May 6, 2024   3:21:05 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สุดยอด RMF รีเทิร์นเกิน100%
 

samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
วันที่: 30/10/2006 @ 11:34:47
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

นักลงทุนที่กำลังเลือกเฟ้นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) เพื่อลงทุนในช่วงท้ายปีเป็นครั้งแรกหรือต้องการเปลี่ยนกองทุนใหม่ที่ให้ได้ผลตอบแทนดีขึ้นนั้นจะต้องพิจารณาผลตอบแทนของ RMF ในระยะยาว เนื่องจากกองทุนประเภทนี้เป็นกองทุนรวมที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยลดหย่อนได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้เมื่อรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ กบข.แล้วไม่เกิน 300,000 บาท แต่นักลงทุนจะต้องลงทุนอย่างน้อย 5 ปีจึงจะได้รับสิทธิดังกล่าว

ทั้งนี้ RMF ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวนั้นส่วนใหญ่ลงทุนในตลาดหุ้น หรือเป็นกองทุนหุ้น รองลงมาเป็นกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น กองทุนตราสารหนี้และกองทุนรวมตลาดเงินตามลำดับ

แม้ว่าที่ผ่านมานักลงทุนจะไม่ชอบกองทุน RMF ที่เป็นกองทุนหุ้นเพราะมองว่าความเสี่ยงสูง แต่ตัวเลขผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเป็นตัวพิสูจน์ได้ดีว่า กองทุนหุ้นผันผวนในระยะสั้น แต่ในระยะยาวแล้วเป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด

ข่าวหุ้นธุรกิจจึงได้รวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงานRMFที่ให้ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุนสูงสุด 20 อันดับแรกมานำเสนอให้นักลงทุนใช้พิจารณาในการลงทุนเพื่อจะได้รับผลตอบแทนที่ดีไปพร้อมๆ กับการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

โดยกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดตั้งแต่จัดตั้งกองทุน คือ กองทุนเปิดอเบอร์ดีนสมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งบริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด ให้ผลตอบแทน 198.54% สูงกว่าดัชนีตลาดหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 110.1% โดยกองทุนนี้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2545 ลงทุนในหุ้นเกือบ 100% ซึ่งหุ้นที่กองทุนเน้นลงทุน ณธ.ค.2548 ได้แก่ SCC PTTEP HANA MAKRO KBANK TISCO SCB EASTW STANLYและBIGC เป็นต้น

อันดับ 2 กองทุนเปิดรวงข้าวหุ้นทุนบริพัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งเป็นกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น สามารถลงทุนได้ทั้งหุ้นและตราสารหนี้ของบลจ.กสิกรไทย ให้ผลตอบแทน 192.85%กองทุนนี้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2544 เน้นลงทุนในหุ้นกว่า 96% เช่น PTT PTTEP ADVANCSCCBBL KBANK SHIN TOP SCB และKTB เป็นต้น

อันดับ 3 กองทุนเปิดหุ้นคุณค่าเพื่อการเลี้ยงชีพ ของบลจ.เอ็มเอฟซีจำกัด(มหาชน)ให้ผลตอบแทน 164.43% สูงกว่าดัชนีตลาดหุ้นที่เพิ่มขึ้น 140.21% โดยกองทุนนี้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2544 เน้นลงทุนในหุ้น PTT PTTEP KBANK SCC BBL SCB SHIN CPF และ TOPเป็นต้น

อันดับ 4 กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ของบลจ.ไอเอ็นจี ให้ผลตอบแทน 164.21% สูงกว่าดัชนีที่เพิ่มขึ้น 106.99% โดยกองทุนนี้จัดตั้งเมื่อปี 2545 เป็นกองทุนหุ้นที่เน้นลงทุนในหุ้น PTT PTTEP ADVANC SCC BBL SHIN KBANK KTB SCB และPS เป็นต้น

อันดับ 5 กองทุนเปิดอยุธยาทวีทรัพย์เพื่อการเลี้ยงชีพ ของบลจ.อยุธยา จำกัด ให้ผลตอบแทน 163.73% กองทุนนี้เป็นกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2545 เน้นลงทุนในหุ้น PTT ADVANC SCC BBL PTTEP BANPU PS SCB PSL เป็นต้น

อันดับ 6 กองทุนเปิดยูโอบีตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ของกองทุนหุ้นของบลจ.ยูโอบี(ไทย) จำกัด ให้ผลตอบแทน 159.96% สูงกว่าดัชนีตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นเพียง 89.28% กองทุนจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2545 เน้นลงทุนในหุ้น PTT ADVANC PTTEP SCC BBL KBANK SHINKTB SCB และAOT เป็นต้น

อันดับ 7 กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ของบลจ.บัวหลวงให้ผลตอบแทน 159.52% สูงกว่าดัชนีตลาดหุ้นที่เพิ่มขึ้น 100.63% โดยกองทุนจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2549 ทั้งนี้ กองทุนเน้นลงทุนในหุ้น SCC PTT BANPU TOP BBL PTTEP BAY HMPRO และRCL เป็นต้น

อันดับ 8 กองทุนเปิดธนชาติหุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ของบลจ.ธนชาต จำกัด ให้ผลตอบแทน 137.96%l สูงกว่าดัชนีตลาดหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้น 93.87% กองทุนนี้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2545 โดยกองทุนนี้เน้นลงทุนใน PTT SCC BBL ADVANC KBANK SHIN และ SCB เป็นต้น

อันดับ 9 กองทุนเปิดทิสโก้หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ของบลจ.ทิสโก้ จำกัด ให้ผลตอบแทน 112.2% น้อยกว่าที่ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 115.42% โดยกองทุนนี้เป็นกองทุนหุ้นจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2545 เน้นลงทุนในหุ้น เช่น BBL PTTEP PTT SCC KBANK SHINSTEC ADVANC และ BAY เป็นต้น

อันดับ 10 กองทุนเปิดพรีมาเวสท์เฟล็กซิเบิ้ลฟันด์เพื่อการเลี้ยงชีพ ของบลจ.พรีมาเวสท์จำกัด ให้ผลตอบแทน 87.43% เป็นกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น จัดตั้งขึ้นเมื่อปี จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2545 เน้นลงทุนในหุ้น PTT BBL SCC BAY ADVANC KBANK SHIN และ TOPเป็นต้น

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า RMF ที่ให้ผลตอบแทนสูง ส่วนใหญ่ก่อตั้งขึ้นในปี 2545 ซึ่งเป็นปีที่ตลาดหุ้นเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 ทำให้กองทุนมีต้นทุนต่ำสร้างผลตอบแทนได้สูง ทั้งนี้ นักลงทุนจะต้องพิจารณาด้วยว่ากองทุนเหล่านี้ ปัจจุบันยังคงเป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกับนักลงทุนหรือไม่

เนื่องจาก ผลตอบแทนที่ดีในอดีตไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่ากองทุนดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคต แต่เป็นเพียงการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนเท่านั้น






[/color:7a05af3600">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com