May 6, 2024   10:03:04 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กลยุทธ์เล่นหุ้นวันนี้
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 27/10/2006 @ 11:37:56
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

พักฐาน และยังมองเป็นจังหวะซื้อ
KGI มอง SET เทรดไซด์เวย์แดนบวก น่าจะมีรีบาวด์แคบๆ หลังเมื่อวานลงแรงกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคไปมาก ความเสี่ยงขาลงจะยังถูกจำกัดโดยแนวโน้มทุนต่างชาติที่จะยังเข้ามาในหุ้นไทย สะท้อนจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบเกือบ 7 ปีเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน (เช้านี้เทรดที่ 36.91 บาท/เหรียญสหรัฐฯ) ภาพโดยรวมนักลงทุนชะลอเพื่อรอดูข้อมูล GDP ของสหรัฐฯ ที่จะออกในคืนนี้ ซึ่งจะชี้แนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในปีหน้า

กลยุทธ์: ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นไทย เชื่อว่าตลาดที่ทรงๆ ในขณะนี้เป็นโอกาสให้เข้าสะสมต่อ โดยเน้นหุ้นกลุ่มธนาคาร (แนะนำซื้อ KBANK, BBL, SCB และ KTB เป็นหุ้นเด่น) รวมทั้งหุ้นที่อยู่อาศัย (แนะนำซื้อ SPALI, SIRI และ QH เป็นหุ้นเด่น) นอกจากนี้หุ้นที่พื้นฐานดีอย่าง MCOT ก็น่าสนใจ ซึ่งที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับลงไปมากแล้ว (อ่านเพิ่มในรายงาน)

ความเห็นข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ
- คุณหญิงพจมาน ชินวัตร เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ วานนี้ ซึ่งทำให้เกิดข้อวิจารณ์ตามมาว่าไม่เหมาะสมนัก อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันอย่างชัดเจนว่าได้มีการหารือถึงการกลับประเทศของพต.ท.ทักษิณ ชินวัตรหรือไม่

- องค์กรการค้าระหว่างประเทศ (WTO) เริ่มการไต่สวนในข้อเรียกร้องของไทย ที่จะขอยกเลิกภาษีทุ่มตลาดกุ้งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเรามองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ WTO จะมีการตัดสินให้มีการยกเลิก เนื่องจากราคากุ้งที่ไทยส่งออกไปนั้น ไม่ได้ต่ำกว่าต้นทุน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวต่อ CPF (เป้าหมาย 5.7 บ.) และ TUF (เป้าหมาย 23.3 บ.) ซึ่งมียอดขายจากการส่งออกกุ้งไปสหรัฐฯ

- คุณมิ่งขวัญ ออกมากล่าวว่า ตนเองไม่มีแผนที่จะกลับเข้าไปสมัคร หรือดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ อสมท. ซึ่งเป็นไปตามมุมมองของเราที่ว่าคุณมิ่งขวัญจะไม่กลับมา ซึ่งก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท คงคำแนะนำ ?ซื้อ? ราคาเป้าหมาย 39.2 บ.

- ทีพีไอ จะหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น 45 วัน ในเดือนพฤศจิกายนที่จะทำให้รายได้หาย 6% แต่ ในอีก 3 ปีข้างหน้า เมื่อการปรับปรุงโรงกลั่นเสร็จเรียบร้อย เพื่อให้มีกำลังการผลิต 2.5 แสนบาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบัน 2.3 แสนบาร์เรลต่อวัน เป็นข่าวดีต่อบริษัทแต่ไม่เพียงพอที่จะทำให้หุ้น ทีพีไอ สมควร ซื้อขายอยู่ที่ ราคาแพงกว่า หุ้นในกลุ่มเดียวกัน คงความเห็นด้านลบต่อหุ้นทีพีไอ

- BECL คาดรายได้โต 5% ในปี 2550 จาก 3% ในปี 2549 และคาดว่ารายได้ในไตรมาสที่ 3/49 จะอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับประมาณการณ์ของเรา ประกอบกับยอดขายรถยนต์ในเดือนกันยายนที่เติบโตสูงสุดที่ 21% และปริมาณการจราจรสู่สนามบินสุวรรณภูมิ จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของ BECL คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 25 บาท

- เซ็นทรัลยอมรับยอดรายได้ปี 49 เติบโตเพียงแค่ 5% จากระดับ 6.4 พันล้านบาทในปี 48 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบ 8 ปี เผยเตรียมทุ่มเม็ดเงินการตลาด 400 ล้านบาทเพื่อเร่งยอดขายกลับมา และเตรียมลงทุนอีก 1 พันล้านบาทเพื่อรีโนเวต 3 สาขาใหญ่ในปีหน้า ความเห็น คาดว่ากลุ่มเซ็ลทรัลยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงมากต่อไปอีกในอนาคต โดยเฉพาะจากห้างพารากอนและเอ็มโพเรียม ราคาหุ้นที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก ทำให้เราเห็นโอกาสที่ปรับขึ้นอีกมีไม่มากนัก ดังนั้น เราจึงมีมุมมองที่เป็นกลางกับหุ้น CPN

- อธิบดีกรมการค้าภายในเผยจะไม่ขยายเวลาชะลอการขยายสาขาของร้านค้าปลีกขนาดใหญ่หลังจากพ้นกำหนด 30 วันซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ แต่จะขอความร่วมมือไม่ให้ย่อขนาดของร้านลงน้อยกว่า 1,000 ตารางเมตรและขอความร่วมมือในการพิจารณาผลดีผลเสียต่อเศรษฐกิจชุมชน

โดย บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ(ประเทศไทย) ประจำวันที่ 27 ต.ค. 2549

[/color:6e0ca325a6">

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 27/10/2006 @ 11:39:45 : re: กลยุทธ์เล่นหุ้นวันนี้
ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แนวโน้มตลาดวันนี้เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปิดลบจากแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังจากขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ มีแรงขายหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แบงก์ และเทคโนโลยี มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน ดัชนี SET ปิดที่ 728.49 จุด -4.31 (-0.59%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายปานกลางที่ 1.49 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 668 ล้านบาท คาดตลาดวันนี้จะอยู่ในช่วงพักฐานต่อจากเมื่อวาน แนะนำ นักลงทุนสะสมหุ้นพื้นฐานดี นักเก็งกำไรระมัดระวังแรงเทขายทำกำไร หุ้นแนะนำพิเศษ : PHATRA (44.25 ซื้อ เป้าปี50, 55)ได้เปรียบที่สุดจากการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติ คาดEPSปี49โต 50%yoy แต่ชะลอตัวลงในปีหน้าเพราะแนวโน้มรายได้จากงานด้านวาณิชธนกิจที่ลดลงจากปีนี้ที่ได้งานใหญ่อย่างRRC และ ThaiBev หนุนรายได้ ราคาล่าสุดซื้อขายที่ PERอดีตที่ 15 เท่าซึ่งยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มหลักทรัพย์ในขณะที่ให้ ROE ที่สูงที่สุด (4)

สาระสำคัญวันนี้
- QH (1.18 ซื้อ เป้าปี 49, 1.30) ทริสคงเครดิตองค์กร-หุ้นกู้ BBB+/stable
- SSI (1.16 ซื้อลงทุน เป้าปี 50, 1.52) ไตรมาส 3 กำไรจะออกมาดี
- สรุปการซื้อขายผ่าน NVDR
- ตาราง NVDR ประจำวันที่ 26 ต.ค. 49
- SET NOTICE CALENDAR

ปัจจัยบวก
+ คำแถลงของFedที่ระบุว่ายังกังวลเรื่องเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังชะลอตัว ทำให้ตลาดคาดว่าFedยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิมไปอีกระยะหนึ่ง และคาดGDPประจำไตรมาส3ที่จะประกาศวันศุกร์นี้จะชะลอลงจากไตรมาส2ที่อยู่ที่ 2.6% ทำให้ค่าเงินดอลลาร์มีทิศทางอ่อนค่าลง เมื่อวานเงินบาทปิดแข็งค่าที่ 37.00 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งแข็งที่สุดในรอบ 7 ปี เช้านี้เปิดแข็งค่าขึ้นอีกที่ 36.93 บาท/ดอลลาร์ ขณะธปท.ระบุเงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไปและจะจับตาดูเงินทุนไหลเข้าอย่างใกล้ชิด

+ ธ.โลกเชื่อมือทีมเศรษฐกิจไทย คาดGDPปี50โตจากปีนี้ที่คาดไว้ที่ 4.5% จากการลงทุนภาครัฐและเอกชน และคาดว่าไทยจะสามารถมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยได้ 5.5-6.8%ต่อปีใน 5-10 ปีข้างหน้าแต่ต้องเพิ่มการลงทุนให้ได้เป็น 28-29%ของGDPจากปัจจุบันที่อยู่ที่ 22%ของGDP

+ ต่างชาติซื้อสะสมตั้งแต่ต้นเดือน เดือนนี้มียอดซื้อสะสมสุทธิราว 1.64 หมื่นลบ.

+ ราคาน้ำมันดิบปิดร่วงลงเมื่อวานนี้จากการขายทำกำไร WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. -1.04 ดอลลาร์ (-1.69%) มาปิดที่ 60.36 ดอลลาร์/บาเร็ล Brent ส่งมอบเดือนธ.ค.-1.28 ดอลลาร์ (-2.06%) มาปิดที่ 60.77 ดอลลาร์/บาเร็ล
ปัจจัยลบ

- ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลียังอยู่ในระดับสูง เกาหลีเหนือเตรียมทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 2

- ระวังหุ้นการเมืองที่จะโดนตรวจสอบ

- การเมืองยังมีภาวะคลื่นใต้น้ำ มีการหารือเพื่อหาช่องทางให้อดีตนายกฯกลับประเทศไทย

- ระวังการขายทำกำไรจากนักลงทุนต่างชาติหลังหุ้นไทยขึ้นไป 5.2%ตั้งแต่เหตุการณ์รัฐประหาร และเงินบาทแข็งค่าขึ้นแล้ว1.5%

Stocks in trend
QH (1.18 ซื้อ เป้าปี 49, 1.30) ทริสคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันที่ BBB+ พร้อมแนวโน้มStable แม้โครงสร้างทางการเงินมีสัดส่วนเงินกู้สูงเพราะเห็นว่าสัดส่วนดังกล่าวจะดีขึ้นหลังวอร์แรนท์ใช้สิทธิแปลงสภาพและการขายอาคารสำนักงานให้เช่าเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (5) ... GLOW (31.25 ถือลงทุน เป้าหมาย 49, 30.50) เป็นหุ้นโรงไฟฟ้าที่น่าสนใจมากที่สุดจากกำไรปีนี้มีโอกาสเติบโตสูงจากปีก่อนที่หยุดซ่อมบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าทำให้ปีนี้สามารถขายไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น (8) ... IHL (17.90 ซื้อ เป้าปี 49, 22) ผู้บริหารเชื่อกำไรไตรมาส 4/49 จะสูงสุดเพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นจากการจัดงานมอเตอร์โชว์และการที่ผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายหันมาเน้นแคมเปญพิเศษกระตุ้นยอดขายรถยนต์ ทำให้ยอดสั่งซื้อเบาะและที่หุ้มพวงมาลัยรถยนต์ของบริษัทสูงตามไปด้วย แถมมีลุ้นจ่ายปันผลมากกว่าปีที่แล้วที่จ่าย 0.30 บาท (7)

Wall Street
เมื่อวานนี้หุ้นสหรัฐฯเดินหน้าต่อโดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของExxon Mobil Corp และ Aetna Inc. ตลาดตอบรับเป็นบวกจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯที่ระบุว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.ทะยานขึ้นเกินคาดที่ 7.8%จากยอดสั่งซื้อเครื่องบินพลเรือน แต่ยังมีท่าทีกังวลต่อรายงานยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนก.ย.ที่ปรับตัวลงมากที่สุดตั้งแต่ปี1970 ตลาดรอตัวเลขGDPประจำไตรมาส3ที่จะประกาศในคืนวันนี้เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะต่อไป DJIA +28.98(+0.24%) ปิด 12,163.66 S&P500 +6.86(+0.50%) ปิด 1,389.08 Nasdaq +22.51(+0.96%) ปิด 2,379.10

ราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบปิดร่วงลงเมื่อวานนี้จากการขายทำกำไรหลังตลาดคาดว่ารายงานสำรองน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ประกาศในคืนวันพุธว่าลดลงมากกว่าที่คาดไว้นั้นเป็นตัวเลขที่บิดเบือนไปจากความเป็นจริงอันเนื่องมาจากท่าเรือขนส่งน้ำมันนอกชายฝั่งรัฐหลุยเซียน่าปิดทำการ 71 ชั่วโมงทำให้ปริมาณการน้ำเข้าน้ำมันดิบที่ลดลง WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. -1.04 ดอลลาร์ (-1.69%) มาปิดที่ 60.36 ดอลลาร์/บาเร็ล Brent ส่งมอบเดือนธ.ค.-1.28 ดอลลาร์ (-2.06%) มาปิดที่ 60.77 ดอลลาร์/บาเร็ล

ข่าวบริษัท
QH (1.18 ซื้อ เป้าปี 49, 1.30) ทริสคงเครดิตองค์กร-หุ้นกู้ BBB+/stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บมจ. ควอลิตี้ เฮ้าส์ ที่ระดับ BBB+ พร้อมแนวโน้มStable หรือ คงที่ สะท้อนภาพพจน์บริษัทที่แข็งแกร่งในตลาดบ้านจัดสรรระดับบนและและรายได้ค่าเช่าจากเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์และอาคารสำนักงานที่เพิ่มขึ้น แต่อาจถูกลดทอนบางส่วนของโครงสร้างทางการเงินที่มีสัดส่วนเงินกู้สูง และความผันผวนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ดี ทริสคาดว่าสัดส่วนเงินกู้จะต่ำลงหลังวอร์แรนท์ใช้สิทธิซื้อหุ้นและการขายอาคารสำนักงานให้เช่า 2 แห่งเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
ความเห็น : การที่ทริสคงอันดับเครดิตแสดงถึงปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่ยังแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดสำหรับลูกค้าระดับบน อย่างไรก็ดี QH เองก็เตรียมออกสินค้าใหม่ภายใต้ชื่อ ?คาซ่าวิลล์? ราคาเฉลี่ย 3-5 ล้านบาทเพื่อจับตลาดลูกค้าระดับกลาง-ล่างด้วยเพื่อรองรับกำลังซื้อที่เป็น real demand เป็นการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของรายได้จากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้การที่ภาวะธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่ามีแนวโน้มดีขึ้นทำให้รายได้ค่าเช่าของบริษัทมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ แผนการจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ราวเดือนพ.ย.49 จะทำให้บริษัทมีรายการพิเศษที่เป็นกำไรจากการขายสินทรัพย์ที่จะทำให้กำไรปีนี้โตก้าวกระโดด แนะนำ ?ซื้อ? โดยมีราคาเป้าหมาย 1.30 บาท (วิลาสินี)

สรุปการซื้อขายผ่าน NVDR
เมื่อวานนี้การซื้อขายผ่านพอร์ต NVDR มีมูลค่าลดลงเหลือ 3.2 พันล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิต่ออีก 1,217 ล้านบาท ภาพการซื้อขายโดยรวมเป็นการซื้อสุทธิในกลุ่มธนาคาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มพลังงานและกลุ่มหลักทรัพย์ ในขณะเดียวกันก็ขายสุทธิในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง

ในส่วนของหุ้นกลุ่มธนาคาร พอร์ต NVDR ได้ซื้อ BBL ต่ออีก 280 ล้านบาท เก็บ KTB เพิ่มอีก 214 ล้านบาท ซื้อ KBANK ต่ออีก 133 ล้านบาท เก็บ TISCO เพิ่มอีก 37 ล้านบาท ซื้อ SCB ต่ออีก 26 ล้านบาท เก็บ SCIB เพิ่มอีก 25 ล้านบาทและซื้อ TMB ต่ออีก 15 ล้านบาท สำหรับหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ NVDR ได้เก็บ ASP เพิ่มอีก 34 ล้านบาทและซื้อ KEST ต่ออีก 14 ล้านบาท

สำหรับหุ้นในกลุ่มพลังงานนั้น พอร์ต NVDR ได้ซื้อ PTTEP ต่ออีก 122 ล้านบาท เก็บ PTT เพิ่มอีก 98 ล้านบาท ซื้อ RATCH ต่ออีก 45 ล้านบาท เก็บ TOP เพิ่มอีก 19 ล้านบาทและซื้อ BANPU ต่ออีก 13 ล้านบาทในขณะเดียวกันก็ขาย TPI ต่ออีก 17 ล้านบาทและขายทำกำไร EGCOMP ออกมา 12 ล้านบาทรวมไปถึงขาย AKR เพิ่มอีก 6 ล้านบาท ในหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี NVDR ได้เก็บ PTTCH เพิ่มอีก 13 ล้านบาทในขณะเดียวกันก็ขาย ATC ออกมา 8 ล้านบาท สำหรับหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ NVDR ได้ซื้อ PDI ต่ออีก 16 ล้านบาท

ในส่วนของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ พอร์ต NVDR ได้ซื้อ LH ต่ออีก 131 ล้านบาท เก็บ AP เพิ่มอีก 34 ล้านบาท ซื้อ ITD ต่ออีก 18 ล้านบาทและซื้อ CPN อีก 16 ล้านบาทในขณะเดียวกันก็ขายทำกำไร PAE ออกมา 10 ล้านบาทและขาย NNCL ออกมา 5 ล้านบาท สำหรับหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง NVDR ได้หันมาขาย SCC ออกมา 43 ล้านบาท

สำหรับหุ้นในกลุ่มสื่อสาร พอร์ต NVDR ได้ซื้อสะสม TRUE ต่ออีก 25 ล้านบาทในขณะเดียวกันก็ขาย ADVANC ออกมา 13 ล้านบาท ในหุ้นกลุ่มขนส่ง NVDR ได้ขาย TTA ต่ออีก 26 ล้านบาท ขายทำกำไร AOT ออกมา 6 ล้านบาท ขาย BECL 6 ล้านบาทและขาย PSL เพิ่มอีก 5 ล้านบาท สำหรับหุ้นกลุ่มบันเทิง NVDR ได้ซื้อ BEC เพิ่มอีก 17 ล้านบาทในขณะเดียวกันก็ขาย MCOT ออกมา 16 ล้านบาท ในหุ้นกลุ่มยานยนต์ NVDR ได้ขาย AH ต่ออีก 6 ล้านบาท

โดย บจ.หลักทรัพย์ โกลเบล็ก ประจำวันที่ 27 ต.ค.2549

[/color:8b97441eea">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com