แม้สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีจะปรับตัวขึ้นวูบวาบ ด้วยมูลค่า การซื้อขายที่หนาแน่น แต่หากพิจารณาการปรับตัวขึ้นให้ดีจะพบว่า การปรับตัวขึ้นดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกับต่างประเทศ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ดัชนีไทยตกอยู่ภายใต้อิทธิพล ตลาดหุ้นต่างประเทศอีกครั้ง

โดยนักลงทุนต่างชาติยังเป็นหัวเรือใหญ่ที่คอยบังคับทิศทางดัชนีให้ขึ้นหรือลง เพราะแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ล้วนเจาะจงไปยังหุ้นบลูชิพ ส่วนนักลงทุนรายย่อยยังคงเล่นเก็งกำไรสั้นๆ ในหุ้นขนาดเล็กเหมือนเช่นที่ผ่านมา

ส่วนนักลงทุนสถาบันยังเน้นขายหุ้นทำกำไรออกมาทุกวัน จนดัชนีไม่สามารถทะยานขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 740 จุดเหมือนกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์กันไว้ ขณะเดียว กันเมื่อดัชนีอ่อนตัวลงมาก็มีแรงซื้อเข้ามารับเป็นระยะ ส่งผล ให้ตลอดทั้งสัปดาห์ดัชนีแกว่งตัวไปมาในกรอบ 715-735 จุด

สำหรับกลุ่มหุ้นที่มีบทบาทมากสุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีอยู่ด้วยกันหลายกลุ่ม อาทิ แบงก์ ไฟแนนซ์ พลังงาน ก่อสร้าง และอสังหาฯ ซึ่งหุ้นแต่ละกลุ่มล้วนมีข่าวดีรองรับการทะยานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้นักวิเคราะห์แนะนำนักลงทุนให้เข้ามาช้อนซื้อหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมา เพราะภาพรวมของการลงทุนปลอดจากข่าวร้าย และรอแค่เพียงความชัดเจนทางเศรษฐกิจ ดัชนีจะกลับมาเป็นขาขึ้นอีกรอบ

รวมทั้งราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่น่าจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนออกมาดีในช่วงไตรมาสสุดท้าย ปี
2549 และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นักลงทุนหันเข้ามาซื้อหุ้นอีกครั้ง
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ ยังเน้นการซื้อหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมา และเทขายหุ้นทำกำไรเมื่อปรับตัวขึ้นแรงๆ เพราะทิศทางขาขึ้นรอบนี้ถูกจำกัดที่บริเวณแนวต้าน 740 จุดนั้นเอง


.00020