Puu
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476 |  วันที่: 07/11/2006 @ 10:00:40 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต บล.กิมเอ็งแนะนำซื้อ BMCLราคาเป้าหมาย 1.50 บาทหลังจากที่ BMCL ได้มีการปรับขึ้นค่าโดยสารเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราค่าโดยสารเฉลี่ยในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 3.8% จากไตรมาสก่อน เป็น 21.83 บาท/คน ขณะที่จำนวนผู้โดยสารนั้นไม่ได้ลดลงโดยมีผู้โดยสารเฉลี่ยราว 160,000 คน/วัน เพิ่มขึ้นราว 5%จากไตรมาสก่อน เราคาดการณ์ว่าไตรมาส 3/49 บริษัทจะขาดทุนสุทธิเท่ากับ 418 ล้านบาทลดลงจากไตรมาสก่อนที่ขาดทุน 451 ล้านบาท เราปรับประมาณการจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันลดลงจาก 166,826 คน เป็น 163,978 คน และประมาณการอัตราผู้โดยสารเฉลี่ยที่ 21.28 บาท/คน บริษัทฯ มีภาระดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสูงขึ้น เราจึงประเมินผลประกอบการปี 49 จะขาดทุนสุทธิ 1,614 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ขาดทุน 1,716 ล้านบาท เราประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF)โดยใช้อัตราคิดลดที่ 9% คำนวณกระแสเงินสดจนถึงสิ้นอายุสัมปทานหรือช่วงปีบัญชี 2549-2572 โดยไม่มีมูลค่าเมื่อสิ้นสุดสัญญาสัมปทานจะได้มูลค่าเหมาะสมที่ 1.50 บาท ในระยะยาวเราเชื่อว่า BMCL จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นโดยลำดับ ดังนั้นเราแนะนำ ซื้อลงทุน สำหรับ BMCL
บล.ยูไนเต็ดแนะนำซื้อ APราคาเป้าหมาย 5.20 บาท3Q49 มียอดขาย 2,100 ล้านบาท ดีขึ้นหลังปัญหาการเมืองเริ่มคลี่คลาย ส่วนรายได้คาดว่าจะรับรู้เพียง 880 ล้านบาท ลดลง 35%YoY จากยอดขายบ้านเดี่ยวแล้วทาวน์เฮ้าส์ในช่วงไตรมาส 2 ไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม AP ได้ขายกองทุนรวม โดยคาดว่าจะมีกำไรก่อนภาษี560 ล้านบาท ทำให้ไตรมาสนี้กำไรสุทธิกลับเพิ่มขึ้น โดยเราคาดว่าจะอยู่ที่ 516 ล้านบาทและผลของการขายกองทุน เราจึงต้องปรับประมาณการณ์กำไรสุทธิปี 49 ขึ้นเป็น 1,304ล้านบาท ส่วนปี 50 Backlog คอนโดมิเนียมกว่า 5,000 ล้านบาท จะรับรู้ทำให้ผลประกอบกามีโอกาสเติบโตก้าวกระโดด เราปรับเพิ่มราคาปัจจัยพื้นฐานเป็น 5.20 (PER 11X) (อิงปี 50 ) ผลประกอบการที่จะออกมาดี แต่ราคาปัจจุบันมี Upside Gain เพียง 9% ดังนั้นจึงแนะนำเพียง ซื้อเก็งกำไร อย่างไรก็ตาม บริษัทมีกำไรจากการขายกองทุนรวมซีตี้แอสเสท โดยคาดว่าจะมีกำไรก่อนภาษี 560 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิไตรมาสคาดว่าจะอยู่ที่ 516 ล้านบาท (EPS 0.23 บาท/หุ้น) เพิ่มขึ้น 149%YoY (กำไรสุทธิปกติไม่รวมการขายกองทุนรวมจะอยู่ที่ 129 ล้านบาท (EPS 0.05 บาท/หุ้น) และสำหรับ 9 เดือนแรกคาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิ 984 ล้านบาท(EPS 0.40 บาท/หุ้น)
บล.โกลเบล็กแนะนำซื้อ SISราคาเป้าหมาย 3.70 บาทSIS ดำเนินธุรกิจขายส่งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รายใหญ่ของไทย โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ากว่า 40 ยี่ห้อ โดยผลการดำเนินงานปี 49 คาดว่าจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากปี 48 เนื่องจากเราคาดว่ารายได้จะเติบโตราว 9% แต่ถูกกดดันจากดอกเบื้ยจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น สำหรับผลการดำเนินงานในปี 50 คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% แม้ว่างานของภาครัฐอาจจะชะลอตัวออกไป แต่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับเพิ่มขึ้น, อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มทรงตัวถึงปรับลดลง รวมทั้งบริษัทยังมีนโยบายขยายประเภทสินค้า เพื่อขยายฐานลูกค้า ส่วนเงินปันผลคาดว่าบริษัทจะมีการจ่ายอัตราเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น แนะนำ ซื้อลงทุน ราคาเป้าหมายปี 50, 3.70 บาท แต่ในระยะสั้นควรใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากการซื้อขายในวันที่ผ่านมามีการปรับตัวสูงขึ้นผิดปกติ เราคาดว่ารายได้ในปี 49 จะเติบโตประมาณ 9% ลดลงจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากการแข่งขันทางการตลาดที่สูงขึ้น ประกอบกับปัจจัยทางด้านการเมืองส่งผลให้งานจากภาครัฐชะลอตัว ส่วนผลประกอบการใน 4Q49 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นหลังจากปัจจัยต่างๆเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ทำให้กำไรสุทธิเติบโตไม่ได้มาก มาจากดอกเบี้ยจ่ายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 45% ดังนั้น จึงส่งผลให้กำไรสุทธิปี 49ปรับตัวขึ้นไม่มากนัก
บล.ธนชาตแนะนำซื้อ BLSราคาเป้าหมาย 15.20 [kmคาดกำไรยังเติบโตต่อเนื่องปรับลดประมาณการกำไรสุทธิ แต่ยังแนะนำ ซื้อ ฐานลูกค้าหลักทรัพย์ที่กระจายตัว...ช่วยลดความผันผวนของ marketshare รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการยังคงเติบโตต่อเนื่องผู้บริหารคาดว่ายังไม่มีการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นในปีหน้า จากผลการดำเนินงานใน 3Q06 ของ BLS ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ประกอบกับสภาวะตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงที่เหลือของปี 2006 ยังชะลอตัวกว่าที่เราคาดไว้นอกจากนี้ การขาดปัจจัยเกื้อหนุนและสินค้าใหม่ในตลาดฯ ที่จะกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนในปีหน้า ถึงแม้เราจะปรับประมาณการกำไลดลง แต่เนื่องจากเราทำการเปลี่ยนแปลงEPS ที่ใช้ในการประมาณการหาราคาเป้าหมายตามวิธี P/E multiple จากปี 2006 ไปเป็นปี 2007 จึงยังส่งผลให้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2007 ไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาเป้าหมายเดิมที่ 15.20 บาท (ใช้prospective P/E ที่ 14 เท่า) เรายังชอบ BLSและแนะนำ ซื้อ เนื่องจาก 1) เราเชื่อว่าการกระจายตัวของฐานลูกค้าหลักทรัพย์รวมถึงการมีฐานลูกค้าของ BBL น่าจะช่วยลดความผันผวนของ market share และยังทำให้ market share ของ BLS ปรับเพิ่มขึ้นได้, 2) จากปริมาณงานในมือของ BLS ที่มีอยู่ทำให้เราเชื่อว่ารายได้ค่าธรรมเนียมและบริการของ BLS จะยังเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง และ 3) เราประมาณการว่ากำไรสุทธิของ BLSจะเพิ่มขึ้น 27% ในปี2006, 12% ในปี 2007 และ 13% ในปี 2008 และจากราคาตลาดในปัจจุบันยังมี upsideอีก 17% กว่าจะถึงราคาเป้าหมายที่เราให้ไว้
[/color:3851c880fa">
|
