May 5, 2024   3:27:35 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารงาน
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 07/11/2006 @ 10:12:22
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

คุณอรพิน จากหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ถามว่า มาร์เก็ตติ้งที่ใช้บริการอยู่เป็นประจำแนะนำว่า หุ้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตัวไหนดีจริง เจ๋งจริง ให้ดูที่การควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารงาน เพราะตัวเลขดังกล่าวจะชี้ให้เห็นถึงศักยภาพในการบริหารจัดการว่ามีมากน้อยเพียงใด เพียงแต่ดิฉันไม่มีเวลาไปกางงบดูหมดทุกตัว เลยอยากทราบว่าจะมีผลต่อการลงทุนมากน้อยเพียงใด

ผมเข้าใจว่า เรื่องงบการเงินเป็นของแสลงสำหรับนักลงทุนทุกยุคทุกสมัย เพราะส่วนใหญ่เชื่อว่าเสียเวลาเปล่าๆ หากต้องไปศึกษารายละเอียดบนงบการเงิน จึงไม่มีนักลงทุนรายไหนคิดจะอ่านงบการเงินแบบจริงๆ จังๆ เลยสักราย

ตรงจุดนี้เองที่ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ยอมเชื่อมาร์เก็ตติ้งมากกว่าตัวเลขบนงบการเงินเพราะบ่อยครั้งหุ้นที่มาร์เก็ตติ้งแนะนำปรับตัวขึ้นแรงๆ ทั้งนั้น ส่วนหุ้นดีๆที่วิเคราะห์บนพื้นฐานทางการเงิน มักอืดเป็นเรือเกลือ กว่าจะขึ้นได้แต่ละครั้งต้องรอนานหลายเดือน

เรื่องนี้จึงเป็นข้อบกพร่องของนักลงทุนรายย่อยที่ยากจะแก้ไขได้ และที่ผ่านมาก็มีน้อยคนที่ยอมเสียเวลาศึกษาเรื่องดังกล่าวนะครับ

ทีนี้ก็วกกลับมายังเรื่องมาร์เก็ตติ้งที่แนะนำว่า หุ้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตัวไหนดีจริงเจ๋งจริง ให้ดูที่การควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารงาน เพราะตัวเลขดังกล่าวจะชี้ให้เห็นถึงศักยภาพในการบริหารจัดการว่ามีมากน้อยเพียงใด

อันนี้เป็นเรื่องจริงทุกประการ แต่จะมีโบรกเกอร์สักกี่รายนำตัวเลขดังกล่าวมาเทียบเคียงว่าใครดีกว่าใครหล่ะครับ

เนื่องจากการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารงาน มักจะเป็นการเปรียบเทียบระหว่างผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นคู่แข่งกัน และที่ผ่านมาผู้บริหารแต่ละค่ายมักจะหยิบยกเรื่องนี้มาข่มกันลับหลังเป็นประจำ

ผมจึงอยากให้คุณอรพินวิเคราะห์แค่ตัวเลขผลกำไร ค่าP/E ค่าP/BV และ ผลกำไรย้อนหลัง 3 ปี เท่านี้ก็พอเป็นแนวทางคร่าวๆ ที่บอกได้ว่า หุ้นที่คิดจะซื้อเป็นหุ้นดีหรือไม่ดี

กระผมขอยกตัวในอดีตที่มีการประเมินกันเบื้องต้นว่า ช่วงปี 2546 อสังหาริมทรัพย์โตอย่างน้อย 20- 25% และธุรกิจสร้างบ้านจะโตแบบก้าวกระโดด จนมีตั้งคำถามว่า ลูกโป่งกำลังโต และจะนำไปสู่ ลูกโป่งแตกในอนาคตหรือไม่

คำถามนี้ ทำให้ผู้ประกอบต่างออกมาให้ความเห็นว่า การโตครั้งนี้เป็นไปตามปกติเพราะตลาด ซบเซามานาน การโตครั้งนี้เป็นการโต แทนสัดส่วนที่ตกต่ำมาร่วม 5 ปีบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นต่างออกมา ประกาศว่า บริษัทจะมีกำไรกันถ้วนหน้า ทำให้หุ้นอสังหาริมทรัพย์มีคนเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก มีทั้งนักเก็งกำไร และนักลงทุนเพื่อรอรับส่วนแบ่งกำไร

แค่คำพูดเหล่านี้ของผู้บริหาร ก็ทำให้ราคาหุ้นอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้นทุกตัว แล้วค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารงานจะมีความหมายอะไรอีกหล่ะครับ

ผมขอแนะนำว่า เรื่องนี้รู้ไว้ก็ไม่เสียหลาย แต่อย่านำไปเป็นสาระสำคัญสำหรับการลงทุนเลยครับ

เนื่องจากเรื่องพรรค์นี้เป็นหน้าที่ของผู้บริหารจะต้องจัดการ หากควบคุมไม่ดีก็มีผลต่อการทำกำไรของบริษัท และอาจมีการสาดโคลน หรือถูกใส่ไข่จากอีกฝ่ายหนึ่งเพิ่มเติมก็เท่านั้นเอง



.00020


[/color:133524e8df">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com