May 4, 2024   11:50:05 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > โบรกฯชี้ดัชนีแกว่งแคบ.....
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 03/11/2006 @ 13:56:28
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)เปิดเผยถึงแนวโน้มภาวะตลาดหุ้นในวันนี้ว่าคาดว่าวันนี้ตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยนักลงทุนสถาบันจะยังคงรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่มีกำหนดจะประกาศในค่ำคืนนี้ ส่วนปริมาณการซื้อขายจะเบาบางเนื่องจากจะ ต้องเผชิญกับแรงเทขายทำกำไรก่อนหน้าวันหยุดสุดสัปดาห์รวมไปถึงความระมัดระวังต่อท่าทีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ โดยเมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ขายสุทธิ 46 ล้านบาท ซึ่งได้หยุดสถิติการซื้อสุทธิติดต่อกันเป็นเวลา 19 วันลง

หุ้นกลุ่มธนาคาร, พัฒนาอสังหาริมทรัพย์, บริษัทซีเมนต์และผู้รับเหมามีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นในวันนี้ จากราคาน้ำมันโลกและราคาน้ำมันภายในประเทศที่อ่อนตัวลงต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าตลาด NYMEX ร่วงลง 83 เซนต์หรือ 1.4% เป็น 57.88 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ในขณะที่ผู้ค้าปลีกน้ำมันในประเทศจะปรับลดราคาน้ำมันลง 0.40 บาทต่อลิตรในวันนี้เพื่อสะท้อนถึงการปรับตัวลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก

เมื่อคืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรปปิดปรับตัวลดลง ซึ่งข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯได้ไปเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและการชะลอตัวทางการเติบโต โดยดัชนี Dow jones ลดลง 12.5 จุด หรือ 0.1% นับเป็นการกรับตัวลดลง 5 วันทำการติดต่อกันและปรับตัวลดลงยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีก่อน

สำหรับหุ้นที่น่าจับตาได้แก่CK จากการเป็นผู้นำด้านกลุ่มรับเหมาในประเทศไทย CK เป็นหนึ่งในบริษัทที่จะได้รับประโยชน์จากการที่รัฐบาลสามารถใช้งบประมาณปี 2549-2550 ได้ตรงตามกรอบงบประมาณ นอกจากนี้ยังได้ดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนสายใหม่และโครงการด้านทรัพยากรน้ำ ณ สิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา CK มีงานในมือ 2.978 หมื่นล้านบาท และมีศักยภาพที่จะได้รับงานใหม่อีก 4-5 พันล้านบาทในไตรมาส 4/49 แม้ว่าราคาหุ้น CK จะพุ่งขึ้นมา 35% นับตั้งแต่สิ้นเดือนกันยายน เชื่อว่าราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อสู่ระดับราคาเหมาะสมที่ 11.2 บาทต่อหุ้น นอกจากนี้ CK-W1 ก็ยังน่าสนใจ ซึ่งซื้อขายกันต่ำกว่าราคาเหมาะสมตามทฤษฎีอยู่ 2.54% (หมดอายุวันที่ 30 มีนาคม ปี 2550)

สำหรับMCOTปรับลดคำแนะนำเป็น ขาย โดยให้ราคาเหมาะสม 28.50 บาทจากการเปลี่ยนนโยบายบริษัทโดยจะเน้นรายการที่ให้คุณค่าทางสังคมแทนที่รายการด้านบันเทิงซึ่งสร้างกำไรดี โดยรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่กล่าวว่าการทำกำไรไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของบริษัท เชื่อว่าหุ้นมีแนวโน้มตกลงอีกจากการเปลี่ยนแปลงปัจจัยพื้นฐานของบริษัทแม้ว่าราคาหุ้นจะปรับลดลงแล้ว 27.3% นับตั้งแต่ 2 เดือนที่ผ่านมา

ส่วนTPIPLราคาหุ้นเริ่มกระเตื้องขึ้น คาดว่าผลประกอบการจะพัฒนาขึ้นในระยะสั้นจากการภาระหนี้และต้นทุนพลังงานที่ต่ำลง นอกจากนี้คาดจะรับรู้กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 2,542 ล้านบาทในไตรมาสสี่นี้ อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรระมัดระวังการผันผวนของผลประกอบการของบริษัท, ค่าใช้จ่ายด้านการบริหารที่สูง (เมื่อเทียบกับ SCC และ SCCC) และกำไรต่อหุ้นที่จะถูกไดลูทลงเยอะในปีหน้า ให้คำแนะนำ ถือ ที่ราคาเหมาะสม 14 บาทต่อหุ้น ซึ่งอิงค่ากลางระหว่าง PER ปี 2550 ที่ 10 เท่า และวิธี Replacement cost

โดย ผู้จัดการออนไลน์

ฟฟฟฟ2

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com