May 5, 2024   11:34:32 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สิทธิพิเศษทางภาษี
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 07/11/2006 @ 00:10:21
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

คุณปกรณ์ จาก อ. เมือง ราชบุรี ถามมาว่า ได้รับหนังสือชี้ชวนจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร ชวนให้ซื้อกองทุน LTF บอกว่า ได้หักภาษีเยอะ แต่เงินที่เราต้องจ่ายเพื่อให้ได้ภาษี ก็เยอะตามไปด้วย กำลังคิดว่า สิทธิทางภาษีที่เขาให้เยอะในช่วงแรกกับความเสี่ยงตอนที่เอาไปบริหารแล้วยาวกว่า 5 ปี จะคุ้มกันหรือไม่ กับการถือเงินไว้ลงทุนเองทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่กองทุนรวม?

คิดแบบนี้ ถือว่ามีเหตุผลตามแบบนักลงทุนที่ดีครับ เพราะ สิทธิประโยชน์ด้านภาษีที่กองทุนรวมเสนอขายเพื่อจูงใจนักลงทุนนั้น ต้องคิดเสมอว่า เป็นผลประโยชน์ของผู้จัดการกองทุนและ บลจ.เองด้วยนะครับ

คงไม่มีใครหน้าไหนในโลก เสนอผลประโยชน์ให้คุณหรือลูกค้ามากมาย โดยเขาจะยอมควักเนื้อกันหรอกครับ

ข้อแรกที่คุณต้องคิดก็คือ กองทุนหรือ บลจ. ต้องได้รับผลประโยชน์ตอบแทนที่ต้องมากกว่าเงื่อนไขที่เสนอให้คุณอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาจะมาของมาล่อขายให้คุณได้อย่างไรครับ

ผมเคยได้อ่านและได้ฟังเรื่องนี้แล้ว บางครั้งก็รำคาญใจมากพอสมควร กับการเชียร์แขกตะบี้ตะบัน เพราะพูดกันเสียกระทั่งว่า คนที่ไม่ซื้อกองทุน LTF หรือ RMF เป็นพวกไม่รู้จักของดี ออมเงินไม่เป็นไปโน่น
อย่างน้อยที่เห็นกันนั้น กองทุนเหล่านี้(ไม่เชื่อขอท้าไปดูได้เลยครับ) ไม่มีกองไหนหรอกที่กล้าประกันผลตอบแทน หรือประกันเงินต้นครับ นั่นมันหมายความมีความเสี่ยงสำหรับนักลงทุนไม่แพ้กองทุนอื่นๆเช่นกัน ยิ่งเอาเงินเราไปบริหารยาวๆด้วยแล้ว ถือว่าผุ้จัดการกองทุนได้เปรียบนักลงทุนนะครับ

เรื่องนี้ จอห์น โบเกิ้ล ประมาจารย์กองทุนรวมอเมริกา และตำรากองทุนรวมที่ไหนๆ ถึงได้แนะนำชัดเจนว่า อย่าเชื่อว่าสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเป็นของวิเศษ และอย่าได้ซื้อกองทุนรวมใดๆ เพราะสิทธิประโยชน์ด้านภาษี เพราะอะไรหรือ? คุณมีสิทธิเสียค่าโง่ได้เสมอสิครับ

พูดถึงตรงนี้ ผมมีคำแนะนำบางข้อว่าด้วย คำแนะนำเรื่องภาษีสำหรับนักลงทุนรายบุคคลดังนี้ครับ

-เปรียบเทียบภาษีกับผลตอบแทน หากคุณต้องซื้อกองทุนรวม และเสียภาษี แต่ผมตอบแทนกองทุนสูงกว่าภาษีที่เสีย กับซื้อกองทุนแต่ไม่ต้องเสียภาษีหรือหักลดหย่อนภาษีได้ แต่ผลตอบแทนต่ำกว่าภาษีที่ได้ลดหย่อน แสดงว่า อย่างแรกต้องดีกว่าอย่างหลัง เพราะอย่างหลังจะมีปัญหาเรื่อง capital loss ตามมา

-เปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ภาษีกองทุนรวม กับ ผลตอบแทนการลงทุนในหุ้นกู้ ซึ่งไม่เสียภาษีเช่นกัน หากอย่างไหนดีกว่า ก็ต้องลงทุนทางด้านนั้น เพียงแต่หุ้นกู้ต้องลงเยอะหน่อย(ตามกฎหมายไทยกำหนดไว้ที่ขั้นต่ำ 10 ล้านบาท)

-ซื้อที่อยู่อาศัยหรืออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งแม้จะเสียภาษี แต่หากทำเลแจ๋ว ก็ยิ่วคุ้มค่ากว่าซื้อกองทุนรวมที่มีสิทธิภาษีเยอะ
เห็นไหมล่ะคร้บว่า ชีวิตไม่ได้มีทางเลือกเดียว และการลงทุนก็ไม่มีทางเลือกเดียวเช่นกัน สิทธิทางภาษีมันเป็นทางเลือกหนึ่งเท่านั้น อาจจะดีสุดหรือไม่ก็ได้


.00020

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com