May 6, 2024   5:35:04 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เกณฑ์รู้ตัวตน-กำหนดวงเงินเริ่มพ.ย.
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 30/10/2006 @ 12:02:10
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

สมาคมบล.เผยเตรียมประกาศใช้เกณฑ์การรับรู้ตัวตนและการกำหนดวงเงินลูกค้าภายในเดือนพ.ย.นี้ มั่นใจไม่กระทบต่อภาวะการลงทุน เล็งลดวงเงินนักลงทุนที่มีพฤติกรรมการซื้อขายผิดปกติในหุ้นที่มีเทิร์นโอเวอร์ลิสสูง เตรียมดันข้อตกลงการย้ายงานเจ้าหน้าที่มาร์เกตติ้งออกมาใช้หลังได้ข้อสรุปโครงสร้างค่าคอมมิชชั่น

นายจงรัก ระรวยทรง กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์เปิดเผยว่า ภายในวันที่ 30 ตุลาคมสมาคมได้เรียกบริษัทสมาชิกเข้าประชุมร่วมกัน ซึ่งมีจะมีการหารือในหลายเรื่องซึ่งประกอบด้วยเรื่องเกี่ยวกับเกณฑ์การรู้จักตัวตน ซึ่งจะมีการทำประชาพิจารณ์ภายในสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะสามารถประกาศใช้ได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้

ขณะเดียวกันด้านการกำหนดวงเงินลูกค้า คาดว่าจะสามารถประกาศใช้ได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะมีแนวทางขั้นต่ำให้กับบริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งกำหนดไว้ เพื่อให้บริษัทหลักทรัพย์มีบรรทัดฐานเดียวกัน ในการกำหนดวงเงินลูกค้า ซึ่งบางบริษัทหลักทรัพย์ก็อาจจะใช้แนวทางที่เข้มงวดกว่าแนวทางที่กำหนดไว้ก็ได้ และจะมีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือก.ล.ต.จะใช้แนวทางดังกล่าวเพื่อตรวจสอบบริษัทแต่ละแห่งว่าได้ตามเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้หรือไม่สำหรับหุ้นที่มีเทิร์นโอเวอร์ลิสสูง ซึ่งถ้ามีนักลงทุนเข้าไปซื้อขายในลักษณะผิดปกติ บริษัทหลักทรัพย์ก็สามารถที่จะทบทวนการปล่อยเงินวงเงินให้กับลูกค้าได้ โดยอาจจะลดวงเงินได้ เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงของบริษัทหลักทรัพย์และนักลงทุนเอง ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์จะพิจารณาจาก 2 ส่วนคือความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง และพฤติกรรมการลงทุนของลูกค้าว่าเป็นอย่างไร

การนำเกณฑ์การรู้จักตัวตนของลูกค้ามาใช้ถือว่ามีความจำเป็น เพราะประเทศต่างๆ ก็ได้มีการดำเนินการเช่นกัน ซึ่งภายในต้นปีก็จะมีตัวแทนจากไอเอ็มเอฟ และจากธนาคารโลกเข้ามาประเมิน การนำเกณฑ์ดังกล่าวมาใช้ก็จะทำให้สร้างความเชื่อมั่นแก่การลงทุน ส่วนจะมีผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์หรือไม่ มองว่าขึ้นอยู่กับผลตอบแทนในตลาดหุ้น ซึ่งถ้ามีผลตอบแทนที่ดี ก็เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใดนายจงรักกล่าว

ทั้งนี้การประชุมในครั้งนี้ก็จะมีการเชิญตัวแทนจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์หรือนิด้า ซึ่งเป็นสถาบันที่สมาคมบล.จ้างให้ศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างค่าธรรมเนียมหรือคอมมิชชั่นเพิ่มเติม มาให้ข้อมูลแก่บริษัทสมาชิก ซึ่งจะได้รับทราบถึงผลการศึกษาและอุปสรรคต่างๆ ว่าเป็นอย่างไร ส่วนสำนักงานก.ล.ต.ที่จะพิจารณาภายในเดือนพฤศจิกายนว่าจะขยายเวลาค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำ 0.25% ต่อไปอีกตามที่สมาคมเสนอขอหรือจะเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นนั้นยังไม่สามารถบอกได้

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ก็มีการหารืออย่างไม่เป็นในกรณีที่สำนักงานก.ล.ต.เปิดเสรีค่าคอมมิชชั่น เชื่อว่าจะส่งผลกระทบและบริษัทหลักทรัพย์ส่วนใหญ่คงจะหันไปแข่งขันการลดค่าคอมมิชชั่น และมีโอกาสที่จะไปสู่ระบบศูนย์เปอเซนต์อย่างในอดีตที่ผ่านมา

กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์กล่าวต่อว่า ถ้าได้ข้อสรุปเกี่ยวกับโครงสร้างค่าคอมมิชชั่นแล้วสิ่งที่จะต้องพิจารณาต่อไป คือเกณฑ์การย้ายงานของเจ้าหน้าที่มาร์เกตติ้ง ซึ่งที่ผ่านมาก็มีนายประทีป ยงวณิชย์กรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเซียพลัส เป็นหัวหน้าคณะทำงานในการศึกษาในเรื่องดังกล่าวการประชุมของบริษัทหลักทรัพย์ในครั้งนี้จะมีการขอคำยืนยันว่าบริษัทหลักทรัพย์มีความพร้อมเกี่ยวกับระบบการตัดบัญชีผ่านธนาคารพาณิชย์หรือระบบ ATS ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจะให้ลูกค้าใหม่ที่เพิ่งเปิดบัญชีนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2548 เข้าสู่ระบบเอทีเอสเลย จึงเหลือเพียงแต่ลูกค้าเก่าเท่านั้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละบริษัทหลักทรัพย์สมาชิก

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com