ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ระดับเดิมที่ 5.25% ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับเดิมเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน

คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง การประชุมว่า ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯชะลอตัวลง ซึ่งส่วนหนึ่งสะท้อนให้เห็นถึง การชะลอตัวลงของตลาดที่พักอาศัย อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวขึ้นใน ระดับปานกลาง

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯชะลอ ตัวลงอย่างรุนแรงในไตรมาสที่ 2 โดยได้ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.6% เมื่อเทียบกับ ระดับ 5.6% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่าเศรษฐกิจ สหรัฐฯอาจจะทรุดตัวลงแตะระดับ 2% ในไตรมาสที่ 3

ส่วนในประเด็นเงินเฟ้อนั้น คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีกล่าวว่า คาดว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าราคาพลังงาน ปรับตัวลดลง อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบสะสมที่เกิดจากการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงที่ผ่านมา

เมื่อพิจารณาเรื่องตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานพบว่า ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น และปริมาณการนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์ซึ่งมีอยู่ใน ระดับสูงได้ส่งผลให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ ซึ่งคณะกรรมการกำหนด นโยบายมองว่า ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่บ้าง แถลงการณ์ของเฟดระบุ

ขอบเขตและช่วงเวลาของการใช้นโยบายเพิ่มเติมจะขึ้นอยู่กับแนวโน้ม ของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ซึ่งจะสามารถประเมินได้จากข้อมูล ที่จะรวบรวมในเร็วนี้ แถลงการณ์ระบุ

กรุงเทพธุรกิจ