May 5, 2024   3:33:58 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > วิพากษ์หุ้น
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 09/11/2006 @ 13:38:51
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เปิดประตูเศรษฐกิจ..กับตลท.
?เป็นสิ่งที่ดีสำหรับชาวต่างชาติที่จะมองเข้ามา หรือแม้กระทั่งคนไทย ให้เห็นว่าเรากำลังเดินเศรษฐกิจต่อ ไม่ใช่ต้องการไปแก้รัฐธรรมนูญอย่างเดียว ผมคิดว่าในแง่ของผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ เราต้องการให้มีการส่งสัญญาณให้ชัดเจนในการขับเคลื่อนกลไกเศรษฐกิจของประเทศต่อไป?

การลงทุนในแต่ละครั้ง ตัวเลขเศรษฐกิจมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจ โดยการพลิกฟื้นความเชื่อมั่นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์เห็นความสำคัญของทิศทางการลงทุนกับความเชื่อมั่นที่ควรจะมี จึงเกิดการจัดงาน Open House with Economic Ministers ขึ้นในวันศุกร์ที่ 10 พ.ย. 2549 เวลา 8.00 - 15.30 น. โรงแรมอินเตอร์ คอนติเนนตัล ส่วนจะมีประเด็นใดน่าสนใจบ้างนั้น คุณวิเชฐ ตันติวานิช รองผุ้จัดการดูแลสายงานศูนย์ระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ร่วมเผยสาระสำคัญต่างๆ ผ่านรายการ ?วิพากษ์หุ้น? ส่วนจะมีตัวเลขใดและหุ้นใดที่ได้รับเลือกให้เป็นหุ้นเด่นในงานบ้าง หาคำตอบได้จากคุณวิเชฐต่อไป
-งาน Open House with Economic Ministers ถือว่าเป็นงานใหญ่สำหรับช่วงปลายปีหรือไม่
คุณวิเชฐ ถือว่าใหญ่ เพราะหลังจากที่ได้มีรัฐบาลใหม่คือ งานครั้งนี้ที่ตลาดหลักทรัพย์เข้าไปจัดอย่างเต็มตัว

-รัฐมนตรีที่ไปในงานมีใครบ้าง
คุณวิเชฐ มี 5 ท่าน รองนายก 2 ท่านคือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมทั้ง โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
หรือ ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานดูพลังงาน และเกริกไกร จีรแพทย์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์ รวมทั้ง สิทธิชัย โภไคยอุดมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต้องถือว่า 5 กระทรวงหลักเป็นกระทรวงสำคัญ ของการขับเคลื่อนกลไกเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

-สิ่งที่นักลงทุนจะได้ในการไปร่วมงานครั้งนี้คือสิ่งใด
คุณวิเชฐ คิดว่าจุดที่จะต้องพูดให้ชัดเจนในงานครั้งนี้ น่าจะเป็นเรื่องรัฐมนตรีแต่ละที่มาพูดถึงเรื่องการสานต่อ โดยโครงการไหนจะไปต่อ และโครงการใดจะหยุดไว้ก่อน สิ่งที่สำคัญคือ ทั้ง 5 ท่าน เมื่อพูดแล้วจะต้องได้ภาพทำนองว่า การร่างรัฐธรรมนูญใหม่กับเรื่องของเศรษฐกิจที่จะต้องเดินต่อไป ต้องแยกกัน และมีหลายอย่างที่จะต้องสร้างความชัดเจนตรงนี้ให้เกิดขึ้น

-ทิศทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญ
คุณวิเชฐ ใช่ นโยบายเศรษฐกิจต้องเดินให้เร็ว ผมคิดว่าในมุมที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งคือ ตลาดหลักทรัพย์เป็นห่วงมากในเรื่องนี้จึงรีบจัดงานนี้ขึ้นมา หลังจากที่วางแผน และช่วงหลังที่เสนอรัฐบาลกับสภานิติบัญญัติ เราตั้งใจว่าของที่เราเห็นว่ารองนายก 2 ท่าน สังเกตให้ดีว่า มีนายก 1 คน มีรองนายก 2 คน และ ทั้ง 2 คน มาทางเศรษฐกิจทั้งคู่ ฉะนั้นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับชาวต่างชาติที่จะมองเข้ามา หรือแม้กระทั่งคนไทย ให้เห็นว่าเรากำลังเดินเศรษฐกิจต่อ ไม่ใช่ต้องการไปแก้รัฐธรรมนูญอย่างเดียว ผมคิดว่าในแง่ของผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ เราต้องการให้มีการส่งสัญญาณให้ชัดเจน กับคนที่เราจะเชิญให้เข้ามาฟังในวันนั้น

-นโยบายพลังงานจะเป็นจุดเด่นของงานหรือไม่
คุณวิเชฐ บางคนเจาะลึกไปถึง ปตท. เงินนักลงทุนอยู่ในปตท.อยู่แล้ว และจะทำอย่างไรกับปตท. และจะแก้ปัญหาอย่างไร จะออกเป็นบวกหรือลบอย่างไร และปตท.ก็จะมาให้ข้อมูล

-ตัวแทนบริษัทที่เข้าร่วมในงานมีบริษัท ใดบ้าง
คุณวิเชฐ มี 8 บริษัทที่เข้าร่วม เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) ซึ่งเป็นหุ้นที่รับความนิยมมาก ไปโรดโชว์ครั้งใดนักลงทุนก็อยากจะคุย และ บริษัทผลิตไฟฟ้า ( EGCOMP ) บริษัท ปตท. ( PTT) หรือแม้แต่ บริษัท ไออาร์พีซี หรือชื่อเดิม TPI ซึ่งเมื่อเปลี่ยนชื่อแล้วจะกลับมายิ่งใหญ่ได้อย่างไร มี บริษัท ช.การช่าง (CK) ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับเมกกะโปรเจคต์ ซึ่งกำลังดูกันอยู่ และมีบริษัทบ้านปู (BANPU) ซึ่งเป็นพลังงานทดแทนถ่านหิน มีแบงก์อยู่ 2 แบงก์คือ ธนาคารกรุงไทย (KTB) กับธนาคารกรุงเทพ (BBL)

-มีการลงคะแนนเสียง หรือว่าทางผู้จัดงานคัดสรรเอง
คุณวิเชฐ มีการโหวต เพราะเชิญนักลงทุนจากต่างประเทศ โดยบินมาจากต่างประเทศและสอบถามนักลงทุนเหล่านั้นว่าอยากจะพบกับบริษัททใด โดยเชิญมาเพื่อคุยกับท่านรัฐมนตรีทั้ง 5 ท่านและกลับ ผมคิดว่าเสียเวลา จึงได้ถามว่าเวลาที่เหลือจะคุยกับใครหรือไม่ จึงได้ข้อสรุป 8 บริษัท ที่นักลงทุนต่างประเทศอยากจะพูดคุยมากที่สุด

-โรดโชว์จะมีผลต่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์หรือไม่
คุณวิเชฐ ผมคิดว่าใช่ ถ้าสังเกตให้ดีต้นเดือนตุลาคมสำหรับปีนี้ปีเดียว เพิ่งปฏิรูปการปกครองมาไม่นาน แต่ต้นเดือนตุลาคมมีเม็ดเงินจากต่างชาติเข้ามา ค่อนข้างมาก พิสูจน์ได้จากหน้าหนังสือพิมพ์ว่าค่าเงินบาทแข็งขึ้นมาทันตาเห็น แต่ที่คิดว่ามากผมว่าไม่มากเท่าไร เพราะธรรมดาของนักลงทุนต่างชาติเวลาจะเข้ามาในตลาด นักลงทุนพวกนี้จะนำเม็ดเงิน 20-25% ที่จะใส่เข้ามา ถ้าถามว่าต่างชาติซื้อหรือไม่ แต่ถ้าดูเม็ดเงินต่างชาติตอนนี้เป็นการค่อยๆ ซื้อ แต่จริงๆ ต้องบอกว่าช่วงก่อนหน้านี้ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา นักลงทุนต่างชาติขายมาตลอด ฉะนั้น เม็ดเงินที่เคยอยู่ในประเทศไทย จริงๆ ออกไปบ้างบางส่วน แต่เดือนตุลาคมกลับเข้ามา หากได้รับความมั่นใจจากการชี้แจงรอบนี้ ให้ข้อมูลใหม่รอบนี้ ผมเชื่อว่าจะเป็นบรรยากาศที่ดี ในระยะที่เรียกว่า เทคนิคของตลาดหุ้น

-มองดัชนีตลาดหุ้นเป็นอย่างไร
คุณวิเชฐ ผมคิดว่าปีนี้ตลาดหลักทรัพย์คาดการณ์ว่า ปริมาณการซื้อขายแต่ละวัน โดยเฉลี่ยน่าจะประมาณ 10,000 กว่าล้านบาท โดยตลาดที่บูมจริงๆ เคยทำได้ 30,000-40,000 ล้านบาทต่อวัน บรรยากาศตอนนั้นผมคิดว่าคงไม่ได้เห็นในช่วงเวลาแบบนี้ คงจะต้องย่อยข้อมูลกันอีกสักเล็กน้อย

-การเติบโตของดัชนีในปัจจุบัน ถือว่าเป็นไปตามกลไกหรือไม่
คุณวิเชฐ ดัชนีแบบนี้ผมชอบ เพราะเป็นเรื่องที่มีการปรับขึ้นเล็กๆ ตลอดเวลา ไม่ใช่ วิ่งขึ้นไปอย่างเดียวและลงอย่างเดียว การที่มีการซื้อเข้าขายออกในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอน มีการปรับขึ้นลงบ้าง เป็นตลาดที่ดี สังเกตได้หากนับเป็นเปอร์เซ็นต์ 0.75-1% อยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่เมื่อไรที่ 1.5-2% จะทางขึ้นหรือลงก็ตาม จะเป็นสัญญาณที่มีการปรับสูงเกินไป

-กองทุนที่จะมาร่วมงานมีประมาณกี่กองทุนและเป็นกองทุนต่างชาติประมาณเท่าไร
คุณวิเชฐ ถ้านับเป็นกองทุนประมาณ 20-30 กองทุน มาจากองค์กรและบริษัท ถ้าเป็นคนประมาณ 50 คนที่บินมาจากต่างประเทศ และจะมีโบรกเกอร์ที่เป็น Forain Broker ของเมืองไทยอีกกว่า 20 คน โดย 2 กลุ่มนี้ที่เป็นต่างชาติแล้ว ประมาณ 75 คน ที่เหลือจะเป็นบลจ.ไทย ประมาณ 20 คน และอาจจะมีด้านของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนบ้างเล็กน้อยประมาณ 100 คน คือผู้ที่มีอิทธิพลทางด้านการลงทุนต่อตลาดทุน

-รูปแบบการจัดงานเป็นอย่างไร
คุณวิเชฐ หลังจากที่มีการให้ถามตอบแล้วจะมีการทานเลี้ยง ช่วงเช้ามีการถ่ายทอดสด ช่วงเที่ยง เราจะไม่ให้สื่อมวลชนเข้ามา ส่วนคนที่ได้เข้าคือ 100 ท่านที่ได้พูดถึง โดยจะเข้าไปคุยแบบลับเฉพาะ หรืออยากจะถามข้อมูลเชิงลึกก็ถามไปเลย เพราะว่าฟังจากช่วงเช้าแล้วอาจจะมีคำถามแบบเจาะลึก ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จนถึง 17.00 น.
เคาะกระดานหุ้น
คุณสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บล.นครหลวงไทย จำกัด

-หุ้นก่อสร้างได้รับความสนใจมาก ตรงนี้มีมุมมองอย่างไร
คุณสุกิจ คงต้องบอกว่าระยะสั้น เป็นหุ้นที่มีประเด็นที่สนับสนุนราคาหุ้น เพราะว่าครม.มีมติผ่านเรื่องรถไฟฟ้า 5 สาย คงเป็นการสะท้อนในเชิงบวกของราคาหุ้น หลังจากที่รอความชัดเจนมานาน โดยราคาหุ้นได้มีการปรับขึ้นมารอข่าวนี้เช่นกัน ต้องยอมรับว่าระยะสั้นๆ กลุ่มก่อสร้างยังคงเป็นกลุ่มที่มีแรงบวก เพราะว่าภาพตลาดจริงๆ ในเดือนพฤศจิกายน การปรับตัวของตลาดมี 2 ประเด็น คือ เรื่องของเงินที่เข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นกลุ่มธนาคาร ส่วนที่ 2 คือ หุ้นอสังหาริมทรัพย์ เรื่องบ้าน ดอกเบี้ย รับเหมา นิคม โดย 2 กลุ่มนี้ ทำให้ INDEX ปรับขึ้นมาในเดือนนี้

-หุ้นอสังหาฯนอกจาก LH จะมีตัวใดที่โดดเด่นอีกบ้าง
คุณสุกิจ ถ้าบอกว่ายึดหลักประเด็นเรื่องรถไฟฟ้า จะมี LH, SPALI, LPN ที่มีโครงการอยู่ในเส้นทางของรถไฟฟ้า ซึ่งผมถือว่ากลุ่มนี้น่าสนใจมาก เพราะกลุ่มนี้มีโครงการที่จะขึ้นอยู่แล้ว หากรถไฟฟ้ามีการก่อสร้างก็จะได้ประโยชน์แน่ๆ ในระยะยาว

-TPIPL และ IRPC ที่เป็นชื่อใหม่ของ TPI หากให้ประเมิน หุ้นทั้ง 2 ตัวนี้ จะประเมินอย่างไร
คุณสุกิจ ผมคิดว่า IRPC เป็นหุ้นที่แนะนำให้ซื้อ ผมคิดว่าการโรดโชว์ครั้งนี้ ผมคิดว่า IRPC จะเป็นหุ้นที่มีโปรโมชั่นที่น้อยที่สุด หากเทียบกับ 8 บริษัท เพราะเพิ่งเริ่มเปิดตัวและเปลี่ยนชื่อ ผมคิดว่าข่าวและข้อมูลจะมากขึ้นในการตัดสินใจ จริงๆ TPIPL เป็นหุ้นที่มีราคาถ้าเทียบกับ Book Value เป็นหุ้นที่มีราคาค่อนข้างต่ำมาก แต่เรายังไม่ได้ดูในแง่ของปัจจัยพื้นฐาน แต่หุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ปรับขึ้นแล้วตามเศรษฐกิจ และมีแรงส่งจากเรื่องน้ำท่วม หลังจากน้ำลดลง ความต้องการวัสดุก่อสร้าง จะปรับขึ้นมา

ที่มา ทันหุ้น
[/color:17b21ee8fd">

.0008 .0008

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com