kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 |  วันที่: 15/11/2006 @ 10:42:13 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ตลาดหุ้นยังอยู่ในช่วงปรับฐาน ต่างชาติเห็นจังหวะกลับเข้าช้อนซื้อ หลังมีแรงขายจากกองทุนและรายย่อย ประเมินแนวโน้มดัชนีแกว่งแคบๆ รอปัจจัยหนุน ด้านค่าบาทแข็ง ทะลุ 36.39 บาท ทำสถิติแข็งค่าสุดในรอบ 8 ปี จากดอลลาร์อ่อนและเงินทุนไหลเข้า
ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บรรยากาศการลงทุน วานนี้ (14 พ.ย.) แรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาช้อนซื้อ สลับแรงขายทำกำไรจากกองทุนและรายย่อยอย่างต่อเนื่อง กดดันให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลง ก่อนมาปิดที่ระดับ 733.87 จุด ลดลง 2.96 จุด คิดเป็น 0.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น 20,482.01 ล้านบาท
ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,233.81 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 823.21 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 410.60 ล้านบาท
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการ บริษัท หลักทรัพย์แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า แนวโน้มตลาดหุ้น คาดดัชนีจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแนวรับที่ระดับ 728 จุด แนวต้านที่ระดับ 738 จุด ปัจจัยสำคัญคือ จับตาการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นต่างประเทศ และราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ส่วนปัจจัยการเมืองภายในประเทศยังคงต้องติดตามการประกาศยกเลิกกฏอัยการศึกต่อไป เป็นไปตามสัญญาณเทคนิค หลังจากดัชนีไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ระดับ 740 จุดได้ ส่งผลให้ดัชนีปรับฐานในระยะสั้นๆ เพื่อรอปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามาสนับสนุนการลงทุน
ชี้เป็นโอกาสนักลงทุนเข้าช้อนซื้อ
นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการสายงานการตลาด บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้น (15 พ.ย.) คาดตลาดน่าจะยังปรับตัวลดลง เนื่องจากตลาดเอเชียส่วนใหญ่เงียบเหงา อาจเป็นโอกาสของนักลงทุนเข้ามาช้อน ประเมินแนวรับที่ 730 จุด ส่วนแนวต้านที่ 736 จุด
นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด หรือ SYRUS กล่าวว่า ช่วงนี้ดัชนีน่าจะแกว่งลง มองแนวรับที่ 732-730 จุด แต่มีลุ้นลงไปถึง 725 จุด ในวันต่อๆไป ส่วนแนวต้านมองไว้ที่ 736-738 จุด แนะนักลงทุนเข้าซื้อเมื่ออ่อนตัว โดยเลือกหุ้นพื้นฐานดีที่มีราคาต่ำกว่าราคาพื้นฐาน ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์จะมีการประเมินที่แตกต่างกัน จึงควรพิจารณาตามความเหมาะสม?
ค่าบาทแข็งทำสถิติสูงสุดรอบ 8 ปี
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าสร้างสถิติสูงสุดในรอบ 8 ปี ที่ 36.39 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลจากการที่เงินดอลลาร์สหรัฐไหลเข้าประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียเป็นจำนวนมาก ทำให้กระทบต่อค่าเงินบาทให้แข็งค่าขึ้นมาก และเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลก หลังจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ทำให้เงินทุกสกุลแข็งค่าขึ้น จึงไม่น่ากังวลถึงผลกระทบของเงินบาท แม้ว่าจะกระทบต่อผู้ส่งออกบ้าง โดยธนาคารแห่งประเทศไทยก็ยังเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่ตัวเลขส่งออกใน 9 เดือนที่ผ่านมา ขยายตัวถึงร้อยละ 16.3 ทำให้เชื่อว่ายอดการส่งออกจะเดินหน้าต่อไปได้
น.ส.ภัทรารดี ชินกุลกิจนิวัฒน์ นักค้าเงิน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เงินบาทเคลื่อนไหวแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง โดยแข็งค่าขึ้นถึง 36.39 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นการแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 8 ปี โดยมีนักลงทุนเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐออกมาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดพันธบัตรของไทยเป็นจำนวนมาก จึงหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นทำสถิติดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เงินบาทยังมีแนวรับที่ 36.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และ 36.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐโดยมีแนวรับสำคัญที่ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
.00020
[/color:193aefacdc">
|
