตรกร แต่การดำเนินการนี้ ถึงแม้จะจำเป็น แต่จังหวะเวลาอาจจะรุนแรงเกินไปหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ต้องถกเถียงกันอยู่ ตนคิดว่าทางรัฐบาล และกระทรวงการคลัง คงจะเห็นอยู่แล้วถึงให้มีการเปลี่ยนแปลงมาตรการหลังจากสิ้นสุดในวานนี้(19 ธ.ค.)

จากนี้ไป 1 เดือนก็จะต้องติดตามดูว่าตลาดหลักทรัพย์จะปรับตัวขึ้นหรือไม่ เชื่อว่าหากจะที่เข้าทางคงจะต้องใช้เวลาเพราะผลที่เกิดขึ้นกระทบกับทั่วโลก ความมั่นใจของนักลงทุนก็สูญหายไป จึงไม่สามารถที่จะปรับตัวเองได้ในระยะเวลาสั้น ๆเพราะนักลงทุนคงไม่ได้มองว่า เมื่อมีการผ่อนผันเงินที่นำมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ให้กับนักลงทุนแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น

เรื่องนี้ รองผู้ว่าการธปท. ได้ชี้แจงใน กมธ.ว่า นักลงทุนในตลาดหมาเห่าก็ขายหุ้นแล้ว ผมคิดว่านักลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้บริหารกองทุน สิ่งที่เขากลัว คือสิ่งที่เขาไม่รู้ไม่แน่ใจว่า ธปท. จะมีมาตรการอะไร ที่มีลักษณะที่เรียกว่ามีการกีดกันการไหลของเงินเพิ่มขึ้นมาอีกหรือไม่ จึงต้องจับตาดูอีกระยะเวลาหนึ่ง ผมคิดว่าคงจะต้องเป็นระยะเวลาหลายเดือนที่เขาจะแน่ใจว่าทุกอย่างคงที่นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวว่า แต่ปัญหาเวลานี้ค่าของเงินบาทแข็งค่าเกินไป จนทำให้ผู้ส่งออก ผู้ประกอบการ และเกษตรกร ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเป็นเหตุที่ที่ทำให้เราประชุมในวันนี้ โดยมาตรการที่ออกมาเพื่อต้องการให้มีการลดการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม หลายเดือนที่ผ่านมาค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง นอกจากนั้นยังมีเงินไหลเข้ามาในประเทศค่อนข้างสูง โดยเฉพาะ 2-3 เดือนหลัง ยิ่งทำให้เงินต่างประเทศไหลมามาก ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินบาทต่อดอลลาร์แข็งขึ้น จนทำให้ผู้ส่งออกเดือดร้อนจากสินค้าที่ส่งออกไปถึง 14 %

ทั้งนี้ตัวแทนสภาอุตสาหกรรม ได้ชี้แจงว่า มูลค่าการส่งออกของประเทศ มีประมาณ 5.5 ล้านล้านบาท ถ้าลดลงไป 14% และนำมาคำนวณทั้งปีก็เท่ากับว่า มีเงินที่หายไปประมาณ 7.5 แสนล้านบาท ทำให้รายได้ที่ผู้ส่งออกจะได้รับลดลง เมื่อมาเปรียบเทียบเป็นเงินบาท ดังนั้น ธปท.จึงออกมาตรการเพื่อให้ค่าเงินบาทอ่อนตัว และทำให้เงินที่จะไหลเข้าประเทศชะลอตัวลงต่อเนื่อง คือ ไปลดความต้องการซัพพลายของเงินตราต่างประเทศ

แต่ผลที่ออกมาเมื่อนำมาตรการตั้งสำรอง 30% มาใช้ คือ ผู้ที่นำเงินมาร้อยเหรียญใช้ได้จริง 70 เหรียญ เขาจึงไม่นำเข้ามาทำให้เกิดปัญหาขึ้น เมื่อธปท. และรัฐมนตรีเห็นปัญหาจึงมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ซึ่งกว่าที่นักลงทุนต่างชาติจะเข้าใจและกลับมาเชื่อมันอีกครั้งก็จะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร เป็นปัญหาที่น่าเห็นใจว่าหากไม่ดำเนินการเช่นนี้ผลกระทบก็จะเกิดกับผู้ส่งออก และภาคอุตสาหกรรมเช่นกัน

ตรงนี้เป็นศิลปะว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความสมดุล เพราะในช่วงเวลาที่ทำและดีกรีของการดำเนินการและการสื่อให้คนที่ได้รับผลกระทบทุกด้านรับทราบ มันเป็นศิลปะในการดำเนินการ ซึ่งต่อไปนี้หากทางราชการจะดำเนินการอย่างไรคงต้องดูสิ่งเหล่านี้ด้วย ซึ่งคนที่จะรู้เรื่องนี้ดีที่สุดคือ ธปท. เพราะเขาจะเป็นคนกำข้อมูลเงินไหลเวียนของประเทศ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุด คือเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนมาแสดงความคิดเห็นและสะท้อนให้เห็นปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้น ตรงนี้น่าจะเป็นบทเรียนที่ดีที่ภาคราชการจะดำเนินการนโยบายใด ๆนายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวอีกว่า สำหรับการหาผู้รับผิดชอบกับความผันผวนที่เกิดขึ้นนั้น เรื่องนี้ส่วนตัวเห็นว่าควรจจะมีผู้ออกมารับผิดชอบ ซึ่งทางรัฐบาลจะต้องนำส่วนนี้ออกมาทบทวน เพราะเป็นแนวความคิด 2 ด้าน เช่น กรณีที่ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น มูลค่าตลาดที่ลดลงไป แม้จะเป็นเรื่องที่กระทบนักลงทุนอยู่จริง แต่การดำเนินนโยบายถือว่าถูกต้อง เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมและการส่งออก ท่านก็คงจะต้องเห็นประโยชน์ของผู้ที่ยากไร้กว่า 10 ล้านคน อย่างไรก็ตามอีกมุมมองหนึ่ง นักลงทุนต่างๆก็มองว่า ทำไมเขาจะต้องมารับผิดชอบ เรื่องนี้ ส่วนใครจะรับผิดชอบมากน้อยอย่างไรไม่ใช่หน้าที่ที่ กมธ. จะให้ความเห็นได้
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com