May 6, 2024   11:18:03 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ปั้นตัวเลขกันน่าดู
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 30/10/2006 @ 10:52:50
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

*เห่อ...เห่อ...เห่อ...โผล่มาเจอหน้าคราตาในคราวนี้ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ หรือมีลับลมคมในมาแจกแจงหนอกนะ เพราะสิ่งที่ เวตาล จะเล่าให้ฟังดังต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องนำไปพิจารณา และตัดสินใจกันเอาเองว่า การลงทุนในกองทุนแบบใดเหมาะแก่ตัวเอง...เพราะผีน้อยไม่อยากพูดอะไรมากเกินไป เดี๋ยวจะหาว่า ทำไมผีไม่อยู่ส่วนผีนะนายจ๋า

*ล่าสุดผีน้อยเห็น บลจ.ไทยพาณิชย์ รับหน้าเสื่อจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ เพื่อระดมทุนประมาณ 9,000 ล้านบาท โดยเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (ไอพีโอ) ในเดือนพฤศจิกายน และคาดว่าผลตอบแทนของการลงทุนในปีแรกอยู่ที่ 7.4% และจะขยับขึ้นเป็น 8-9% ในปีต่อไป และเมื่อผ่านไป 30 ปี จะมีผลตอบแทนจากโครงการ (ไออาร์อาร์) 12%

*สำหรับรูปแบบการจัดตั้งกองทุนไม่ได้ต่างไปจากเจ้าอื่นๆ สักเท่าไหร่ เพราะยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เป็นเจ้าของตึกร่วม โดยอาคารเวฟเพลส และคิวเฮ้าส์เพลินจิต มีสัดส่วนการเช่าเต็มเกือบ 100% ส่วนอาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างตกแต่งอาคารบางส่วน ทำให้การเช่าพื้นที่มีสัดส่วนเพียง 60% แต่ทางคิวเฮ้าส์ได้รับประกันรายได้ขั้นต่ำอย่างน้อย 3 ปีด้วย ปีแรก 435 ล้านบาท ปีที่สอง 450ล้านบาท และปีที่สาม 465 ล้านบาท ด้วยนะจะบอกให้

* เวตาล สนใจมากที่สุดก็ตรงคำพูดที่ว่า การทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีข้อจำกัดเรื่องเงินทุนในการขยายกิจการ การจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์จึงเป็นการช่วยลดอุปสรรคทางด้านเงินทุนได้ค่อนข้างมาก เพราะทำให้ตัวบริษัทมีเงินไปลดหนี้ และมีศักยภาพในการขยายธุรกิจต่อไปในอนาคต

*นั่นแสดงว่า กองทุนอสังหาริมทรัพย์ จะผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดในปีหน้าใช่ไหมเอ่ย...ส่วนเหตุผลที่ ควอลิตี้ เฮ้าส์ ใช้บริการที่นี้ เพราะวัวเคยขา ม้าเคยขี่ แถมกองแรกที่จัดตั้งก็ใช้บริการที่นี้ แล้วจะให้เปลี่ยนไปใช้บริการที่อื่นได้อย่างไรขอรับ...ส่วนเหตุผลเรื่องมีศักยภาพและความพร้อมทางด้านนี้โดยตรง เพราะเป็นบริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่มีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมาก จึงมีประสิทธิภาพในการระดมทุนได้ดีเป็นเหตุผลรองอย่างแน่นอน หุหุหุหุ

*ทางด้าน พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี เห็นเงียบๆ ไป หลังจากมีการปฎิวัติ ก็ลุกขึ้นมาปั้นสินทรัพย์อีกคำรบหนึ่ง ล่าสุดรายยาวให้ฟังว่าทำอะไรบ้างอย่างไร ทีไหนเสร็จสรรพ ไม่ต่างไปจากนกแก้วนกขุนทองแบบนี้ เวตาล ขอโค้งคำนับในความเก่งกาจด้านวาจาขอรับ

*สำหรับผลงานรุกขายกองทุนในช่วงเดือนตุลาคม เริ่มต้นด้วยกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีแฮปปี้ ดี ไฟฟ์ ฟันด์ หรือ MFC Happy D5 ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสมที่เน้นลงทุนในตราสารทุนและมีนโยบายการจ่ายเงินปันผล อย่างน้อยปีละครั้ง แต่ไม่เกิน 12 ครั้งต่อปี ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 4 ของเงินลงทุน ทุก ๆ ครั้งที่กองทุนทำกำไร สามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ โดยเปิดขายหน่วยลงทุนหลังการเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา

*ต่อมาเป็นกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี กาญจนทรัพย์ปันผล 3/1 หรือ MK31-D ซึ่งลงทุนในตราสารหนี้ที่ได้รับผลตอบแทนที่ดีและมีความมั่นคง ทั้งภาครัฐและเอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลประมาณปีละ 4 ครั้งในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิในงวดที่จ่ายเงินปันผลหรือจากกำไรสะสม

*โดยล่าสุดกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีกาญจนทรัพย์ 9/2 หรือ MK92 ซึ่งลงทุนในตราสารหนี้ที่ได้รับผลตอบแทนที่ดี และมีความมั่นคง ทั้งภาครัฐและเอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีตราสารมั่งคั่ง 3/1 หรือ MSB31 ซึ่งลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุใกล้เคียงหรือเท่ากับ 3 เดือน เพื่อคุ้มครองเงินต้นทุกงวด 3 เดือน โดยจะเปิดให้ซื้อขายหน่วยลงทุนรอบใหม่สิ้นเดือนนี้

*เวตาล เห็นผู้จัดการกองทุนขมีขมันเช่นนี้ ก็ขอให้ NAV ที่ตั้งไว้สิ้นปี 2549 เป็นไปตามเป้าด้วยเถิด...เห่อ...เห่อ...เห่อ


.000002



[/color:2afbffd2d1">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com