May 5, 2024   8:00:40 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กระซิบหน้าจอ มาแล้วเจ้าค้า
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 09/11/2006 @ 13:45:01
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

SET Index
วันพุธที่ 8 พ.ย. ปิดที่ 738.93 จุด +0.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 17,532 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิที่ 365.06 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิที่ 194.78 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิที่ 559.84 ล้านบาท SET Index ทำ High ที่ดัชนี 741.96 จุด +3.06 จุด และ Low ที่ดัชนี 736.14 จุด -2.76จุด ขึ้นมาแรงก็ต้องปรับฐานกันบ้างเป็นทำ-มะ-ดา แต่ช่วงเช้าแรงดีซื้อขายกันหนาแน่นแม้จะเห็นว่าดัชนีแผ่วลงไปแกว่งที่แดนลบบ้างซึ่งก็ซื้อหุ้นรับเหมาและวัสดุก่อสร้างดันดัชนีให้เป็นบวกได้ ส่วนช่วงบ่ายตลาดต่างประเทศต่างก็อ่อนตัวลงไปก่อน ตลาดหุ้นไทยบ้านเราก็เป็นไปตามกระแสถอยลงด้วยเหมือนกันทำให้ Index ยืนค่อนไปในแดนลบกลับกันจากช่วงเช้าที่เปิดบวกและยืนค่อนในแดนบวก โดยมีหุ้นแบงค์และสื่อสารเป็นตัวการสำคัญฉุดดัชนี แม้ว่าราคาน้ำมันโลกจะอ่อนตัวลงแต่ก็เหมือนยังมีโชคอยู่บ้างที่หุ้นพลังงานไม่ได้โดนทิ้งลงแต่อย่างใดกลับช่วยพยุงตลาดไว้ สุดท้ายปิดทำการสิ้นวันดัชนีบวกไปเพียงเล็กน้อย

PTTCH
ราคาเปิด - ปิด บาท 78 มูลค่าการซื้อขาย 157.184 ล้านบาท รายงานผลกำไร 3Q06 อยู่ที่ 4,628 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29%YoY จากส่วนต่างราคาจำหน่ายผลิตภัณฑ์กับราคาวัตถุดิบที่ยังคงอยู่ที่ระดับสูงตามราคาผลิตภัณฑ์หลักโอเลฟินส์และการเดินเครื่องใช้อัตรากำลังการผลิตเต็มที่ ในส่วนของ 4Q06คาดว่าผลการดำเนินงานจะเริ่มมีการอ่อนตัวลงตามราคาโอเลฟินส์ที่มีการปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบ หากมองตามทฤษฎีอาจจะส่งผลทำให้ปรับตัวลดลงบ้างตามราคาน้ำมัน แต่ทั้งนี้ควรดูในส่วนต่างของราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบ และจากแนวโน้มของธุรกิจปิโตรเคมีในปี50 ที่น่าจะยังเติบโตต่อเนื่อง K.KRAZIP แนะนำ ซื้อ แนวรับ 77.50 บาท แนวต้าน 79 บาท

PSL
ราคาเปิด 43.75บาท ราคาปิด 45.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 46.90 ล้านบาท แม้กำไรไตรมาส 3/49 ของ PSL จะลดลง 23%YoY แต่ก็เป็นแนวโน้มการลดลง YoY ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 2 ไตรมาสที่ผ่านมาของปีนี้ แต่ในไตรมาส 3/49 เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีเกิดขึ้น และคาดว่าจะต่อเนื่องไปในไตรมาส 4/49 คืออัตราการลดลงของกำไรสุทธิ YoY ได้ปรับลดอย่างมีนัยสำคัญ โดยกำไรสุทธิไตรมาส 1/49 และไตรมาส 2/49 ลดลง 57-58%YoY เทียบกับกำไรสุทธิไตรมาส 3/49 ที่ลดลงเพียง 23%YoY และเพิ่มขึ้น 39%QoQ สาเหตุการเพิ่มขึ้น QoQ ทั้งหมดเกิดจากรายได้ค่าระวางเรือเฉลี่ย/ลำ/วันไตรมาส 3/49 ที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายดำเนินงานเรือ/ลำ/วันในไตรมาส 3/49 ลดลง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นรวมค่าเสื่อมราคาไตรมาส 3/49 เพิ่มขึ้นจาก 39.18% ในไตรมาส 2/49 เป็น 47.77% และเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้กำไรสุทธิไตรมาส 3 /49 เพิ่มขึ้น QoQ สำหรับไตรมาส 4/49 คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิยังคงสามารถเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง QoQ จาก 2 เหตุผลหลักๆ คือ แนวโน้มของ BDI ไตรมาส 4/49 ที่เพิ่มขึ้นกว่า 30% เทียบกับไตรมาส 3/49 จำนวนวันที่ PSL ทำสัญญาเช่าระยะยาวปัจจุบันอยู่ที่ 41.4% เทียบกับปี 48 ที่อยู่สูงถึง 71.4% ทำให้ PSL ได้ประโยชน์จากการปรับตัวขึ้นของ BDI ในไตรมาส 4/49 เต็มๆ K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเก็งกำไร โดยมีแนวรับที่ 44.00 บาท แนวต้านที่ 47.50 บาท

PTT
ราคาเปิด - ปิด 228 บาท มูลค่าการซื้อขาย 662.88 ล้านบาท มีการดำเนินการแก้ปัญหาข้อกฏหมายของ PTT ได้แก่ แก้พระราชกฤษฎีกากำหนดอำนาจ สิทธิ และประโยชน์ ของปตท. พ.ศ. 2544 ซึ่งให้อำนาจแห่งรัฐรวมทั้งสิทธิประโยชน์ แก่ PTT และให้มีการโอนอำนาจแห่งรัฐนี้กลับคืนไปให้หน่วยงานกำกับดูแล ข่าวที่ออกมาดังกล่าวน่าจะเป็นข่าวดีเพราะเป็นก้าวแรกในการที่รัฐบาลจะจัดการกับปัญหาทางกฏหมายของ PTT ได้เร็วกว่าที่คาดไว้ การแก้ไขพระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับจะเป็นทางออกในการแก้ไขปัญหาหลักของPTT 2 ประการ และจะทำให้ประเด็นเรียกร้องให้การแปรรูปฯ เป็นโมฆะตกไป และเนื่องจากขั้นตอนในการออกพระราชกฤษฎีกาเป็นเพียงการผ่านความเห็นชอบของ ครม. ดังนั้น จึงคาดว่าการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นภายในปลายปีนี้ ก่อนที่ศาลจะเริ่มกระบวนการไต่สวน K.KRAZIP เชื่อว่าการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาน่าจะเป็นข่าวดีในระยะสั้นต่อราคาหุ้น PTT ในขณะที่การปรับโครงสร้างองค์กรของ PTT จะเป็นปัจจัยบวกในระยะยาวที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ ซื้อ แนวรับที่ราคา 226 บาท แนวต้านที่ราคา 232 บาท

KBANK
ราคาเปิด 72.50 บาท ราคาปิด 71.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 510.71 ล้านบาท ในปี2550 KBANK ตั้งเป้าขยายสินเชื่อ 8-13% ซึ่งในปี 2549 เติบโต 6-9% จะเน้นลูกค้า SME ซึ่งให้ Net yield สูง สำหรับรายได้ค่าธรรมเนียม คาดว่าจะขยายตัวมากกว่า 20% ต่อปี เนื่องจากการเริ่มใช้รูปแบบระบบการขายและให้บริการแบบใหม่ซึ่งเราคาดว่าจะทำให้เกิดการCross sellingมากขึ้นจากการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เร็วขึ้น นอกจากนี้การมุ่งเน้นในกลุ่มSMEsมากขึ้นคาดว่าจะส่งผลดีต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่น่าจะปรับขึ้นได้อีก 0.18%ในปีหน้า และประมาณการว่า NPL ของ KBANK จะลดลงเป็น 6.0% ในสิ้นปี 49 และเป็น 5.0% ในสิ้นปี 50 จะตั้งสำรองค่าเผื่อฯมากขึ้นใน Q4/49 และปี 50 เพื่อรองรับการตั้งสำรองตามมาตรฐานบัญชีสากล ซึ่งจะไม่กระทบต่อความแข็งแกร่งด้านงบดุลมากนัก เพราะ KBANKมีสำรองสะสมและเงินกองทุนอยู่ในระดับสูงที่จะรับกับมาตรฐานบัญชีใหม่ที่เกี่ยวกับการตั้งสำรองค่าเผื่อฯ ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ ซื้อลงทุน แนวรับที่ราคา 70.50 บาท แนวต้านที่ราคา 75 บาท[/color:b6286af721">

.000005 .000005

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com