May 3, 2024   6:30:38 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > การเดินทางอันยาวนาน ของดาวโจนส์
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 20/10/2006 @ 13:26:09
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

วอลสตรีทต่างยินดีกันถ้วนหน้าเมื่อวันพุธ เมื่อดัชนีดาวโจนส์ทะลุระดับ 12,000 จุดเป็นครั้งแรก แม้ว่าจะยืนอยู่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆก็ตาม

ความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อรายได้ของบริษัทและเศรษฐกิจสหรัฐมากขึ้น ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดเมื่อวันพุธด้วยการทำนิวไฮต์ แต่ต่ำกว่าระดับ 12,000 จุดเล็กน้อย โดยปิดตลาดเพิ่มขึ้น 42.66 จุด หรือ 0.36% ที่ระดับ 11,992.68 จุด และก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ดาวโจนส์ปิดตลาดที่ระดับ 11,980.60 จุด

ดัชนีหุ้นสำคัญ 30 ตัวของสหรัฐทะลุระดับ 12,000 จุดหลังจากที่เริ่มมีการซื้อขายได้ไม่นาน โดยทะยานขึ้นไปถึง 12,049.51 จุด ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาเมื่อกระแสศรัทธาของตลาดในตอนแรกลดลงและนักลงทุนทำกำไร

การที่ตลาดหุ้นไม่ทะยานต่อแสดงให้เห็นว่ามีความระมัดระวังสุขภาพเป็นพิเศษเนื่องจากยังมีอีกหลายบริษัทที่ยังไม่ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสสาม

ดัชนีดาวโจนส์ต้องใช้เวลาถึง 7 ปีครึ่งจึงจะทะยานขึ้นมาจากระดับ 11,000 จุดได้หลังจากที่ดิ่งหนักเพราะฟองสบู่ดอต-คอมแตก เศรษฐกิจภดภอยและหลังจากที่มีการโจมตีของผู้ก่อการร้ายเมื่อปี 2544

การเดินทางอันเชื่องช้าของดาวโจนส์ในรอบนี้ผิดกับตอนที่มันดีดตัวจากระดับ 10,000จุด สู่ระดับ 11,000 จุดมาก โดยในตอนนั้นใช้เวลาในการซื้อขายเพียงแค่ 24 วันเท่านั้น และอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2542 ซึ่งเป็นช่วงที่อินเทอร์เน็ตกำลังบูม

ในเดือนนี้ ดัชนีดาวโจนส์ซึ่งมีหุ้นบลูชิพอย่างเช่น ไอบีเอ็ม ไมโครซอฟต์ และวอล-มาร์ท สโตร์ ได้ปรับตัวขึ้น 312 จุดเมื่อราคาน้ำมันอ่อนตัวลงต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและดูเหมือนว่าเศรษฐกิจกำลังจะชะลอตัวลงอย่างนุ่มนวลหลังจากที่ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมานานกว่า 2 ปี

การปิดตลาดด้วยสถิติใหม่เมื่อวันพุธเป็นการทำสถิติเป็นครั้งที่ 8 ในรอบกว่าสองสัปดาห์เล็กน้อย

ดาวโจนส์ทะยานผ่านระดับ 12,000 จุดเมื่อวันพุธหลังจากที่รายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐบ่งชี้ว่า แรงกดดันของราคาผู้บริโภคกำลังลดลงและรายได้ในช่วงไตรมาสสามจากบริษัทต่างๆ รวมทั้งไอบีเอ็ม เพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุน

นักลงทุนยังมีความรู้สึกโล่งใจที่ราคาน้ำมันลดลงจากระดับ 78.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจึงทำให้ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนตุลาคมซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ปกตินักเพราะในช่วงเวลาอันเลวร้ายของตลาดสหรัฐในอดีต อาทิ เมื่อตลาดพังในปี 24729 และ 2530ได้เกิดขึ้นในเดือนตุลาคมทั้งสิ้น

ในวันที่ 9 ตุลาคม 2545 ก็เช่นกัน ตลาดหุ้นสหรัฐซบเซาอย่างหนักจนดัชนีหุ้นสำคัญๆดิ่งเหวสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5-6 ปี โดยดาวโจนส์ปิดตลาดในวันนั้นที่ 7,286.27 จุด

ดาวโจนส์ได้ฟื้นตัวจากปัญหาต่างๆในตลาดหุ้นเร็วกว่าดัชนีเอสแอนด์พี 500และแนสแดก ดัชนีทั้งสามตัวนี้ได้พุ่งสูงสุดเมื่อต้นปี 2545ก่อนที่จะอ่อนตัวลงอย่างกะทันหันแต่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และแนสแดกมีปัญหามากกว่าเพราะเป็นตัวแทนของหุ้นไฮเทค

ดันีเอสแอนด์พี 500 เป็นดัชนีที่มืออาชีพในตลาดส่วนใหญ่ใช้เป็นมาตรฐาน และมันกำลังเข้าใกล้ระดับที่เคยพุ่งสูงสุดที่ 1,527.46 จุด แต่ดัชนีแนสแดกได้รับความสนใจมากเพราะมีหุ้นเทคโนโลยีเป็นจำนวนมาก แต่มันยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าระดับสูงสุดซึ่งเคยอยู่ที่ 5,048.62 จุด

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับความสำเร็จของดาวโจนส์ โดยกล่าวว่า หุ้นที่ตัวเล็กกว่านี้หลายตัวได้ฟื้นตัวไปเรียบร้อยแล้ว

อัล โกลด์แมน หัวหน้านักวิเคราะห์ของเอ.จี.เอ็ดเวิร์ดส์กล่าวว่า บ่อยครั้งที่นักลงทุนมักเร่งเข้าตลาดเมื่อดัชนีฝ่าระดับสำคัญและมักเข้ามาในช่วงที่ตลาดกำลังถดถอย ตลาดต้องการหยุดพักเพื่อสร้างความสดชื่นอีกครั้ง ที่บ่อยมากกว่านั้นคือมักดีดตัวในระยะสั้นแล้วมีการเทขาย จากนั้นจึงเข้าสู่ระดับและระดับแข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น

.000002

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com