มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ทำหุ้น อสมท (MCOT) หมดอนาคต ภายหลังยื่นหนังสือลาออก จากตำแหน่ง ผอ.อสมท และมีการแต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่ พร้อมดึง พงษ์ศักด์ พยัฆวิเชียร สื่อมวลชนพันธุ์แท้...เข้ามารักษาการหัวเรือใหญ่ที่ โมเดิร์นไนน์ แทน


ตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้นหลักของ บมจ.อสมท ครั้งล่าสุด (10 ต.ค.) พบว่า กองทุนรัฐบาลสิงคโปร์ (GIC) แอบทยอยเข้ามาสะสมหุ้น MCOT เพิ่มขึ้นเป็น 22 ล้านหุ้น สัดส่วน 2.24% เทียบกับจำนวนหุ้นครั้งก่อน (24 ส.ค.) ที่ถืออยู่เพียง 15.74 ล้านหุ้น โดยเกรงว่า มิ่งขวัญ จะได้กลับมา

ขณะเดียวกันยังปรากฏรายชื่อบริษัทประกันชีวิตรายใหญ่ เอไอเอ ที่ติดบัญชีเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ MCOT เป็นครั้งแรก อีกจำนวน 9.29 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.35%

และทั้งหมด เป็นการเข้ามาถือหุ้นในช่วงที่ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ได้ต่ออายุเก้าอี้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท อีกครั้งเป็นสมัยที่สอง เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2549 ...ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาหุ้น MCOT วิ่งอยู่บนกรอบ 35-40 บาท ขณะที่ราคาปัจจุบันเหลืออยู่แถวๆ 30 บาทเท่านั้น

อาจกล่าวได้ว่า การเข้ามาลงทุนของกองทุนทั้งสองแห่ง เพื่อต้องการ เก็งกำไร จากมูลค่าของ ผอ.มิ่งขวัญ ที่ได้รับการยอมรับในฝีไม้ลายมืออย่างชัดเจน แต่วันนี้กลับกลายเป็น (อดีต) กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ไปเสียแล้ว

ขณะที่ก่อนหน้านั้น ทางกระทรวงการคลังยังได้ใช้หุ้น MCOT เป็นหลักประกัน (78.86 ล้านหุ้น) ในการกู้เงินมาจาก ธนาคารออมสิน เป็นจำนวน 3,000 ล้านบาท โดยทางกระทรวงการคลังจะต้องซื้อหุ้นคืนจาก ธนาคารออมสิน ภายในระยะเวลา 3 ปี ตามราคาตลาด และเนื่องจากผู้บริหาร ธนาคารออมสิน ได้ประเมินแล้วว่า มูลค่าหุ้น MCOT ในอนาคตมีโอกาสที่ดีกว่า หุ้นรัฐ ตัวอื่นๆ ที่ราคาเริ่มตัน แต่ราคา MCOT (ภายใต้การคุมทัพของ มิ่งขวัญ) ยังสามารถไต่ขึ้นไปได้อีก

หรืออย่างน้อยที่สุดก็ยังจะมีเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ...จึงย่อมถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน

แต่เมื่อเหตุการณ์ไม่เป็นไปตามคาด มูลค่าหุ้น MCOT ที่อยู่ในมือของธนาคารเด็กในเวลานี้ จึง ลดฮวบ เหลือประมาณ 2,300 ล้านบาท เท่านั้น

ที่น่าสนใจก็คือ การก้าวจากไปของ มิ่งขวัญ กับการเข้ามาของ พงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร (บรรณาธิการผู้อำนวยการใหญ่ นสพ.มติชน) อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความแตกต่างในการตีมูลค่าหุ้น MCOT ระหว่าง อดีต กับ อนาคต ...เนื่องจากต้นกำเนิดทางด้านวิสัยทัศน์ของบุคคลทั้งสองมาจากคนละด้านกัน

ความไว้วางใจในหุ้น MCOT ด้วยภาพลักษณ์ของ มิ่งขวัญ ในฐานะนักเจรจาและนักการตลาดชั้นเซียน กำลังถูกท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่...เพราะเป้าหมายหลักของหัวเรือคนใหม่ (พงษ์ศักดิ์) คือ ต้องพา โมเดิร์นไนน์ ทีวี และ โมเดิร์น เรดิโอ (ทั้ง 6 คลื่น) ย้อนกลับไปเริ่มต้นใหม่...โดยมุ่งเน้นหลักการเป็น สื่อต้นแบบ ของประชาชนและสำหรับสื่อของรัฐอย่างแท้จริง

เพราะฉะนั้น หนทางที่ถูกต้อง อาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกใจ (ในทันที) ของผู้ถือหุ้น MCOT ...โดยเฉพาะ GIC และ เอไอเอ

อาจเป็น อารมณ์ ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับหนทางที่ผ่านมาของ โมเดิร์นไนน์ ทีวี ที่มักเน้นความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ตามแนวทางของนักการตลาด โดยเฉพาะความสำเร็จจากรายการ Academy Fantasia (ร่วมกับยูบีซี) ที่สนับสนุนให้ช่องโมเดิร์นไนน์ได้รับความนิยมขยายวงกว้างไปยัง ฐานลูกค้า กลุ่มใหม่ๆ

นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวอีกว่า โมเดิร์นไนน์ เตรียมจะปรับเปลี่ยนผังรายการ โดยเฉพาะในช่วงรายการวิเคราะห์ข่าว ถึงลูกถึงคน ที่อาจถูกตัดเวลาออกอากาศจาก 5 วันเหลือเพียงวันเดียว เพื่อ จัดสรรเวลา ไปให้แก่ผู้ผลิตรายการรายอื่นๆ ได้เข้ามาจัดรายการในช่วงดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สนธิ ลิ้มทองกุล สมเกียรติ อ่อนวิมล รวมถึง สุทธิชัย หยุ่น แห่งเครือเนชั่น

และอาจส่งผลให้ความโดดเด่นของ ช่วงเวลา 4 ทุ่ม (ถึงลูกถึงคน...จันทร์-ศุกร์) ที่เคยถูกล่อโฆษณาด้วยตัวของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา จะค่อยๆ เลือนหายไป ..เพื่อให้รายการใหม่-คนใหม่ เข้าไปพิสูจน์ความสำเร็จ

และในเมื่อทั้ง ธนาคารออมสิน GIC (กองทุนรัฐบาลสิงคโปร์) และ เอไอเอ เลือกที่จะลงเงินเข้ามาซื้ออนาคตจาก MCOT โดยไม่สามารถหมุนเวลาย้อนกลับไปได้ ก็ยิ่งน่าติดตามว่าพอร์ตลงทุนของผู้ลงทุนทั้ง 3 ราย จะมีการเคลื่อนไหวในทางใดต่อไป

กรุงเทพธุรกิจ BizWeek[/color:b9fcb6b457">

[b:a0a3245efb">โมเดิร์นไนน์ จาเดินหน้า หรือถอยหลังอ่ะ....
รายการใหม่ เห็นชื่อแล้ว ยี้ ๆๆๆ ไม่ดูดีกว่า...ไม่ชอบ ๆ .000003
[/color:a0a3245efb">[/b:a0a3245efb">