หากพิจารณาตามปัจจัยพื้นฐานของตัวบริษัท เรายังคงคำแนะนำ ?ซื้อเมื่ออ่อนตัว?

เรามองว่า ถึงแม้ว่าในที่สุดบริษัทจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหาร แต่อย่างไรก็ตามบริษัทก็ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตต่อไปได้ ทั้งจากการที่อัตราค่าโฆษณาสื่อ TV ของบริษัทในปัจจุบันยังคงต่ำกว่าช่องอื่นๆ มีโอกาสที่จะปรับเพิ่มขึ้นได้อีก และจากในส่วนของธุรกิจสื่อวิทยุที่ยังสามารถจะเติบโตขึ้นหลังจากที่บริษัทนำกลับมาบริหารเอง นอกจากนี้บริษัทยังมีที่ดินเปล่าอีกประมาณ 50 ไร่ (ใกล้กับศูนย์วัฒนธรรม (ที่รถไฟฟ้าใต้ดินผ่าน)) มีโอกาสจะพัฒนาเป็นโครงการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวบริษัทได้อีกในอนาคต (ยังไม่รวมในประมาณการ)

คาดปี 49 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,357 ลบ. เพิ่มขึ้น 23% yoy และปี 50 คาดกำไรสุทธิเท่ากับ 1,280 ลบ. ลดลง 6% yoy (สมมติฐานภาครัฐมีการใช้งบโฆษณาลงจากปี 49 ประมาณ 50%) คาดจากผลการดำเนินงานปี 49 บริษัทจะจ่ายเงินปันผลเท่ากับ 1.38 บาท/หุ้น (จ่ายปันผลระหว่างกาลแล้วจำนวน 0.80 บาท/หุ้น) คิดเป็น Div Yield เท่ากับ 4.42% และคาดว่าจากผลการดำเนินงานปี 50 บริษัทจะจ่ายเงินปันผลเท่ากับ 1.30 บาท/หุ้น คิดเป็น Div Yield เท่ากับ 4.16%

ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 49 และ 50 เท่ากับ 35.46 บาท และ 33.48 บาท ตามลำดับ (P/E 18X) (P/E กลุ่ม Media ปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 16.5-17.5X)
ดังนั้นหากพิจารณาตามปัจจัยพื้นฐานของตัวบริษัท บริษัทยังคงมีศักยภาพที่จะเติบโตต่อไปได้ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าพื้นฐานปี 50 ยังคงมี Up-side Gain 7% และ Div Yield? 50 ที่ 4.16% เราจึงยังคงคำแนะนำ ?ซื้อเมื่ออ่อนตัว? โดยให้แนวรับทางเทคนิคที่ 28.00-27.00 บาท

โดย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด ประจำวันที่ 27 ต.ค. 2549