May 4, 2024   4:18:16 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > แนะหุ้นเด่นหลังการแถลงนโยบายของรัฐบาล
 

samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
วันที่: 05/11/2006 @ 21:39:49
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บมจ.ซีมีโก้ แนะลงทุนหุ้นเด่น เชื่อมโยงนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล โครงการเมกะโปรเจ็ค และการเร่งฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุน-นิคมอุตสาหกรรม หลังการเปิดแถลงในวันนี้

ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บมจ.หลักทรัพย์ซีมิโก้ ได้ออกบทวิเคราะห์การลงทุน วันนี้(3 พ.ย.) เกี่ยวกับนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อสภานิติบัญญัติ โดยมีเนื้อหาหลัก 5 ด้าน ได้แก่ การปฏิรูปการเมืองการปกครอง นโยบายบริหารเศรษฐกิจ สังคม ต่างประเทศ และความมั่นคงของรัฐ สังคมตลาดทุนคงให้ความสำคัญกับนโยบายเศรษฐกิจ ที่จะยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง

ซึ่งวานนี้ รมว. คลัง ยืนยันว่า เป็นเศรษฐกิจเสรี ที่เอกชนมีบทบาทนำ โดยรัฐจะวางโครงสร้างหรือกฎเกณฑ์ที่ยุติธรรม รวมไปถึงการเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนจากต่างชาติ แนวคิดในการสานต่อโครงการเมกกะโปรเจ็ค ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาว อาทิ โครงการรถไฟฟ้า พัฒนาระบบขนส่งสินค้า และพัฒนาแหล่งทรัพยากรน้ำ คงเป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราเชื่อว่าจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้ฟื้นตัว และดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะการลงทุนทางตรงกลับมาได้

ปัจจัยต่างประเทศ คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ต.ค. ซึ่งเราคาดว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 1.25 แสนตำแหน่งจาก 0.51 แสนในเดือนก่อน หากตัวเลขจริงออกมาต่ำกว่าคาด จะไม่เป็นผลดีต่อบรรยากาศลงทุนต้นสัปดาห์หน้า

วันนี้...ดัชนีมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบแคบ นักลงทุนบางส่วนจะชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ประกอบกับหุ้นในกลุ่มพลังงานยังถูกถ่วงจากราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม เรายังมีมุมมองเชิงบวกแนวโน้มเงินไหลใน ภูมิภาค เพื่อกระจายความเสี่ยงจากดอลลาร์สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง

กลยุทธ์การลงทุนทางเทคนิค ยังมีโอกาสเก็งกำไรได้ หากดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 725 จุด เน้นหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3/49 ดี (BECL, CP7-11)

- หุ้นที่เชื่อมโยงกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล เมกะโปรเจ็ค (CK, ITD, STEC) และการเร่งฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุน-นิคมอุตสาหกรรม (AMATA, HEMRAJ)

- BEC (มูลค่าพื้นฐาน 20 บาท) จากแนวโน้มกำไรที่ยังเติบโตต่อเนื่องในปี 50 รวมไปถึงมีความเป็นไปได้ที่อาจให้เวลา ?คุยคุ้ยข่าว? ทำรายการ หากหลุดผัง รายการช่อง 9 ตามที่เป็นข่าว

ADVANC : ปี 50 เพิ่มลูกค้าใหม่มากกว่าปี 49
ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายการตลาด ADVANC เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเพิ่มยอดลูกค้าใหม่ในปี 50 มากกว่าปี 49 ที่อยู่ในระดับ 1.2 ล้านราย สำหรับแผนการลงทุนในปี 50 บริษัทยังคงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องจากที่ลงทุนไปแล้ว 3.3 หมื่นล้านบาท ในการปรับปรุงและขยายเครือข่ายเพิ่มเติม เพื่อคงความเป็นผู้นำในด้านคุณภาพเครือข่ายให้กับลูกค้า (กรุงเทพธุรกิจ)

CPF : ไม่ได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่า
กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร CPF เปิดเผยว่า บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท แม้จะมีรายได้จากการส่งออก แต่บริษัทได้มีการนำเข้าวัตถุดิบในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน โดยสัดส่วนรายได้จากการส่งออกมีเพียง 20% ที่เหลือประมาณ 80% เป็นรายได้จากการขายในประเทศ และรายได้จากการทำธุรกิจในต่างประเทศบ้างเล็กน้อย ทั้งนี้ รายได้รวมของปี 49 ยังคงเป็นไปตามประมาณการเดิมที่ 1.3 แสนล้านบาท (กรุงเทพธุรกิจ)

IEC : จัดตั้ง ?จี.อี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล?
IEC เปิดเผยว่า บริษัท ไออีซี บิซิเนส พาร์ทเนอร์ส จำกัด (IEC BP: บริษัทย่อยของ IEC ที่ถือหุ้น 99.99% ของทุนจดทะเบียน) ได้จดทะเบียนจัดตั้ง ?บริษัท จี.อี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (GECI) เพื่อประกอบธุรกิจด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและเครื่องกล ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โดย IEC BP จะถือหุ้นในสัดส่วน 55% (ตลาดหลักทรัพย์ฯ)

KEST : ปี 50 ตั้งส่วนแบ่ง 10%
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KEST เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรักษาส่วนแบ่งการตลาดในปี 50 ไว้ที่ 9-10% ซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวกับปี 49 ส่วนแผนการดำเนินงานปี 50 จะเน้นการเพิ่มสัดส่วนผู้ลงทุนสถาบันเพิ่ม เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะการลงทุนโดยรวม เพราปัจจุบันสัดส่วนการซื้อของผู้ลงทุนต่างชาติได้ปรับขึ้นต่อเนื่อง (กรุงเทพธุรกิจ)

KH : รับประโยชน์จากการเพิ่มค่ารักษา
ประธานกรรมการบริหาร KH เปิดเผเยว่า บริษัทจะได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มค่ารักษาพยาบาลต่อหัวให้กับประชาชน ตามโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า และโครงการประกันสังคม ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทให้เติบโตมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประมาณ 15% และโครงการประกันสังคม ประมาณ 25% ส่วนที่เหลืออีก 60% เป็นเงินสด (กรุงเทพธุรกิจ)

KK : ปลายปี 49 ออก B/E
ประธานสายงานบริหารการเงินและเงินฝาก KK เปิดเผยว่า ในปลายปี 49 KK จะออกตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange: B/E) ให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นทางเลือกในการออมเงินรูปแบบใหม่กับลูกค้า และผู้ที่สนใจ วงเงินประมาณ 3 พันล้านบาท (กรุงเทพธุรกิจ)

LOXLEY : ปี 49 รายได้ขายมือถือตามเป้า ? ปี 50 ขายมือถือโซนี่อีริคสันและแอลจีเป็นหลัก
กรรมการบริหาร LOXLEY เปิดเผยว่า ในปี 49 ธุรกิจโทรศัพท์มือถือจะพลิกมามีกำไรได้ หลังจากประสบภาวะขาดทุนในปีก่อน โดยจะมี รายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์มือถือตามเป้าหมาย 1.2 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน แม้ว่าราคาเฉลี่ยในปี 49 จะลดลงเหลือ 4 พันบาท/เครื่อง จากเดิม 6 พันบาท/เครื่อง และในช่วงปลายเดือน พ.ย. นี้ LOXLEY จะมีการหารือถึงแผนงานในปี 50 ที่จะคงเน้นการขายโทรศัพท์มือถือของโซนี่อีริคสันและแอลจีเป็นหลัก ส่วนความคืบหน้าโครงการจำหน่ายสลากออนไลน์นั้น ขณะนี้ติดตั้งเครื่องจำหน่ายแล้ว 5 พันเครื่อง แต่คงชะลอการติดตั้งเพิ่ม เพื่อรอความชัดเจนจากภาครัฐ (กรุงเทพธุรกิจ)

PDI : 75 ลบ. ในการสำรวจแร่แหล่งใหม่ในลาว
รองกรรมการผู้จัดการ PDI เปิดเผยว่า PDI และ บริษัท ผาแดง อินดัส ทรี (ประเทศลาว) จำกัด ได้ลงนามในสัญญาสำรวจแร่สังกะสีในเมืองกาสี แขวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) ซึ่งการสำรวจแร่ในพื้นที่ดังกล่าว แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ การสำรวจในภาพกว้าง, การสำรวจแร่ในรายละเอียด และการศึกษาความเป็นไปได้ คาดว่าจะใช้งบประมาณในการสำรวจทั้งสิ้น 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 75 ล้านบาท (กรุงเทพธุรกิจ)

SE-ED : SE-ED-W1 พ้นสภาพ 16 ธ.ค. นี้
ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ SE-ED-W1 หรือขึ้นเครื่องหมาย SP ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. ? 15 ธ.ค. 49 และพ้นสภาพจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 49 เป็นต้นไป ทั้งนี้ SE-ED-W1 กำหนดใช้สิทธิครั้งสุดท้ายในวันที่ 15 ธ.ค. 49 และจะทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นวันสุดท้ายในวันที่ 17 พ.ย. 49 (ตลาดหลักทรัพย์ฯ)

ทั้งนี้ รายละเอียดการแถลงนโยบายด้านเศรษฐกิจ ของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อเช้าวันนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลจะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้กรอบความยั่งยืนและความพอดี โดยภาคเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจไทย

รัฐบาลจะสนับสนุนให้การพัฒนาการเกษตรตามแนวทางทฤษฎีใหม่ เป็นทางเลือกสำคัญสำหรับเกษตรกรรายย่อย ขยายโอกาสการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และยกระดับคุณภาพของผลผลิต โดยอาศัยเทคโนโลยี การจัดการ และการเชื่อมโยงกับระบบตลาด สนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่นให้มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ตามศักยภาพทางการตลาดในระดับต่างๆ โดยจัดระบบการบริหารจัดการโครงการในรูปแบบของการบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างเทคโนโลยีและการจัดการ ควบคู่ไปกับการสนับสนุนด้านการตลาด

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังให้มีการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาคแรงงาน ภาคเอกชน และภาครัฐ ให้ครอบคลุมถึงการพัฒนาคุณภาพและฝีมือของแรงงานในระดับต่างๆ เพื่อให้สามารถมีผลผลิตและรายได้สูงขึ้น ตามมาตรฐานฝีมือแรงาน ตลอดจนส่งเสริมให้แรงงานทุกกลุ่มมีงานทำ มีอาชีพเสริม ได้รับการคุ้มครอง และดูแลด้านสุขอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน ตลอดจนมีหลักประกันความมั่นคง รวมทั้งสวัสดิการแรงงานอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ดูแลผู้ที่ไม่พร้อมหรือยังไม่สามารถจะปรับตัวได้ โดยการจัดสวัสดิการสงเคราะห์ และบริการทางสังคมที่จำเป็นอย่างทั่วถึง ดูแลโอกาสในการเรียนรู้ การศึกษา ตลอดจนการฝึกอาชีพสำหรับคนเหล่านี้และลูกหลาน

การเติบโตทางเศรษฐกิจจะต้องได้รับการดูแล ไม่ให้เกิดผลกระทบทางลบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อการนี้ จะปรับปรุงบทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานภูมิภาค โดยปรับปรุงระบบความสัมพันธ์ระหว่างภูมิภาค ท้องถิ่น ชุมชน และภาคประชาสังคมอย่างเหมาะสม เพื่อร่วมกันรับผิดชอบดูแลผู้ด้อยโอกาส ตลอดจนรักษาและดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างทั่วถึง เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพภาคเศรษฐกิจระบบตลาด รัฐบาลจะดำเนินการ ดังนี้

1.การพัฒนาอุตสาหกรรม ส่งเสริมให้มีการลงทุน ทั้งจากในและนอกประเทศในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง และให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านเทคโนโลยี และการสร้างทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศ อาศัยความเป็นพันธมิตรระหว่างเอกชนและรัฐผนึกกำลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอย่างต่อเนื่อง โดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนการบริหารจัดการในการสร้างความเข้มแข็ง ให้ความสำคัญเป็นพิเศษแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ใช้ทรัพย์สินทางปัญญา

- ส่งเสริมและผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการ โดยมีภาคเอกชนเป็นกลไกขับเคลื่อน ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจการค้าภายในประเทศ รวมทั้งสร้างเสถียรภาพของราคาสินค้าที่มีความเป็นธรรม ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค

- พัฒนาประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ มีมาตรฐานความปลอดภัยและบริการระดับสากล เน้นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมไทย [/size:30a6fbb4e6">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com