May 6, 2024   3:50:19 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > คลื่นลูกที่สอง ต้องสูงกว่าคลื่นลูกแรก
 

samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
วันที่: 30/10/2006 @ 15:33:23
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ตัวเขาเองเหมือนคลื่นลูกที่สองที่ต้องมียอดสูงกว่าคลื่นลูกแรก เพราะสิ่งที่ผู้บริหารรุ่นแรกๆทำไว้ดีหมดทุกอย่าง เขาจึงต้องต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก

ทันทีที่คณะกรรมการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) มีมติแต่งตั้ง คมสันต์เชษฐโชติศักดิ์ เข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท สกาย-ไฮ เน็ตเวิร์ค จำกัด เพื่อบริหารคลื่นวิทยุในเครืออาร์เอส แทน นายสุระชาติ ตั้งตระกูล อดีตผู้บริหารที่ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการเมื่อหลายเดือนก่อน นับเป็นอีกย่างก้าวหนึ่งที่ท้าทายความสามารถผู้บริหารหนุ่มไฟแรงพอสมควร

เนื่องจากการเข้ามารับตำแหน่งดังกล่าวถูกคนรอบข้างบางคนมองว่า ไม่ได้เกิดฝีมือการบริหารงานอันยอดเยี่ยม แต่เกิดจากการอุมปถัมภ์ค้ำชูจาก เฮียฮ้อ เขาจึงทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างเต็มที่ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า เขามีความสามารถ และมีดีไม่แพ้ผู้บริหารรุ่นก่อนๆ

บทสนทนาในวันนี้จึงเป็นการท้าวความย้อนไปในอดีตตั้งแต่สมัยเรียนอยู่เมืองนอกเพื่อชี้ให้เห็นถึงประสบการณ์หลังจากเรียนจบ เขาเคยผ่านงานสายอะไรมาบ้าง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการบริหารงานในปัจจุบันได้มากน้อยเพียงใด

เขาเล่าว่า หลังจากจบปริญญาตรีที่ University of California, SantaBarbara และเรียนต่อปริญญาโทที่ Illinois Institute of Technology ได้เริ่มทำงานครั้งแรกที่ KPMG (Thailand)ในปี 2545 ซึ่งเป็นฝ่ายที่ดูแลธุรกิจต่างประเทศเกี่ยวกับไล่เซ่นต์ภาพยนต์

หลังจากที่ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานจนอิ่มตัว เขาก็พร้อมที่จะพิสูจน์ฝีมือโดยเข้ามารับตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ในปี 2547 มีหน้าที่หลักคือดูแลในส่วนกลุ่มงานธุรกิจเพลง และมีเดียทั่วไป พร้อมทั้งเรียนรู้วิธีการทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ

จนวันนี้เขาก็พร้อมพิสูจน์ความสามารถในตัวเขาอีกครั้งหนึ่ง หลังผู้บริหารระดับสูงมอบความไว้วางใจด้วยการมอบหมายหน้าที่ให้รับผิดชอบดูแลธุรกิจวิทยุที่อาร์เอสถืออยู่ในมือไว้กว่า 4 คลื่น คือ 88.5 เอฟเอ็ม แมกซ์ , 90 มิกซ์ เอฟเอ็ม, คูล 93 ฟาห์เรนไฮท์และลาเต้ 106 เอฟเอ็ม ซึ่งเขารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ผู้ใหญ่มอบหมายภาระกิจสำคัญให้รับผิดชอบอย่างเต็มตัว

ขณะที่ตัวเขากล่าวด้วยความปลาบปลื้มใจว่า การเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการเป็นเรื่องที่ดี และถือเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจ เพราะได้เรียนรู้การทำงานที่มีความท้าทายความสามารถเป็นอย่างมากในช่วงที่บริษัทฯกำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ รวมทั้งธุรกิจคลื่นวิทยุกำลังมีการแข่งขันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

นี่เป็นบททดสอบสำคัญก่อนจะก้าวขึ้นไปเรียนรู้งานในส่วนต่างๆ ที่สูงขึ้น คมสันต์กล่าวถึงความท้าทายครั้งใหม่

อย่างน้อยเขาก็เชื่อว่า การรับตำแหน่งในครั้งนี้ สามารถใช้ความรู้ที่มีอยู่ในสายงานมาร์เก็ตติ้งใหม่ๆ ช่วยให้คลื่นวิทยุที่บริหาก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งทุกคลื่น ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีนับจากนี้ ซึ่งมองว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูงเลยทีเดียว

เนื่องจากคลื่น คูล 93 ฟาร์เรนไฮท์ เป็นอันดับ 1 อยู่แล้ว ส่วนลาเต้ 106เอฟเอ็ม ขณะนี้อยู่ในอันดับที่ 2 และ 88.5 เอฟเอ็ม แมกซ์ อยู่ในอันดับที่ 3 ของแต่ละเซกเมนต์ที่จับอยู่นั้น หากมีการทำตลาดอย่างจริงจัง ก็สามารถอยู่ในอันดับหนึ่งได้ไม่ยากเย็น

ส่วนการคืนคลื่น 90 มิกซ์ เอฟเอ็ม ในช่วงที่ผ่านมานั้น เป็นแผนที่มีมาก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่ง จึงไม่รู้สึกวิตกกังวล หรือหนักใจตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด เพราะตัวเขาเองต้องการโฟกัส 3 คลื่นที่มีอยู่อย่างเต็มที่ เพื่อเข้าไปครองใจคนฟังให้มากที่สุด

เขายอมรับว่า การเข้ามาดูแลธุรกิจคลื่นวิทยุในช่วงที่ อาร์เอส มีนโยบายเปลี่ยนตัวเองเป็น เอ็นเตอร์เทนต์เมน คอนเทนน์ โพรไวร์เดอร์ แทนการเป็นเพียงค่ายเพลงอย่างแต่ก่อน และต้องการให้ธุรกิจคอนเทนต์มีความสอดคล้องกับเทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้บริษัท สกาย-ไฮ ต้องปรับองค์กรและการทำงานตามไปด้วย เพื่อให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน

นโยบายการบริหารของเขาหลังจากเข้ามารับตำแหน่งถึงเน้นเรื่อง SPEED &STYLE หลังมองว่าคลื่นที่มีอยู่ทั้งหมด ล้วนตอบสนองความต้องการของผู้ฟังเพลงได้ครบทุกเซ็กเม้นท์ และหลังจากนี้ สกาย-ไฮ จะมีการทำกิจกรรมทางการตลาดร่วมกับบริษัทในเครือมากขึ้น เพื่อช่วยประหยัดต้นทุนในการดำเนินงานตามนโนบาย zero budgetของเฮียฮ้อ

วันนี้แนวทางการบริหารงานของอาร์เอส มีความลงตัวเป็นอย่างมาก การทำงานในระดับนโยบายมีการมอบหมายเป็นขั้นเป็นตอนไปสู่ระดับปฏิบัติงานต่อไป ทำให้งานต่างๆ ไม่มีสะดุด หรือหยุดชะงัก แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหาร หรือพนักงานในระดับใดก็ตามเป็นคำกล่าวของเฮียฮ้อที่คมสันต์นำมาถ่ายทอดให้กับทีมงานอินไซด์กองทุนได้ฟัง

นอกจากนี้เขายังย้ำกับทีมงานว่า การบริหารงานในปัจจุบันของเขาเลียนแบบมาจากเฮียฮ้อ เพราะเป็นบุคคลต้นแบบที่สอนให้รู้ถึงการบริหารงานเชิงรุก เชิงรับ รวมถึงการกล้าปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ หากเห็นว่าสิ่งนั้นช่วยให้บริษัทมีพัฒนาการที่ดีขึ้น

เขาถึงเปรียบตัวเขาเองเหมือนคลื่นลูกที่สองที่ต้องมียอดสูงกว่าคลื่นลูกแรก เพราะสิ่งที่ผู้บริหารรุ่นแรกๆ ทำไว้ดีหมดทุกอย่าง เขาจึงต้องต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก คมสันต์กล่าวถึงเป้าหมายในการทธุรกิจ

สำหรับแนวคิดเรื่องเงินๆ ทองๆ มองว่า ต้องเริ่มเก็บออมเงินก่อนเป็นลำดับแรกเมื่อมีเงินออม มีความพร้อม และมีโอกาสที่ดี ก็สามารถเข้าไปลงทุนได้ ถ้ามัวแต่ใช้จ่ายหรือเอาเงินไปทำอะไรที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ พอโอกาสดีๆ มาถึงอาจไม่มีเงินไปลงทุน

เหล่านี้เป็นแนวคิดของผู้บริหารหนุ่มไฟแรงที่พยายามผลักดัน RS ให้ขึ้นเป็นบริษัทเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ชั้นของประเทศ และมีการเติบโตแบบยั่งยืน

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com