May 2, 2024   1:42:40 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เคาะหุ้น
 

???
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 410
วันที่: 25/10/2006 @ 11:20:56
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

แนวโน้มดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยระยะสั้นยังเป็นแนวโน้มขึ้นโดยมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 715 -735 ท่ามกลางเสียงภาวนาให้หุ้นขึ้นต่อ กับการลุ้นให้หุ้นอ่อนตัวเพื่อจะได้หาจังหวะในการลงทุนใหม่ โดยบรรยากาศการลงทุนระยะสั้นยังเป็นไปอย่างระมัดระวังและเน้นการเลือกลงทุนในหลักทรัพย์รายตัวตามสภาพคล่องและปัจจัยที่เข้ามากระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน

ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดที่ระดับ 728.53 เพิ่มขึ้น 3.55 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 13,774 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่ราคาปิดเพิ่มขึ้นมี 234 หลักทรัพย์ ลดลงมี 112 หลักทรัพย์ และอีก 91 หลักทรัพย์ราคาปิดไม่เปลี่ยนแปลง ดัชนีสูงสุดระหว่างการซื้อขาย 728.63 เพิ่มขึ้น 3.65 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 724.42 ลดลง 0.56 จุด
ภาพที่เกิดขึ้นยังฟ้องว่าแนวโน้มการฟื้นตัวยังดำเนินต่อไป จุดที่ควรระมัดระวังมีเพียงเรื่องการที่ราคาหุ้นจะปรับฐานราคาเนื่องจากการขายทำกำไรระยะสั้น

แนวโน้มหลักของดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้นยังเป็นแนวโน้มขึ้นที่ดำเนินต่อไปโดยดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ยังคงมีการทำจุดสูงใหม่ต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการยืนยันแนวโน้มภาวะกระทิง
แม้ว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะมีความกังวลเกี่ยวกับการปรับฐานราคาหุ้น หรือการเปลี่ยนแปลงทิศทางตลาดในระยะสั้น ขณะที่กำลังซื้อขายกันเพลิน ๆ เพราะตลาดได้มีการปรับตัวในทิศทางขึ้นต่อเนื่องจากระดับ 673 จุดถึงประมาณ 730 จุดเป็นทางการฟื้นตัวประมาณ 50 จุดหรือเป็นการฟื้นตัวของดัชนีประมาณ 8%
ในช่วงหลังจากเหตุการณ์รัฐประหารเป็นต้นมา ซึ่งภาพหลอนที่เกิดขึ้นกับนักลงทุนบ่อย ๆในช่วง 9 เดือนแรกคือ
หุ้นขึ้นไม่นานก็จะมีการปรับตัวอีกและปรับตัวเร็วจนบ่อยครั้งที่ตัดสินใจอะไรไม่ทันและสูญเสียโอกาสในการทำกำไร หรือลงทุน

สิ่งที่คาดว่านักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือ แนวโน้มการขึ้นของหุ้นในไตรมาสที่ 4 นั้นจะเป็นการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนหรือไม่ หรือเป็นการฟื้นตัวก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาสหลังจากนั้นตลาดหุ้นจะเข้าสู่วงจร ซบเซา และตลาดหุ้นจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 735 หรืออาจจะมากกว่าถึงระดับ
787 จุดซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่มีใครสามารถคาดเดาได้อย่างถูกต้อง เพราะตลาดหุ้นค่อนข้างจะอ่อนไหวต่อตัวแปรที่กระทบจากภายในและภายนอกประเทศค่อนข้างง่าย ทำให้ต้องมีการติดตามและปรับปรุงกลยุทธ์การลงทุนให้ทันกับสถานการณ์และจิตวิทยาตลาดอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามสำหรับเป้าหมายทางเทคนิคของดัชนีจะมีแนวต้านสำคัญคือบริเวณ 735 จุด และ 787 จุดตามลำดับ
โดยกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีในมุมแคบที่ยังรักษาแนวโน้มขึ้นต่อไปได้คืออยู่ในกรอบ 715 -735 จุดสำหรับระยะสั้นมาก ๆ ส่วนระยะกลางขึ้นมาหน่อยจะอยู่ในกรอบ 705 -787 ส่วนการเคลื่อนไหวเข้าสู่เป้าหมายได้มากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับตัวแปรใหม่ ๆ ที่จะเข้ามากระทบต่อแนวโน้มการลงทุน โดยหากไม่มีตัวแปรประเภทเหนือความคาดหมายมาก ๆ คาดว่าจะไม่กระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้นมากนัก

พฤติกรรมการลงทุนในช่วงนี้ยังคงเป็นการสลับกลุ่มและสลับตัวเล่นเพื่อสลับฉากเมื่อหุ้นตัวเก่าเกิดอาการราคาหุ้นอิ่มตัวระยะสั้นและต้องการปรับฐานราคา หากนักลงทุนมีการปรับทัพการลงทุนที่รวดเร็วก็สามารถเกาะหุ้นกลุ่ม Small Cap ได้เนื่องจากในทางตลาดขาขึ้นนั้นการปรับตัวจะใช้เวลาน้อย ส่วนนักลงทุนประเภทที่ไม่ชอบสลับตัวเล่นบ่อยอาจจะต้องทนอึดอัดเกาะหุ้นกลุ่มปัจจัยพื้นฐานดี มีเงินปันผลรอ แต่ราคาเดินเป็นใส้เดือนในลักษณะค่อย ๆ คืบไปก่อน

สำหรับหลักทรัพย์ที่กลุ่มที่คาดว่ายังน่าติดตามในการลงทุนและเก็งกำไรยังคงเป็นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
กลุ่มเงินทุนหลักทรัพย์ และสถาบันการเงิน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นกลุ่มที่มีรูปแบบทางเทคนิคเป็นแนวโน้มการฟื้นตัวทางบวกที่น่าติดตาม เช่น STEC CK ITD NWR KMC AMATA HEMRAJ TRUE SYNTEC เป็นต้น ส่วนหุ้นในเกรดลงทุน เช่น PTT PTTEP MCOT เป็นต้น

ทันหุ้น

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com