ภายหลัง บมจ.อาร์เอส (RS) แตกพาร์ จาก 5 บาท เหลือ 1 บาท (27 ก.ย.49) ราคาหุ้น RS ก็สามารถติดเครื่อง วิ่งขึ้นจาก 3.06 บาท มาอยู่บริเวณ 5.50 บาท หรือบวกเพิ่มขึ้นถึง 80%...เพียงแค่ช่วงระยะเวลา เดือนเศษ เท่านั้น


ผมมองว่าอันดับแรกน่าจะมาจากการที่มีนักลงทุนจำนวนหนึ่งกำลังมองหาหุ้นที่กำลังฟื้นตัว หรือหุ้นเทิร์นอะราวด์ ซึ่งธุรกิจของ อาร์เอส ก็จัดอยู่ในข่ายนี้ เฮียฮ้อ..สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ.อาร์เอส ชี้แจง..

ก่อนจะเล่าที่มาที่ไปให้ฟังว่า ถ้าเปรียบหุ้น RS ตอนนี้ เราเหมือนบริษัทที่เทิร์นอะราวด์ เพราะหลังจากเมื่อปี 2548 ต้องใช้ระยะเวลาไปกับการปรับโครงสร้างธุรกิจตลอดทั้งปี มีการตัดขายสินทรัพย์ที่ถือเป็นภาระออกไปทั้งหมด เป็นสาเหตุที่ทำให้เราขาดทุนทางบัญชี (ปี 2548) ไปถึง 433 ล้านบาท

พอมาถึงปี 2549 ผมก็ประกาศไปว่า รายได้ของอาร์เอสในปีนี้จะเติบโตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 25%..นั่นคือจากรายได้ 2,747 ล้านบาท ปีนี้ก็น่าจะได้สูงกว่า 3,200 ล้านบาท

เฮียฮ้อ ยืนยันว่า ปี 2549 จะเป็นปีที่อาร์เอสจะมี กำไรดีที่สุด นับตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมา ในรอบ 25 ปี

เพราะเมื่อไตรมาส 2 สามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่กว่า 300 ล้านบาท ไปได้แล้วทั้งหมด และจากนี้ไปรายได้จะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ

ผลประกอบการที่ออกมา มันสะท้อนให้เห็นต่อสิ่งที่ผมพูดออกไปคือ ไตรมาส 1 เราจะมีกำไร ไตรมาส 2 กำไรมากขึ้น และ ไตรมาส 3 ก็สามารถมีกำไรที่สูงกว่าไตรมาสที่ผ่านๆมา

เพราะฉะนั้น ที่สุดแล้ว จึงเชื่อว่าตลอดปี 2549 ตัวเลขผลการดำเนินงานน่าจะเป็นไปตามเป้าที่เราตั้งเอาไว้ มากกว่า 3,200 ล้านบาท

และจากผลประกอบการปี 2549 อาร์เอสยังจะสามารถ จ่ายปันผล ให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ในปี 2550 อย่างแน่นอน ซึ่งนโยบายปันผลจะจ่ายไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ

นายใหญ่ค่ายอาร์เอส อธิบายต่อไปว่า ธุรกิจหลักที่อาร์เอสทำอยู่ในตอนนี้ มันมากกว่าที่หลายๆ คนมองเห็น เพราะวันนี้เราคือ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ แอนด์ สปอร์ต คอนเทนท์ โพรวายด์ และเรายังเป็น มัลติมีเดีย เซอร์วิส

โดยเฉพาะเรื่องของ กีฬา อาร์เอส..คงเอาทุกอย่าง ตั้งแต่จัดการถ่ายทอดสด จัดทัวร์นาเมนท์ และเข้าไปเป็นเจ้าของคอนเทนท์ หรือไลเซ่น ทั้งในและต่างประเทศ

ที่น่าสนใจก็คือ การบริหารจัดการทางด้านของธุรกิจ คอนเทนท์ ถือว่าเป็นธุรกิจที่ให้ มาร์จินสูง แต่ก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพในการบริหารจัดการเช่นกัน

เฮียฮ้อ บอกว่า โลกวันนี้ เรื่องของ คอนเทนท์ ต้องถือว่ามีค่ามากที่สุด และทรงอิทธิพลที่สุด จะมีอยู่เพียง 4 อย่างเท่านั้นคือ หนึ่ง เกม สอง นิวส์ (ข่าวสาร) สาม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (บันเทิง) และ สี่ สปอร์ต (กีฬา)

แต่สำหรับอาร์เอส เรื่องของเกมเราก็ไม่ไปอยู่แล้ว ส่วนนิวส์เราก็ไม่มีความเชี่ยวชาญ ..เพราะฉะนั้น ค่ายอาร์เอสจะกำหนดตัวเองอยู่ที่ 2 ธุรกิจหลักๆ คือ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ และ สปอร์ต คอนเทนท์

เท่ากับว่า ถ้าหาก อาร์เอส สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในเรื่องของบันเทิงและกีฬาได้ ก็จะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจแข็งแรง และมีความยั่งยืน ซึ่งนับจากก้าวนี้ต่อไป ภาพการ มูฟ ของอาร์เอสจะค่อยๆ ชัดเจนมากขึ้น ผู้บริหาร กล่าว

เมื่อถามว่าหุ้น RS วันนี้ ในสายตาของ ผู้บริหารอาร์เอส เวอร์!เกินไปแล้วหรือยัง

เฮียฮ้อ ตอบว่า ราคาหุ้นจะขึ้นอยู่กับตัวเลขผลประกอบการ และความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่ออนาคตของธุรกิจ

ผมก็ยังเชื่อว่า ตอนนี้เราเดินมาถูกทางแล้ว เพราะนับจากปีนี้ไป..(หุ้น)เราก็จะดีขึ้นเรื่อย

แต่สำหรับเป้าหมายการเติบโตในปี 2550 หัวหน้าค่ายอาร์เอสเฮียยอมรับตรงๆ ว่า ยังอยู่ในกระบวนการจัดทำ บิซิเนสแพลน จะชัดก็ประมาณต้นเดือนมกราคม ปีหน้า

กรุงเทพธุรกิจ BizWeek[/color:f0a2a7c19b">

ฟฟฟฟ2


อ้าว น้องฟิล์ม ช่วยเฮียสุดฤทธิ์


ฟฟฟฟ2