คุณ กษมา จาก อ.บ้านเพ ระยอง ถามมาว่า ช่วงนี้ ไปธนาคารแถวใกล้บ้าน มีเจ้าหน้าที่ออกมาชวนซื้อกองทุนรวม RMF กับ LTF เพราะเขาอยากทำเป้า ก็เกรงใจเขาเหมือนกันเพราะชักชวนบ่อยมาก แต่เมื่อดูผลตอบแทนแล้ว รู้สึกว่าขายน้ำเต้าหู้-ปาท่องโก๋จะกำไรดีกว่าหลายเท่า ก็เลยชักไม่แน่ใจว่า ควรจะซื้อดีหรือไม่ เพราะมองจากเงื่อนไขที่เขาเสนอ เทียบกับประกันชีวิตแล้ว ก็รู้สึกว่าประกันชีวิตอาจจะผลตอบแทนต่ำ แต่มีการคุ้มครองด้วย อยากถามว่า จะซื้อเพราะเกรงใจดีหรือไม่?

เป็นธรรมดาครับ ช่วงไตรมาส 4 ทีไร บลจ.ทั้งหลาย ก็จะขยันออกกองทุนทั้งสองประเภทนี้ออกมากันให้เกร่อไปหมด แบบเดียวกับ ห้างสรรพสินค้าแข่งขันลดราคาหรือ ศาลเจ้าจัดงานเทกระจาดทีเดียว

มันเป็นเทศกาลนะครับ จะทำไงได้ บรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารพาณิชย์ที่มี บลจ.ในเครือข่ายด้วย ก็เลยต้องออกมาเซ้าซี้ลูกค้าเพื่อทำเป้าแข่งกัน แบบที่เห็นอยู่นี่แหละครับ

สำหรับผมเอง บางครั้งก็รำคาญนะครับ แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องการแข่งขัน เพราะปัจจุบันบันนี้ การที่ยกเลิกกฎหมายและอนุญาตให้ธนาคารทำ universal banking เสนอบริการทางการเงินหลายรูปแบบ ก็เลยได้เห็นเจ้าหน้าที่ธนาคารเสนอบริหารขายบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล ขายประกันชีวิต-วินาศภัย ขายกองทุนรวม และอื่นๆ...(ดีนะครับที่ไม่ขายผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือล็อตเตอรี่ไปด้วย ไม่งั้นสนุกพิลึกล่ะ)

กองทุนรวม RMF และ LTF มีจุดเด่นเรื่องสิทธิพิเศษด้านภาษี เหนือกว่ากองทุนอื่นๆ(ยกเว้นวายุภักษ์ 1 ) และมีเงื่อนไขเรื่องรับประกันผลตอบแทนให้ด้วย แต่ ต้องถือยาวกว่าปกติ ดังนั้น นักลงทุนที่จะซื้อหน่วยลงทุน ต้องทำใจกันไว้ล่วงหน้าว่าต้องถือยาวจนถึงอายุ 55 ปี ถึงจะขายออกมาได้ ไม่งั้นถือว่าผิดเงื่อนไขครับ

ว่ากันตามจริงแล้ว รูปแบบนี้ก็คล้ายกับซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตประเภทซิงเกิ้ลพรีเมี่ยม ที่เป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่งเหมือนกันและมีระยะเวลาถือใกล้เคียงกัน แต่ประกันชีวิตแบบนั้นมีเงื่อนไขผลตอบแทนต่ำกว่าเล็กน้อย แต่มีข้อดีตรงหักลดหย่อนได้และได้รับการคุ้มครองช่วงที่ยังถืออยู่

เรื่องนี้ คุณต้องอ่านเงื่อนไขในการซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวม เทียบกับกรมธรรม์ประกันชีวิตให้ชัดเจน สอบถามเจ้าหน้าที่ให้รอบคอบทั้งเรื่องผลตอบแทนความเสี่ยง หลักประกันอื่นๆ รวมทั้งเงื่อนไขไถ่ถอนก่อนกำหนดและหลังครบกำหนดฯเอาให้ละเอียดครับ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด

แต่ขอร้องเถอะครับ อย่าเอาไปเทียบกับลงทุนทำปาท่องโก๋ หรือ น้ำเต้าหู้เลยนะครับ มันแสลงใจกัน และไม่ควรเทียบกับ

การลงทุนในกองทุนรวม เป็นเรื่องสำหรับคนที่ต้องการสร้างสินทรัพย์ผ่านพอร์ตโฟลิโอ ไม่ใช่ผ่านการทำงาน แต่การลงทุนในการค้าหรือทำน้ำเต้าหู้ หรือปาท่องโก๋ มันเหมาะสำหรับคนที่ยังมีแรงและต้องการสนุกกับการให้บริการสินค้าที่จับต้องได้ ซึ่งอย่างหลังนี้ ต้องการความสามารถด้านการผลิต การตลาด การขาย ซึ่งหากไม่มีนิสัย ก็ทำไม่เหมาะ

ถ้าหากถามว่าลงทุนกองทุนรวมจะได้น้อยกว่าทำการค้าจริงหรือไม่? ผมบอกได้เลยว่า จริงครับ ไม่มีอะไรดีเท่ากับการค้าหรอกครับ เพียงแต่คุณจะพร้อมที่จะลงมือทำหรือไม่เท่านั้น

พ่อค้าที่ไหนๆ ก็ร่ำรวยกว่านักเก็งกำไรครับ จะมีข้อยกเว้นน้อยมากครับ เพียงแต่พ่อค้านั้น มันไม่โก้ และไม่ภูมิฐานเท่านักเก็งกำไร คุณจะเลือกเอาเงินหรือจะเอาเท่ล่ะครับ

ที่สำคัญ ผมติดใจตอนท้ายของคุณนี่แหละครับ จะลงทุน อย่าซื้อหรือขายเรพาะเกรงใจครับ เงินทองมันหายาก การลงทุนคือการแสวงหาความมั่งคั่งของทรัพย์สินไม่ใช่ การบริจาคหรือทำบุญทอดกฐินนะครับ อย่างนั้นนะขึ้นกับความพึงพอใจ หรือเกรงใจกันได้ครับ

ข่าวหุ้น

.000002