ช่วงนี้ ตลาดหุ้นเริ่มจะขึ้นแบบไซด์เวย์ชัดเจนขึ้น เห็นชัดว่า ใกล้เวลาจะปรับฐาน ทำให้หุ้นตัวใหญ่อืด แต่ตัวเล็กเปลี่ยนกันราคาวิ่ง อย่างนี้ หุ้นพลังงานที่ทำท่าไม่ดีมาหลายสัปดาห์ กำลังจะดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่ เพราะดูแล้วราคาน้ำมันน่าจะกลับมาขึ้นรอบใหม่รับฤดูหนาว ตัวเองถือ TOPเอาไว้นานแล้ว (เพราะติดเอาไว้ ขายไม่ทัน) จะถือต่อดีหรือไม่?

คำถามของคุณดูขัดแย้งในตัวเองนะครับ
ด้านหนึ่งกลัวว่าดัชนีจะปรับฐาน อีกด้านหนึ่งก็อยากจะให้หุ้นที่ตัวเองถืออยู่ขึ้น จะเอายังไงกันแน่ครับ

พูดโดยภาพรวม ดัชนีตลาดหุ้นไทยพยายามทะลุแนวต้านที่ 750 แล้วไม่ผ่าน ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะปรับฐานสักรอบหนึ่งก่อน เพื่อให้เกิดแรงซื้อสะสมมากเพียงพอที่จะดันรอบใหม่ในเดือนธันวาคม ซึ่งหลายคนก็เชื่อ(ไม่ใช่มีพื้นฐานอะไรองรับหรอกครับ)ว่า จะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Christmas Rally ซึ่งเป็นเรื่องของฝรั่งเขา แต่บ้านเราบางปีก็มี บางปีก็ไม่มี

ประเด็นก็คือว่า มีสตอรี่อะไรพิเศษบ้างหรือไม่จะทำให้ราคาหุ้นมันขึ้นพร้อมกันทั่วกระดาน หากไม่ใช่เรื่องของเงินนอกที่ไหลเข้ามา หรือ เรื่องมหัศจรรย์พิเศษอะไรบางอย่าง

สำหรับหุ้นพลังงาน ผมเคยตอบไปแล้วว่า ช่วงหลายเดือนมานี้ ราคาน้ำมันตลาดโลกลดลงต่อเนื่อง เพราะว่า เริ่มมีความเชื่อกันแล้วว่า น้ำมันจะไม่ได้ขาดแคลนในโลกนี้ เนื่องจากหลุมน้ำมันใต้ดินที่โลกขุดกันขึ้นมา ยังขุดได้ไม่เกินปริมาณสำรองที่โลกมีแค่30% เท่านั้น ยังมีเหลือให้ขุดอีกเยอะ แต่ขุดขึ้นมาไม่ได้แต่เดิมก็เพราะว่า เทคโนโลยีการดูดน้ำมันจากใต้ดินลึกๆนั้น มันแพง แต่ถึงตอนนี้ เขาว่า มันดีขึ้นและถูกลชง ทำให้มีคนเชื่อว่าจะทำให้มีน้ำมันดิบขุดขึ้นมาได้อีกเยอะแยะ

ช่วงระยะนี้ไป ฤดูหนาวในเขตเหนือของโลกจะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวทรงหรือเพิ่มขึ้นไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อเตรียมรับมืออากาศหฟนาวที่ไม่แน่ใจว่าจะยาวนานและมากแค่ไหน ดังนั้น จึงน่าจะทำให้สถานการณ์ราคาน้ำมันกลับขึ้นมาได้อีก

ช่วงนี้จึงเห็นการปรับราคาน้ำมันขึ้นกันรอบใหม่ แต่จะไกลแค่ไหนไม่มีใครรู้นะครับ
เรื่องนี้ จึงถิอเป็นข่าวดีของหุ้นโรงกลั่นอย่าง TOP ที่ 2เดือนมานี้ ราคาทรงตัวและวึมแบบไซด์เวย์ค่อนข้างนานเป็นพิเศษ น่าอึดอัดไม่น้อย แต่เมื่อแนวโน้มราคาน้ำมันจะไม่ลดลงไปอีก ผมก็เชื่อว่า โอกาสที่ราคาหุ้นจะดีดตัวย่อมเป็นไปได้สูง เพียงแต่ไม่น่าจะไปไกลมากมายเหมือนกับช่วงเมื่อหลายเดือนก่อนแน่นอน เพราะสถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว

ภาวะเช่นนี้ สิ่งที่เรายังไม่เห็นบริษัททำอะไรที่ช่วยให้นักลงทุนกระจ่างขึ้นมา ก็คือเรื่องของการทำให้ค้าการกลั่นเพิ่มขึ้นจากความสามารถในเชิงบริหาร

อดีตที่ผ่านมา นับแต่เข้าตลาดหุ้น TOP ได้อาศัยประโยชน์จากสถานการณ์สร้างกำไรสูงขึ้นน่าพอใจ จากสถานการณ์ราคาน้ำมันขาขึ้น ทำให้ได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของค่าการกลั่นจากภาวะตลาดช่วย ไม่ได้เกิดจากประสิทธิภาพของผู้บริหารอย่างจริงจัง

สถานการณ์ราคาน้ำมันที่เปลี่ยนไป หากผู้บริหารของบริษัทในปัจจุบัน สามารถให้ข้อมูลที่นักลงทุนควรทราบ ไม่อ้ำอึ้งปล่อยให้สถนการณ์พาไป ผมก็เชื่อว่าจะทหให้มีสตอรี่ที่นักลงทุนให้ความมั่นใจมากขึ้น และเข้าซื้อหุ้นคึกคัก

เพียงแต่ผมไม่แน่ใจว่าจะเกิดเรื่องพวกนี้ เพราะที่ผ่านมา ผู้บริหารธุรกิจโรงกลั่นมักจะชอบอยู่เงียบๆ ไม่อยากเป็นข่าวกันมากนัก ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน
ไม่เข้าใจจริงๆนักหรอกครับ