May 7, 2024   12:50:00 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สัญญาณหุ้นมาแล้วค่ะ
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 14/11/2006 @ 10:27:41
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บล.โกลเบล็กแนะนำขาย PTTCHราคาเป้าหมาย 77.00 บาทจากที่คาดกันว่าในปีหน้าจะเป็นช่วงวัฏจักรขาลงของธุรกิจปิโตรเคมีซึ่งจะส่งผลกระทบราคาผลิตภัณฑ์ต้นน้ำทำให้ทางบริษัทได้ขยายกำลังในผลิตภัณฑ์ปลายน้ำมากขึ้นทั้ง HDPE และ MEGซึ่งการมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายจะช่วยกระจายความเสี่ยงในช่วงภาวะขาลงและเสริมความแข็งแกร่งในด้านการแข่งขันส่งผลให้บริษัทเป็นผู้ผลิตปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ที่ครบวงจรแต่จากการเพิ่มทุนเพื่อขยายธุรกิจส่งผลให้อัตรากำไรต่อหุ้นลดลงในปีหน้าขณะที่คาดว่าการขยายกำลังการผลิตทั้งหมดจะแล้วเสร็จในปี 2552 ทำให้การเติบโตของกำไรในช่วง 1-2 ปีข้างหน้ามีไม่มากนัก จากราคาของเอทิลีนและโพรพิลีนที่มีแนวโน้มลดลงขณะที่ราคาวัตถุดิบมีแนวโน้มที่ทรงตัวจะส่งผลให้ส่วนต่างราคา (Spread) ลดลงแต่ทางบริษัทจะมีผลิตภัณฑ์ MEGที่ได้เริ่มดำเนินการผลิตไปแล้วในเดือนตุลาคมจะช่วยเสริมกำไรไม่ให้ตกลงไปมากนักซึ่งการขยายกำลังการผลิตไปยังผลิตภัณฑ์ปลายน้ำมากขึ้นจะทำให้ลดผลกระทบของวัฏจักรราคาปิโตรเคมีต้นน้ำกับผลิตภัณฑ์ขั้นปลายน้ำอีกทั้งในภาวะปิโตรเคมีขาลงผลิตภัณฑ์ปลายน้ำจะได้เปรียบผลิตภัณฑ์ต้นน้ำ ผลของการเพิ่มทุนจะทำให้เกิด Dilution ประมาณ 24% อีกทั้งแผนการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2552 ซึ่งจะทำให้ในอีก1-2 ปีข้างหน้าจะไม่สามารถรับรู้รายได้จากการลงทุนได้อย่างเต็มที่ส่งผลให้อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นลดลง27.9% ในปี 50 แต่หากการขยายกำลังการผลิตแล้วเสร็จจะทำให้PTTCH จะเป็นธุรกิจปิโตรเคมีครบวงจรในสายโอเลฟินส์และจะเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี2553

บล.ยูไนเต็ดแนะนำซื้อ PTTราคาเป้าหมาย 226 บาทPTTEP เนื่องจากมีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายใน โครงการลงทุนใหม่และค่าใช้จ่ายในการสำรวจแหล่งน้ำมันที่เพิ่มขึ้น จากผลประกอบการของบริษัทในเครือ โดยเฉพาะธุรกิจโรงกลุ่มที่ตกต่ำลงอย่างมาก โดยกำไรสุทธิของ TOP และ RRC ลดลง 45% และ 65%QoQ ตามลำดับ เป็นผลจากค่าการกลั่นเฉลี่ยของโรงกลั่นแบบ Complex (รวมผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน) ลดลงจากประมาณ 10.62 เหรียญ/บาร์เรลใน 2Q49 เป็นประมาณ 1.31 เหรียญ/บาร์เรลใน 3Q49 รวมทั้งไม่มีกำไรจากรายการพิเศษ ขณะที่ใน 2Q49 มีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น IPO ของ RRC สำหรับกำไรสุทธิ 9M49 เท่ากับ 79,701 ล้านบาท (+17%YoY)โดยเมื่อเทียบกับประมาณการกำไรปี 49 ของเราคิดเป็น 86% กำไรสุทธิ 3Q49 ที่ออกมาดีกว่าที่คาด 6% โดยเราคาดไว้เพียง 22,938 ล้านบาท และจากผลประกอบการ 9M49ดังกล่าวทำให้คาดว่าประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 49 ของเราที่ 92,326 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 33 บาท น่าจะเป็นไปได้ เราจึงยังคงใช้ประมาณการเดิม รวมทั้งราคาหุ้นอาจจะปรับเพิ่มขึ้นได้ ในช่วงที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกกลับมาปรับตัวสูงขึ้น และประเด็นคดีฟ้องร้อง PTT ต่อศาลปกครองสูงสุดน่าจะได้ข้อสรุปในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า(เดือน ธ.ค.49-ม.ค.50) โดยเราประเมินว่าจะไม่ส่งผลกระทบทางลบต่อ PTT มากนัก ขณะที่บริษัทยังมีศักยภาพการเติบโตของกำไรในระยะยาว ซึ่งมาจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก

บล.กิมเอ็งแนะนำซื้อ DELTAราคาเป้าหมาย 24.70 บาทราคาหุ้น DELTA ปรับลง 1.6% เมื่อวันศุกร์หลังจากประกาศผลกำไรไตรมาส 3/49 ต่ำกว่าคาดและต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้าราว 2% อันเนื่องมากจากราคาวัตถุดิบโดยเฉพาะ ICที่ปรับตัวสูงขึ้นและกดดันอัตรากำไรขั้นต้น อย่างไรก็ดี ผู้บริหารของ DELTA กล่าวในการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าบริษัทสามารถปรับเพิ่มราคาบางสินค้าได้บ้างในช่วงปลายปีซึ่งน่าจะช่วยให้อัตรากำไรฟื้นตัวได้บ้าง เราคงคาดว่ากำไรปกติของ DELTA จะเพิ่มขึ้น 26%yoy เป็น 2.69 พันล้านบาทหรือ 2.16 บาท/หุ้นในปีนี้ อย่างไรก็ดี ด้วยรายการขาดทุนพิเศษสุทธิ 499 ล้านบาทใน 3 ไตรมาสแรกซึ่งมาจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นหลัก เราคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะลดเป็น2.24 พันล้านบาทหรือ 1.80บาท/หุ้น เพื่อสะท้อนราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นในปีนี้ เราได้ปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นในปีหน้าจาก 19.6% เป็น 18.7% ซึ่งยังคงดีขึ้นจากปีนี้เล็กน้อยจากแนวโน้มผลการดำเนินงานของ DES ที่ดีขึ้น จากสมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยน 36 บาท/US$ เราปรับลดประมาณการกำไรปีหน้าลง 7% เป็น 2.76 พันล้านบาทหรือ 2.22 บาท/หุ้นจากการปรับลดการคาดการณ์ดังกล่าวเราปรับลดราคาเหมาะสมจาก 24.7 บาทเป็น 22.2บาท โดยอ้างอิง P/E ปีหน้าที่ 10 เท่า

บล.เกียรตินาคินแนะนำขาย ASPราคาเป้าหมาย 4.35 บาทASP ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/49 มีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท ลดลง19.5%QoQและ48.6%YoY ใกล้เคียงกับที่เราคาดไว้ เนื่องจากถึงแม้ว่าส่วนแบ่งตลาดในไตรมาส 3/49ของ ASP จะสูงขึ้นเล็กน้อยจาก6.17% เป็น 6.21% แต่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่หดตัวลง 17.7% ทำให้รายได้ค่านายหน้าลดลง4.6%QoQ นอกจากนี้จากการร่วมเป็นผู้รับประกันการจัดจำหน่ายงาน IPO เพียงรายเดียวในไตรมาส 3/49ทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง 11%QoQ และในไตรมาสนี้ ASP มีผลขาดทุนจากการซื้อขายหลักทรัพย์ 0.7ล้านบาท จากไตรมาสก่อนที่กำไร 1.9 ล้านบาท ส่วนรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล และรายได้เงินกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 9%QoQ และ 8%QoQ ตามลำดับ ในด้านค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.8%QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มสูงขึ้น ในไตรมาส 4/49ส่วนแบ่งตลาดค่านายหน้าของ ASP ยังฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน โดยเพิ่มขึ้นเป็น 6.55% จากไตรมาสก่อนที่มีส่วนแบ่งตลาด 6.21% ซึ่งเพิ่มขึ้นตามมูลค่าการซื้อขายที่ฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนที่มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 1.3 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 1.48 หมื่นล้านบาท เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2549 ไว้ที่ 375 ล้านบาท โดยส่วนแบ่งตลาดค่านายหน้าเริ่มฟื้นตัวตามมูลค่าการซื้อขาย และยังสามารถคาดหวังเงินปันผลได้ แต่ราคาที่ซื้อขายกันในปัจจุบันสูงกว่าราคาเหมาะสมที่เราให้ไว้ เราจึงปรับคำแนะนำจาก ถือ เป็นขายทำ ถึงแม้ว่าส่วนแบ่งตลาดของ ASP ยังคงฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง ตามมูลค่าการซื้อขาย และยังคงมีปัจจัยบวกจากการที่เราคาดว่า กลต. จะคงค่าคอมมิสชั่นขั้นต่ำที่ 0.25% ออกไปอีก 3ปี ซึ่งจะส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ให้คลายความกังวลต่อผลกระทบที่มีต่อรายได้ของกลุ่มหลักทรัพย์ลงไปได้






[/color:99daeee233">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com