[b:173735f534">ผลพวงจากการถูกเอเย่นต์สายส่งหนังสือบอยคอต ไม่ส่งหนังสือให้มากถึง 600 หัวทำให้ ทนง โชติสรยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ SE-ED ถึงกับประกาศจัดตั้งระบบสายส่งหนังสือ เพื่อกระจายสินค้าของบริษัทเอง ถือเป็นการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม

เห็นได้ชัดว่าการบริหารจัดการแบบนี้ เป็นการนำ Crisis Managmet มาใช้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าซึ่งในความเป็นจริงแล้วการแก้ปัญหาหลักๆควรอยู่ที่การเจรจากับหนังสือพิมพ์และนิตยสารหัวต่างๆ ว่าจะสรุปออกมาในรูปแบบไหน เพราะเรื่องดังกล่าวทำให้ SE-EDกลายเป็นแพะรับบาปโดยไม่รู้ตัว

การบอยคอตในครั้งนี้ ถ้ามองในแง่ดี ถือเป็นการสร้างเครือข่ายเพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงเอเย่นต์ที่เป็นสายส่งรายอื่นๆ ในอนาคต เพราะก่อนหน้านี้ ทนง เคยมีความคิดที่จะสร้างเครือข่ายสายส่งที่เป็นของ SE-ED เองมานานพอสมควร และหากระบบสายส่งเกิดขึ้นเป็นรูปเป็นร่างเร็วเท่าไหร่ อาจทำให้การบอยคอตในครั้งนี้ถูกมองเป็น โอกาสมากกว่าถูกมองว่าเป็น วิกฤติ ขององค์กรก็เป็นได้

ถึงกระนั้นอย่าลืมว่า การสร้างระบบสายส่งต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร และไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่พูดปุ๊บปั๊บก็สามารถทำได้ทันที เพราะนอกเหนือจากปัญหาของต้นทุนในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ก็ยังมีปัญหาในเรื่องของความชำนาญในการทำระบบสายส่งขึ้นมาเอง

- Crisis Managmet
ภายหลังจากที่ กานดาบุ๊คเซ็นเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ของบมจ. ซีเอ็ดยูเคชั่น หรือ SE-ED มีปัญหากับหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ชั้นนำของประเทศ อย่างไทยรัฐ ,กรุงเทพธุรกิจ, คม ชัด ลึก รวมถึงหนังสือหัวต่างๆ ที่อยู่ในเครือสยามสปอร์ตและแมกกาซีนเล่มอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมจำนวน 600 หัว จนถึงขั้นยกเลิกวางจำหน่ายในร้าน ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ สาขาต่างจังหวัด ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน 2549 ที่ผ่านมาก่อนจะลามมายังสาขาในเขตกรุงเทพฯ เปรียบเสมือนมรสุมลูกใหญ่ที่บริษัทต้องผ่านไปให้ได้

ทันทีที่เรื่องดังกล่าวเริ่มลุกลามใหญ่โตเกินจะแก้ไขได้วันสองวัน ถึงกับทำให้ ทนงโชติสรยุทธ์ เอ็มดีของ SE-ED ต้องรีบออกมายั่งเสียงสำนักพิมพ์ค่ายต่างๆ ว่า มีความประสงค์ที่จะส่งหนังสือพิมพ์และนิตยสารให้กับทางซีเอ็ดอยู่อีกหรือไม่ เพื่อประเมินปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อตัวบริษัทมากน้อยเพียงใด ถือเป็นความชาญฉลาดของผู้บริหารระดับสูงที่ต้องการตีกรอบปัญหาให้อยู่ที่จุดๆ เดียว เพื่อง่ายต่อการแก้ไข

เนื่องจากการบอยคอตไม่ส่งหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร ของสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทต่างๆให้กับ SE-ED เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อรายได้และผลกำไรของบริษัททั้งในระยะสั้น และระยะยาว หากมีการแก้ไขข้อผิดพลาดไม่ตรงจุด

จากวิกฤติดังกล่าว ทะนงได้พยามยามแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการยื่นข้อเสนอให้ทางสำนักพิมพ์ต่างๆ สามารถส่งสินค้าตรงมายังศูนย์กระจายหนังสือ และทางศูนย์ฯจะเป็นผู้ทำการกระจายสินค้าดังกล่าวไปทั่วประเทศที่มีอยู่ทั้งหมด 404 สาขาเองทั้งหมด โดยไม่ต้องผ่านเอเย่นต์ตามต่างจังหวัดเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

เห็นได้ชัดว่าผู้บริหารของบริษัทพยายามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยการสร้างระบบสายส่งของร้านซีเอ็ด เพื่อแก้ปัญหาคอขวดที่เกิดขึ้นจากการจัดจำหน่าย ซึ่งเกิดจากการกระโดดเข้ามาเป็นสำนักพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือแนววิชาการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตลอดเวลา ภาพของสำนักพิมพ์เพื่อสาระและความรู้ของคนไทยจึงชัดเจนและแข็งแกร่งมากขึ้น ทว่าธุรกิจที่เติบโตอยู่เวลาต้องประสบปัญหาทางด้านการดำเนินธุรกิจอีกครั้ง

ปัญหาที่เจอตอนนั้นมันเหมือน คอขวด มันเป็นปัญหาของช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงการจัดจำหน่ายเป็นหลัก ซึ่งผู้จัดจำหน่ายหนังสือ หรือแม้แต่ผู้จัดจำหน่ายนิตยสารทั่ว ๆ ไปต้องเจออยู่แล้ว เราต้องการปฏิวัติระบบการจัดจำหน่ายขึ้นมาใหม่ และต้องทำด้วยตัวเอ

ปัญหาดังกล่าวได้บีบให้ซีเอ็ดขยายไลน์ธุรกิจกระโดดจากสำนักพิมพ์ เข้าสู่การเป็นผู้จัดจำหน่ายหนังสือซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่แม้จะเกี่ยวข้องกับธุรกิจเดิม แต่ซีเอ็ดต้องนับหนึ่งใหม่ทันที

Standing Order คือกุญแจแห่งความสำเร็จในการแก้ปัญหาช่องทางการจัดจำหน่าย โดยซีเอ็ดเข้ามาวางระบบการจัดข้อมูลบนแผงหนังสือใหม่ทั้งหมด จากเดิมระบบธุรกิจหนังสือเกือบทั้งหมด คือการฝากขาย ทันทีที่สำนักพิมพ์ส่งหนังสือให้กับร้านค้าเสร็จสำนักพิมพ์จะเช็กยอดขายได้ก็ต่อเมื่อส่งคนเข้าไปเก็บหนังสือคืน เพราะในร้านหนังสือไม่มีการจัดข้อมูลการขายหนังสือที่เป็นระบบ

เราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า หนังสือเราขายไปกี่เล่ม ทางร้านค้าจะไม่มีการบันทึกไว้ให้เรา ลำพังหนังสือเขาก็เต็มร้านแล้ว วางระเกะระกะไปหมด เราจะทราบได้ว่าหนังสือของเราเหลือกี่เล่มก็ตอนที่เราเข้าไปเก็บเงินค่าหนังสือ นั่นหมายความว่า หนังสือของเรามีอายุที่สั้นลงทันที

ระบบที่ซีเอ็ดพัฒนาและปรับปรุงขึ้นมาใหม่ จะเน้นให้คนเข้าไปเช็คหนังสือที่สำนักพิมพ์ส่งไปทุกอาทิตย์ เพื่อเช็คปริมาณหนังสือที่พร่องไป ซึ่งจะสะดวกกับสำนักพิมพ์ที่จะตัดสินใจเติมหนังสือให้เต็มอยู่ตลอดเวลา ในส่วนของร้านค้าก็ได้รับประโยชน์ในแง่ที่ มีคนมาช่วยเช็คสต็อกและจัดวางสินค้าให้เป็นระเบียบมากขึ้น

การปฏิวัติดังกล่าวถือเป็นอีกก้าวหนึ่ง ที่เป็นผลทำให้ทนงหันสร้างระบบสายส่งและตั้งศูนย์กระจายสินค้า ในช่วงเวลาที่คับขัน เพื่อแก้ปัญหากับเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้

-ความเสี่ยงที่ยังไม่ประเมินการที่ทนง ประกาศที่จัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าเอง เพื่อกระจายหนังสือไปยังสาขาต่างๆจำนวน 404 ที่มีอยู่ทั่วประเทศนั้น รวมถึงการให้สำนักพิมพ์ต่างๆ สามารถส่งหนังสือตรงมายังทีมการตลาดของซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ โดยไม่ต้องผ่านเอเย่นต์ตามต่างจังหวัดเหมือนเช่นที่ผ่านมา เพื่อปิดความเสี่ยงเรื่องการบอยคอตส่งหนังสือ และลดทอนอำนาจของเอเย่นต์ที่เป็นสายส่งของร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายที่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้

เนื่องจากการปิดความเสี่ยงดังกล่าวทำให้บริษัทต้องมีต้นทุนในการบริหารจัดการเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยเฉพาะการจัดระบบขนส่ง(logistic)ในปัจจุบันถือเป็นต้นทุนหลักอันหนึ่งของการดำเนินธุรกิจทุก และควบคุมไม่ให้ค่าบริหารจัดการระบบขนส่งบานปลาย ถือเป็นสิ่งที่ผู้บริหารของบริษัทต้องควบคุมให้อยู่เพื่อจะได้ไม่กระทบต่ออัตรากำไรจากการขายสินค้า

นอกจากนี้ความเสี่ยงในเรื่องของประสบการณ์ในการจัดระบบขนส่ง ถือเป็นสิ่งที่ต้องมีการประเมินความเสี่ยงดังกล่าวรวมลงไปด้วย เพราะในเบื้องต้นการตัด กานดาบุ๊คสโตร์ออกจากการเป็นเอเย่นต์ โดยทางบริษัทจะหันมาทำเองนั้น สามารถลบคำครหาว่าผู้บริหารหรือคนในของ SE-ED เข้าไปมีส่วนรู้เห็น และได้รับผลประโยชน์ กับกานดาบุ๊คสโตร์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ในทางกลับกันหาก SE-ED ไปดึงกานดาบุ๊คสโตร์ มาช่วยเหลือในเรื่องของระบบขนส่ง(อีกครั้ง) อาจทำให้คำครหาในเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่าง SE-ED กับกานดาบุ๊คสโตร์ เกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย และคงจะเป็นการยากที่จะหาเหตุผลใดๆ มาแก้ตัว

เพียงแต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่า การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของ SE-ED ถือว่าทำได้ดีพอสมควร ส่วนในระยะยาวคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ทนง โชติสรยุทธ์ จะงัดกลยุทธ์ใดออกมาใช้กับวิฤกติในครั้งนี้


.00020



[/b:173735f534">[/color:173735f534">