May 4, 2024   10:07:22 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สัญญาณหุ้นค่ะ......
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 06/11/2006 @ 10:52:06
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บล.ธนชาตแนะนำซื้อ BLSราคาเป้าหมาย15.20 บาทคาดกำไรยังเติบโตต่อเนื่องปรับลดประมาณการกำไรสุทธิ แต่ยังแนะนำ ซื้อฐานลูกค้าหลักทรัพย์ที่กระจายตัว...ช่วยลดความผันผวนของ marketshare รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการยังคงเติบโตต่อเนื่อง ผู้บริหารคาดว่ายังไม่มีการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นในปีหน้ามุมมองต่อตลาดฯ ในช่วงที่เหลือของปี 2006 ว่า น่าจะปรับตัวดีขึ้นจาก 3Q06 แต่ยังชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับที่บริษัทฯ เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ส่วนในด้าน market share ของบริษัทฯ ในช่วง 4Q06 ยังคงตั้งเป้าไว้ที่ 4% แต่มีการปรับเป้า market share เฉลี่ยทั้งปี2006 ลงเหลือ3.6% จากเดิมที่ตั้งเป้า market share เฉลี่ยทั้งปีไว้ที่ 3.7% เนื่องจากสภาวะตลาดฯ ในช่วงที่เหลือของปี 2006ชะลอตัวกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ สำหรับในปี 2007บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้า marketshare เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 4% ถึงแม้ว่ารายได้ค่าธรรมเนียมและบริการใน 3Q06 จะชะลอตัวลงทั้ง y-yและ q-q เนื่องจาก ใน 3Q06 BLS มีบริษัทที่ BLS เป็นผู้จัดการจัดจำหน่ายเพียงบริษัทเดียว คือ DSGT แต่บริษัทฯ แจ้งว่า ใน 4Q06 จะมีรายได้ค่าธรรมเนียม และบริการมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังตั้งเป้าว่าจะสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมและ บริการในปี 2007 ไม่ให้ต่ำกว่าปี 2006 เนื่องจาก ยังมีงานในมืออยู่จำนวนมาก

บล.โกลเบล็กแนะนำซื้อ BLSราคาเป้าหมาย 13.00 บาท
เราคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี49ไว้ที่ 187 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 37%เมื่อเทียบกับปีก่อน และเป็นการเติบโตที่สวนทางกับบริษัทหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เนื่องจากBLSมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะได้รับการพยุงจากนักลงทุนสถาบัน และงานIBที่ถือว่าโดดเด่นกว่าโบรกเกอร์อื่น และเราคาดว่าBLSสามารถจะรักษาระดับการเติบโตของกำไรได้ต่อเนื่องในปี50-51 โตเฉลี่ยปีละ 7-8% ซึ่งก็ถือว่าดีกว่ากลุ่มแล้ว และคาดรักษาระดับROEได้ที่ 15% โดยมีตัวขับเคลื่อนหลักจากการเร่งสร้างส่วนแบ่งการตลาด (เราคาดว่าน่าจะปรับเพิ่มสู่ระดับ 3.5%ได้ในปี50 จากที่คาด 3.4%ในปีนี้)ผ่านการขยายฐานลูกค้ารายย่อยผ่านบริษัทแม่และลูกค้าสถาบันและต่างประเทศจากการร่วมมือผ่าน Morgan Stanley ส่วนรายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจเราคาดว่าจะได้รับผลดีจากการส่งผ่านงานมาจาก BBL อย่างสม่ำเสมอแต่หากคิดจากงานในมือที่มีอยู่คาดว่ารายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจจะไม่มากเท่าในปีนี้ แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมปี50ที่ 15 บาท คิดจากPER 15 เท่า

บล.กิมเอ็งแนะนำถือ KKราคาเป้าหมาย 34.50 บาทKK ประกาศผลประกอบการกำไรสุทธิไตรมาส3/49 ออกมาเท่ากับ 425 ล้านบาท ลดลง 29.5%yoy เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและลดลง 13.5%qoq เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาสาเหตุหลักเกิดจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ยังคงปรับเพิ่มขึ้นสูง 44.0% yoy และ 8.4%qoq ตามภาวะตลาด และรายได้ที่ไม่ได้อยู่ในรูปดอกเบี้ยที่ลดลงถึง 69.1% yoyและ 67.6%qoq จากกำไรจากเงินลงทุนในหลักทรัพย์และการปรับมูลค่าการลงทุนที่ลดลง รวมถึงขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุนสิทธิเรียกร้อง รายได้ดอกเบี้ยสุทธิยังปรับตัวลดลง 1.6%qoq แต่เพิ่มขึ้น 6.3% yoy โดยรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบรายไตรมาส แต่ดอกเบี้ยจ่ายปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่า ส่งผลให้ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็น 5.53% ในไตรมาส 3/49 จาก 5.71% ในไตรมาส 2/49และ 5.91% ในไตรมาส 3/48 เราเชื่อว่า KK จะยังได้รับความกดดันจากในเรื่องส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจ่ายต่อไป เนื่องจากโครงสร้างเงินฝากที่เป็นเงินฝากประจำระยะยาวและเงินกู้ยืมรวมถึงตราสารหนี้ที่มีต้นทุนสูงกว่าเงินฝากระยะสั้น จากผลประกอบการกำไรสุทธิไตรมาส 3/49 ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เราได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิในปี 2549ลดลง 13.7% เป็น 2,116 ล้านบาท และ ประมาณการกำไรสุทธิปี 2550 ลดลง 7.1%เป็น 2,366 ล้านบาท ทั้งนี้จะส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิในปี 49 ปรับตัวลดลง 13.1%เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิในปี 2548 ที่ผ่านมา โดยคาดว่า อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นจะลดลงเป็น 12.6% จาก 15.9% ในปี 48

บล.เกียรตินาคินแนะนำซื้อ CCETราคาเป้าหมาย 4.27 บาท
คาดใน 4Q/49 แนวโน้มผลประกอบการไม่โดดเด่นเท่ากับ 3Q/49 รวมทั้งมีปัจจัยกดดันจากเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีเรามีแนวโน้มปรับประมาณการปี 49 - 50ของ CCET เพิ่มขึ้นจากเดิม เพื่อสะท้อนยอดคำสั่งซื้อสินค้าทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยผลประกอบการ 9M/49 ของ CCET มีกำไรสุทธิ 1,756 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 41% Y-O-Y คิดเป็น 89% ของประมาณการปี 49 ของเราที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ1,960 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 11% Y-O-Y ทั้งนี้เราจะออกบทวิเคราะห์ที่ละเอียดอีกครั้ง หลังเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์ในวันที่ 3 พ.ย.49 CCET ประกาศผลประกอบการ 3Q/49 มียอดขายจำนวน 21,722 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% Q-O-Q และเพิ่มขึ้น 41% Y-O-Y จากการเพิ่มขึ้นของยอดคำสั่งซื้อทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และ PCBสำหรับฮาร์ดดิส ด้าน Gross margin ปรับตัวดีขึ้นเป็น 5.6% จาก 4.7% ใน2Q/49เนื่องจากการเติบโตของยอดขายในอัตราที่สูงกว่าต้นทุนขาย แต่แย่กว่าใน 3Q/48ที่6% เนื่องจากสัดส่วนการผลิตสินค้า PCB สำหรับฮาร์ดดิสที่ เพิ่มขึ้น ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้มี Grossmargin ต่ำกว่าสินค้าสำเร็จรูป อย่างไรก็ดีการควบคุมค่าใช้จ่าย และปรับปรุงการบริหารโรงงานให้มีประสิทธิภาพ ทำให้ค่าใช้จ่าย SG&Aต่อยอดขายปรับตัวดีขึ้นเป็น 1.5% จาก 2.1% ใน 3Q/48 และ มีกำไรสุทธิ 812 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้ง Q-O-Q และ Y-O-Y ทั้งนี้ใน 3Q/49 CCET รับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 27 ล้านบาท หากไม่รวมรายการดังกล่าว จะมีกำไรปกติปกติ 785ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% Q-O






[/color:625f84431d">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com