หุ้น ไทยหุ้น ตลาดหุ้น สนทนาเรื่องหุ้น สังคมของนักลงทุน

เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ปิดตำนาน CVD หุ้นจ่ายปันผลเด่น

Tweet #TwitterStories

ตั้งกระทู้ตอบ

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973

วันที่: 10/11/2006 @ 15:04:02

คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต

ชอบ

0.00%

0 คน

ไม่ชอบ

0.00%

0 คน

.000009

CVD หมดเสน่ห์... 2 ค่ายหนังยักษ์ร่วมปิดตำนานการเป็นหุ้นจ่ายปันผลเด่น หลังไม่ต่อสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในงานภาพยนตร์ ล่าสุดกลั้นใจเปิดเผยกำไรที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

* องค์กรไร้ เผด็จ - ไม่ต่อสัญญา 2 ยักษ์ค่ายหนัง
บริษัท ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) กลายเป็นบริษัทที่ไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ นายเผด็จ หงษ์ฟ้า ถอนตัวออกจากการเป็นผู้ถือหุ้นและผู้บริหารของบริษัทฯ

ล่าสุด CVD ยังมีมรสุมรุมเร้าระลอกสอง เมื่อบริษัทฯ ประกาศว่ามีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการไม่ต่อสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในงานภาพยนตร์ ที่ได้ทำไว้กับค่าย TWENTIETH CENTURY FOX HOME ENTERTAINMENT และ BUENA VISTA HOME ENTERTAINMENT

โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากค่าลิขสิทธิ์ของค่ายหนังดังกล่าวสูงขึ้นมาก ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันได้ชะลอตัวลง อันเนื่องมาจากปัญหาราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น และปัญหาการเมืองที่ไม่มีความแน่นอนทำให้ผู้บริโภค ลดการใช้จ่ายลง รวมทั้งสถานการณ์การละเมิดลิขสิทธิ์ในปัจจุบันได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ

* ยอมรับผลการดำเนินงานลดลงแน่
ผลกระทบจากการไม่ต่อสัญญาดังกล่าว มีผลตั้งแต่เดือนกันยายน 2549 และในเดือนมกราคม 2550 ตามลำดับ โดยบริษัทฯ ได้คาดการณ์ว่า จะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยรวมจะเกิดภาวะขาดทุนได้
แต่บริษัทฯ ยังคงปลอบใจผู้ถือหุ้น ด้วยการให้คำมั่นสัญญาผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะจัดการกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ โดยการเพิ่มจำนวนหนังจากค่ายอื่นๆ ที่มีคุณภาพ และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น รวมทั้งการจัดหารายได้เสริมจากช่องทางอื่นๆ ในธุรกิจ entertainment ต่อไป

* Q3/49 และงวด 9 เดือน กำไรร่วงหนัก
ความถดถอยของ CVD ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ผลการดำเนินงานที่ลดลงของบริษัทฯ ซึ่งล่าสุดในไตรมาส 3/2549 สิ้นสุด 30 กันยายน 2549 ปรากฏว่า CVD มีกำไรสุทธิเพียง 11.56 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.36 บาท ลดลง 57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 27.08 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้นที่ 0.84 บาท
ส่วนงวด 9 เดือน ยังเหลือกำไรเพียง 29.40 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.91 บาท ลดลงมากจากกำไร 62.60 ล้านบาทในงวด 9 เดือนปีก่อน และจากกำไรต่อหุ้นที่ 1.93 บาท

* แจง ยอดขาย-กำไรขั้นต้นลดลง
ผลกำไรที่ลดลงดังกล่าว บริษัทฯ ชี้แจงว่า มีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของยอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจหลัก (CVDI) โดยในไตรมาสล่าสุดนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายลดลงถึง 40% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 27% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน
โดยการลดลงของรายได้ดังกล่าว มีสาเหตุหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจ ผลกระทบของราคาน้ำมันอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และภาวะการเมือง ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่าย
ตลอดจนปัญหาสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในปัจจุบันได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ ประกอบกับการสิ้นสุดสัญญาลิขสิทธิ์กับค่าย Twentieth Century Fox Home Entertainment ในเดือนกันยายน 2549

* หวัง BEC ออกแรงหนุน
CVD ยังไม่หมดความหวังเสียทีเดียว เพราะการมีผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) (BEC) และตระกูล มาลีนนท์ ย่อมเป็นที่คาดหมายว่าจะสามารถสนับสนุนการดำเนินงานของ CVD ได้เป็นอย่างดี
โดยหวังว่าตระกูลมาลีนนท์จะร่วมสร้างผลกำไรในการดำเนินธุรกิจของ CVD ภายใต้แรงหนุนของ BEC และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่กระแสหนังเกาหลีมาแรง รวมทั้งหนังจีนชุด น่าจะทำให้รายได้ของ CVD ปรับตัวดีขึ้น แต่ความหวังนี้ก็ยังคงเป็นความหวังต่อไป เพราะไม่สามารถช่วยให้รายได้ CVD ขยับเพิ่มขึ้นได้

* ราคาหุ้น CVD ร่วงต่อเนื่อง
ด้านราคาหุ้น CVD ได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2549 ที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้น, การบริหารงาน และโครงสร้างธุรกิจ ราคาหุ้น CVD ที่เคยปรับสูงสุดที่ระดับราคา 26.25 บาทในวันที่ 1 เดือนมีนาคม 2549 ได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งล่าสุดที่ประกาศผลการดำเนินงานขาดทุนในไตรมาส 3/49 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2549 ปรากฏว่า ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 14.00 บาท ลดลงจากระดับราคา 26.25 บาท ถึง 46.66%

* โบรกฯ ประสานเสียงหลีกเลี่ยง-ขาย
มรสุมที่รุมเร้า CVD ระลอกแล้วระลอกเล่า ส่งผลให้บรรดานักวิเคราะห์หลักทรัพย์ได้ปรับคำแนะนำหุ้น CVD จากอดีตที่เคยเป็นหุ้นเด่นด้านการจ่ายปันผลที่ดี กลับกลายเป็นหุ้นที่ต้องหลีกเลี่ยง และต้องขายออก หนีผลกำไรที่ลดลงอย่างไม่มีแววฟื้นตัว
บล.เกียรตินาคิน ได้แนะนำหลีกเลี่ยง เนื่องจากยังคงไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของ CVD ซึ่งยอดขายและกำไรจากการดำเนินงานตามปกติยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าปี 49 CVD จะมีรายได้รวมเท่ากับ 671 ล้านบาท ลดลง 31% จากช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิเท่ากับ 30.37 ล้านบาท ลดลง 66% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และคาดจากผลการดำเนินงานปี 2549 บริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลเท่ากับ 0.66 บาท/หุ้น คิดเป็น Div Yield เท่ากับ 4.6%

ขณะที่ บล.ซีมิโก้ แนะนำ ขาย โดยระบุว่า แม้คาดว่า CVD จะให้ผลตอบแทนปันผล 4% จากกำไรปี 2549 แต่การสูญเสียลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายภาพยนตร์ของ The Twenty Century Fox และ Buena Vista จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ผลการดำเนินงานพลิกเป็นขาดทุนในปี 2550

นอกจากนี้ บล.กรุงศรีอยุธยา ได้แนะนำขายเช่นกัน โดยระบุว่า การลดลงของยอดขายที่ติดต่อกันหลายไตรมาสเป็นสิ่งที่น่ากังวล ขณะที่แนวโน้มการแข่งขันมีความรุนแรงมากขึ้น โดยมีคู่แข่งสำคัญคือ บริษัท แปซิฟิค มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (PMEG) และ บริษัท เอ็มพิคเจอร์สของเครือ MAJOR ซึ่งต้องการรุกตลาด Home ntertainment มากขึ้นเพื่อสร้างความต่อเนื่องให้กับธุรกิจหลัก (โรงภาพยนตร์) [/color:521a1ab514">[/size:521a1ab514">

.000011

กลับขึ้นบน

innocent
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 729

วันที่: 12/11/2006 @ 19:18:47 : re: ปิดตำนาน CVD หุ้นจ่ายปันผลเด่น

ดูความสามารถของผู้บริหารต่อไป..... .000004

กลับขึ้นบน

ตั้งกระทู้ตอบ