????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238 |  วันที่: 04/11/2006 @ 12:39:45 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ผู้ส่งออกสินค้าไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ วิกฤติหนัก ค่าเงินบาทแข็งค่า 10% ในรอบ1ปี ทำมูลค่าส่งออกสูญกว่า3แสนล้าน ชี้ประกันความเสี่ยงไม่ช่วย เหตุค่าเงินผันผวนมากเกินไป โวยแหลกสุวรรณภูมิออกล่าช้า3วัน ฉุดผลิตสินค้าไม่ทันส่งมอบ ด้านผู้ส่งออกเครื่องนุ่งห่ม รับแข่งอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ยาก จี้รัฐเร่งดูแลให้เงินบาทมีเสถียรภาพที่ 37บาทต่อดอลล์ 6 เดือน รับคำสั่งซื้อที่จะเข้ามา
นายกมล ตรีวิบูลย์ รองเลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า จากการที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น มีผลทำให้รายได้ที่กลับมาในรูปเงินบาท จากการส่งออกสินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในปีนี้ คาดว่าจะหายไปประมาณ 3 แสนล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกในปีนี้ต่ำกว่าประมาณการที่ตั้งไว้ 1.55 ล้านล้านบาท เหลือ 1.52 ล้านล้านบาท
เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา อัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลบาทเปลี่ยนแปลงมากถึง 10% เมื่อเทียบกับกำไรจากการดำเนินการที่ 3-5% ต่อปี ทำให้ผู้ประกอบการปรับตัวไม่ทัน แม้กรมส่งเสริมการส่งออกจะแนะนำให้ต่อรองขอขึ้นราคาสินค้ากับผู้นำเข้าต่างประเทศ แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะราคาขายในปัจจุบันเมื่อเปรียบเทียบกับประสิทธิภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรมนี้ จะพบว่าไม่สามารถแข่งขันด้านราคากับคู่แข่งได้อยู่แล้ว หากต้องปรับราคาสูงขึ้นอีก ลูกค้าจะหันไปสั่งซื้อสินค้ากับผู้ผลิตรายอื่นทันที
อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า เป็นไปได้ยากที่จะให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือผู้ส่งออก เพราะเรื่องดังกล่าวอยู่นอกเหนือการควบคุม แต่ภาครัฐควรเข้ามาช่วยบรรเทาปัญหา เพราะตั้งแต่ต้นปีมานี้ อุตสาหกรรมในภาพรวมต้องเผชิญกับปัจจัยลบมาตลอด ตั้งแต่ ราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และยังมีเรื่องค่าเงินบาท ทำให้ผู้ส่งออกรับไม่ได้ แม้จะมีการประกันความเสี่ยงค่าเงินไว้แล้ว แต่ก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากการแข็งค่าของค่าเงินบาท มีความผันผวนสูงเกินไปจาก 39 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นมาถึง 35-36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
โวยสุวรรณภูมิทำส่งมอบสินค้าล่าช้า
นอกจากนี้สิ่งที่ภาครัฐ ควรเร่งวางระบบเพื่อสนับสนุนการส่งออก คือการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ให้มีต้นทุนลดลง เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าขนส่ง โดยเฉพาะการขนส่งทางอากาศ ผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ค่อนข้างมีปัญหา มีระบบที่ยุ่งยากซับซ้อน จนทำให้การนำเข้าสินค้าล่าช้า
โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าบางชนิด เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ที่ต้องใช้บริการการขนส่งทางอากาศ เพื่อป้องกันความเสียหาย ซึ่งต้องใช้เวลารอรับสินค้านานถึง 3 วัน หากเทียบกับสนามบินดอนเมืองใช้เวลาเพียงวันเดียว ทำให้ผู้ส่งออกส่วนหนึ่งไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ตามกำหนด เพราะวัตถุดิบนำเข้ามาล่าช้า และหากผลิตไม่ทันส่งสินค้าก็จำเป็นต้องส่งทางอากาศ ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นไปอีก
?วัตถุดิบนำเข้าบางชนิด มีความล่าช้ากว่าขนส่งโดยใช้สนามบินดอนเมือง ทำให้มีผลต่อการผลิตสินค้า อีกทั้งในอนาคตผู้ประกอบการจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมบริการโลจิสติกส์เพิ่มขึ้นอีก100% คิดเป็นเงินประมาณ 900 ล้านบาท ที่ฝ่ายบริหารการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือ เอโอที จะต้องเรียกเก็บเพิ่มจากอัตราเดิม? เขากล่าว
เครื่องนุ่งห่มสูญ7,200 ล้านบาท
ด้านนายสมบูรณ์ เจือเสถียรรัตน์ อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย กล่าวว่า จากการที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ กระทบต่อการแข่งขันในสินค้าเครื่องนุ่งห่มอย่างมาก เพราะการเคลื่อนไหวของค่าเงินดังกล่าวเป็นการขึ้น-ลงอย่างรวดเร็ว หรือ แข็งค่าขึ้นเฉลี่ยถึง 10% เมื่อเทียบกับอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ที่มีค่าเงินแข็งค่าขึ้นโดยเฉลี่ยเพียง 2-6% ทำให้ราคาสินค้าไทยสูงกว่าคู่แข่ง เช่น จีน เวียดนาม อินเดีย อินโดนีเซีย
โดยในปีนี้คาดการณ์ว่า สินค้าเครื่องนุ่งห่มไทยจะมีมูลค่าส่งออก 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ เดือนละประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นจากที่เคยกำหนดราคาไว้ที่ 38.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ พอถึงวันส่งออกกลับแลกเงินบาทได้เพียง 36.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ขาดทุนเฉลี่ยประมาณ 2 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือทำให้เงินบาทหายไปจากอุตสาหกรรมนี้ประมาณ 600-700 ล้านบาทต่อเดือน หรือ ปีประมาณ 7,200 ล้านบาท
เพียงพอที่จะทำให้ผู้ส่งออกต้องประสบภาวะขาดทุน เพราะกำไรในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มมากที่สุดเพียง 5% แต่ต้นทุนจากการผันผวนอัตราค่าเงินเพิ่มขึ้นถึง10% ไม่สามารถชดเชยความเสียหายที่เกิดจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
ร้องรัฐคุม37บาทต่อดอลล์6เดือน
เขายังกล่าวว่า ภาครัฐควรจะเข้ามากำกับดูแลความเคลื่อนไหวของค่าเงินไม่ให้มีความผันผวนมากเกินไป ควรจะกำกับดูแลโดยเฉพาะเงินทุนไหลเข้าระยะสั้นในตลาดหลักทรัพย์ รัฐควรดูแลให้มีเสถียรภาพไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อทำให้ค่าเงินบาทอยู่ที่ 37 บาทดอลลาร์สหรัฐ ไปอีกประมาณ 6 เดือน เพื่อให้ผู้ส่งออกปรับตัว รองรับคำสั่งซื้อที่จะเข้ามาจึงจะเหมาะสม และไม่ส่งผลกระทบภาคส่งออกและภาคอุตสาหกรรมมากนัก
โดยเฉพาะในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ไทยจะลงทุนด้านการขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ ทำให้มีเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมาก หากเงินบาทยังไม่มีเสถียรภาพเชื่อว่า จะเป็นอุปสรรคต่อการเข้ามาลงทุนในไทย
|
