May 2, 2024   7:28:32 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระโหลกเซียน....กลยุทธ์และเทคนิค
 

???
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 410
วันที่: 25/10/2006 @ 11:23:05
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

แนวต้าน 725-730 จุด ผ่านยาก แนะนำให้ทยอยขาย เพื่อลดความเสี่ยง แนวต้านคำนวณจากการวิเคราะห์เชิงเทคนิค เรื่องที่ท่านจะได้อ่านดังต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่รวบรวมมา จากกระทู้ตาม Internet ผมขอคารวะท่านผู้เขียนทุกท่าน ขอคัดลอกข้อเขียนมาเป็นวิทยาทาน ผมขอตั้งชื่อเรื่องว่า กลยุทธ์และเทคนิค ซึ่งจะลงทั้งสิ้น 1 สัปดาห์ ต่อเนื่องกันครับ
ถ้าต้องออกรบกับคน4ประเภท จะเลือกเอาใครไปด้วย
1.ทหารกล้า
2.ทหารบ้าบิ่น
3.ทหารขี้กลัว
4.ทหารขี้ขลาด
ถ้าเรานำทหารกล้าไปด้วย เค้าจะกล้าหาญ ไม่กลัวสิ่งใด จริงอยู่อาจจะทำให้กำลังใจดี แต่ว่า อาจจะพาเราไปตายได้ ทหารบ้าบิ่นนั้นไม่ต้องพูดถึง ลุยแหลก ไปด้วยตายแน่ๆ ทหารขี้ขลาด ไปด้วยจะเป็นภาระ และจะไม่ยอมทำอะไรเลย คำตอบที่ดีที่สุดคือพาคนกลัวไปด้วย
การกลัวจะทำให้ระวัง เราเดินไปด้วยจะปลอดภัย ไม่บุ่มบ่าม
ผมมองเรื่องนี้เหมือนเรื่องการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เลย กลัวได้แต่อย่าขลาด
และอย่ากล้า อย่าบ้าบิ่น เกินไป หุ้นตกแรงๆ ต้องมีสติเลือกซื้อ หุ้นขึ้นแรงๆให้เพิ่มความกลัว อย่าไล่ซื้อ
ในภาวะที่ตลาดพักตัวหรือกำลังจะเปลี่ยนแนวโน้มTREND เราควรหลีกเลี่ยงหุ้นในกลุ่มที่มีผลต่อดัชนี โดยการถือเงินสดเพิ่มขึ้น เพื่อรอจังหวะใหม่ในการลงทุนรอบต่อไป และเมื่อดัชนีลงมาใกล้เป้าหมาย ก็เข้าไปตรวจดูในตัวหุ้นที่เราต้องการจะลงทุน ว่าถึงจุดที่ปลอดภัยหรือยัง อย่างเช่นวันนี้ ดัชนี(SET) ขึ้มมาถึงบริเวณแนวต้านที่ 725-730 จุด ก็แนะนำให้ทยอยขายก่อน ถึงแม้ว่าบางตัวขายไปแล้วก็ยังขึ้นอยู่ก็ไม่ต้องกังวล ส่วนการเข้าซื้อ ควรรอให้มั่นใจก่อนแล้วค่อยซื้อ
การขึ้นแรงๆของหุ้นแต่ละกลุ่ม ก็จะไม่พร้อมกัน จะสลับไปมา นักลงทุนที่ไม่เข้าใจตรงจุดนี้ ก็ตามเข้าไปซื้อตัวที่วิ่งขึ้น แล้วคนทำตลาด(market maker)ก็จะขายให้ แล้วไปลากหุ้นอื่นขึ้นมาใหม่ ปล่อยให้นักลงทุนรายย่อย ติดอยู่บนดอย กับภาพความฝันว่า ราคาจะไปต่อ
ในภาวะตลาดขาขึ้น เราควรเลือกลงทุนในหุ้นประเภท GROWTH STOCK เป็นหุ้นที่มีผลประกอบการดีและจ่ายปันผลน้อย เนื่องจากบริษัทได้เอาเงินปันผลไปขยายกิจการ ดังนั้น dividend yeild หรืออัตราผลตอบแทนจะต่ำ
แต่ตลาดที่ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน(NO TREND หรือ SIDEWAYS)เราควรเลือกลงทุนในหุ้นประเภท DEFENDSIVE STOCK หุ้นประเภทนี้ราคาจะมีการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ แต่จะมีปันผลดีกว่าอัตราดอกเบี้ยธนาคาร
ส่วนหุ้น CYCLICAL STOCK ก็คือหุ้นพวก commodity ทั้งหลายที่มีวัฎจักรราคาขึ้นลง มีรอบของความต้องการในตลาดโลก เช่นพวกเหล็ก กลุ่มเรือ กลุ่มปิโตรเคมี หุ้นแบบนี้ก็ต้องติดตามราคาในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด
ส่วนประเภทสุดท้าย คือ หุ้นเก็งกำไร SPECULATIVE STOCK เป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง บางครั้งก็มีผลตอบแทนสูง ก็คือบรรดาหุ้นทำราคา หรือหุ้นเก็งกำไรระดับสูงนั่นเอง หุ้นแบบนี้ต้องใช้วิจารณญาณในการเล่น
มีวิธีลงทุนที่ง่ายมาก เป็นคำพูดแค่ประโยคเดียว ว่า
ตลาดดีก็เข้ามาเล่น......ตลาดไม่ดีก็หยุด
ตลาดดีก็เข้ามาเล่น ตลาดไม่ดีก็หยุด คืออะไร???
มีวิธีการอย่างไรจะทราบว่า ตลาดกำลังดี หรือ ตลาด กำลังไม่ดี เมื่อไหร่ควรเล่นเมื่อไหร่ควรหยุด ก็โดยวิธีใช้เส้นค่าเฉลี่ย และเส้นแนวโน้มนั่นเอง
การเปลี่ยนแนวโน้มของราคาหลักทรัพย์และดัชนี(หรืออะไรก็ตาม ทอง น้ำมัน เหล็ก ฯลฯ) ก็อาศัยเส้นค่าเฉลี่ยและเส้นแนวโน้ม มาตรวจดู
เครื่องมือทางเทคนิเคิลอย่างเส้นค่าเฉลี่ย เป็นเครื่องมือที่เก่าแก่ที่สุด และน่าจะใช้เส้นค่าเฉลี่ย 20-25วัน ก็คือประมาณ 1 เดือนนั่นเอง

ความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายย่อย มักทำให้เราเสี่ยงซื้อหุ้น ที่แนวเส้นสีแดง ถ้าเราโชคดีก็จะซื้อหุ้นได้ในราคาต่ำ แต่ถ้ามันลงไปลึกๆ อีกก็จะแย่ ความจริงที่ไม่มีใครปฏิเสธก็คือ มีน้อยคนที่จะซื้อหุ้นที่จุดต่ำสุดเป๊ะๆดังนั้นเลิกคิดซื้อหุ้นตอนกำลังดิ่งลง แต่มาซื้อตอนมันผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและรอให้เกิดสัญญาณซื้อก่อน มาซื้อตรงฝั่งสีเขียวจะได้ความจริงว่าน่าจะทำกำไรได้ดีกว่า


ทันหุ้น[/color:e68c86cc8f">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com