May 7, 2024   7:24:40 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ผู้บริหาร กับ หุ้น
 

samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
วันที่: 02/11/2006 @ 11:27:43
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

คุณ วิวัฒน์ จาก เขตบางพลัด กทม. ถามมาว่า ทำไมผู้ถือหุ้นใหญ่ และผู้บริหารบริษัทจดทะเทียนบางราย มีชื่อพัวพันกับราคาหุ้น แต่ทำไมผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารบางบริษัท ถึงได้วางเฉยไม่ใส่ใจกับราคาหุ้น อะไรคือมาตรฐานและจุดมุ่งหมาย เพื่อจะได้เข้าใจว่าควรทำตามคำพูดของผุ้บริหารหรือไม่?

ที่พฤติกรรมของผู้ถือหุ้นใหญ่ และผู้บริหารมีความหลากหลายแตกต่างกันอย่างนี้เป็นเครื่องมือวัดที่ดีครับว่า อะไรคือเส้นแบ่งระหว่างบริษัทที่มีธรรมาภิบาล มากหรือน้อย

ความชัดเจนเรื่องนี้ เป็นประเด็นที่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจ ไม่ใช่สับสนตามนะครับ

โดยหลักของบริษัทจดทะเบียน การเข้าระดมทุนโดยหาเงินจากผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ผู้ถือหุ้นใหญ่จะต้องยินยอมลดสัดส่วน ความเป็นเจ้าของของตนเอง และยอมให้มีการตรวจสอบจากสาธารณะในฐานะบริษัทมหาชนมากขึ้นกว่าบริษัทปกติ เพราะเอาเงินคนอื่นมาใช้สร้างความแข็งแกร่งกับการดำเนินงาน

ในขณะที่ที่ผู้บริหาร คือ คนที่ถูกคาดหวังว่าจะสามารถใช้ทรัพยากรของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุดคือ ตอบแทนผู้ถือหุ้น (นอกเหนือจากความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค และสังคมทั่วไป) ไม่ว่าผู้บริหารนั้นจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือไม่ใช่ หรือ เป็นแค่มืออาชีพ

โดยทั่วไป บริษัทมหาชนจดทะเบียน มักจะมีข้อกำหนดในเรื่องความเป็นเจ้าของกับอำนาจการจัดการ ที่ชัดเจน และความชัดเจนเช่นนี้คือเส้นแบ่งว่าบริษัทนั้นมีธรรมาภิบาลดีแค่ไหน

ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ชอบเข้ามาวุ่นวายกับราคาหุ้น หรือออกมาใช้ข่าวในลักษณะชี้ชวนว่าบริษัทจะดีอย่างนั้นอย่างนี้ หรือชี้นำราคาหุ้น ถือว่า เข้าข่ายไม่โปร่งใส ส่วนผู้บริหารที่ออกมาให้ข้อมูลชี้นำราคาหุ้น ก็มีคำถามเช่นกัน แต่นั่นยังไม่ร้ายเท่กับพูดความจริงตารมที่มันควรจะเป็นมากน้อยแค่ไหน

สิ่งที่น่าประหลาดก็คือในบริษัทบลูชิพ ที่เป็นขนาดใหญ่ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และผู้บริหการมักจะทำตัวเงียบๆ ไม่ค่อยพูดจา ไม่ใช่เพราะกลัวว่าดอกพิกุลจะร่วงหรอกนะครับ แต่มันเป็นเพราะเขารู้หน้าที่ของตนว่าควรทำอย่างไร

ส่วนในบริษัทที่ไม่ค่อยจะเอาไหน หรือผู้ถือหุ้นและผู้บริหารเป็นคนเดียวกัน ก็มักจะติดนิสัยเถ้าแก่ ชอบออกมาจุ้นจ้านไม่ค่อยเข้าท่า พูดถึงบริษัทในลักษณะขาดๆเกินๆเป็นประจำ หรือไม่ก็ทำตัวเป็นโฆษกของบริษัทไปเลย อย่างนี้ ก็มีสิทธิตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่าเป็นพวกชอบชี้นำราคาหุ้น และมักจะอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น

ส่วนบริษัทที่เลวร้าย หรือ ไม่เอาไหนนั้น ผู้บริหารก็มักจะชอบสร้างสอตรี่ที่ไม่ค่อยเป็นความจริง และชวนให้สงสัยว่า กำลังทำอะไรกันแน่

พวกหลังนี้สิครับ นักลงทุนต้องพยายามบอกกับตัวเองให้แม่นๆหน่อยว่า ต้องห่างเข้าไว้ อย่าได้เผลกเป็นอันขาด เพราะพำวกนี้ ว่าไปแล้ว ก็งูเห่าดีๆนี่เอง เผลอไม่ไหร่มีหวังฉกเอาตายเลยทีเดียว

เรื่องนี้ ผมว่า ต้องแยกแยะให้ดีนะครับ ก่อนจะเสียค่าโง่
พวกซูเปอร์สตาร์นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นของปลอมที่มีผลประโยชน์แอบแผง และทับซ้อน ซ่อนเงื่อนที่พิกลพิการ

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com