kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 |  วันที่: 20/10/2006 @ 12:00:13 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ที่มา : K.KRAZIP
SET Index วันพฤหัสบดีที่ 19 ต.ค. ปิดที่ 720.87จุด +2.13จุด มูลค่าการซื้อขาย 15,341 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิที่ 1,809.94 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิที่ 79.79 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิที่ 1,730.14 ล้านบาท SET Index ทำ High ที่ดัชนี 724.00 จุด +5.26จุด และ Low ที่ดัชนี 719.88 จุด +1.14จุด บวกแบงค์ รับเหมากับสื่อสาร ส่วนพลังงานปรับลงนิดหน่อยตามราคาน้ำมัน ตลาดสามารถทรงตัวยืนปิดที่ระดับ 720 จุดได้ ซื้อหุ้นใหญ่ดันดัชนี ส่วนหุ้นเล็กก็ยังซื้อขายกันอยู่แต่ก็มาเป็นรายตัวลดความร้อนแรงกันไป หลังศาลปกครองสูงสุดสั่งให้หุ้นเก็งกำไรร้อน ๆ ตัวเก่าที่เคยแรงมาก ๆ อย่าง IEC ให้ตลท. สั่งห้าม Netsettlement+Margin ได้แล้ว โดยยกเลิกมาตรการคุ้มครองชั่วคราวที่เคยมีหลังถูกร้อง ข่าวนี้ก็เลยเบรคการเก็งกำไรแบบไม่เห็นฝุ่นให้เบาบางลง แล้วกลับมาเข้าหุ้นพื้นฐานกันต่อหลังจากนิ่งนิ่งมานานเหมือนกัน แต่ K.KRAZIP ดูแล้วตลาดดีไม่ว่าหุ้นเล็กหุ้นใหญ่ก็ดูดีกันไปหมดนั่นแหละ แค่ถูกตัวและไทม์มิ่งเท่านั้น และขอฝากหน่อยว่าใกล้สิ้นปีแล้วทยอยรับหุ้นพื้นฐานติดพอร์ตให้อุ่นใจกันไว้บ้าง
ATC ราคาเปิด 35 บาท ราคาปิด 35.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 140.971 ล้านบาท จากการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2549 เพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่า EPS ปี 2549 จะเติบโตถึง 29.4%YoY และทำให้ Fair value ที่อิงระดับ PER 6 เท่า ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 42 บาท จากเดิมที่ 37 บาท ทั้งนี้มีแนวโน้มจะปรับเพิ่ม Fair value อีกครั้ง ภายหลังประกาศผลการดำเนินงาน 3 Q49 ในช่วงปลายตุลาคมนี้ เพื่อสะท้อนมูลค่าพื้อฐานปี 2550ซึ่งจะทำให้ upside ของราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอีก ในส่วนของคาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q49 จะอยู่ที่ 2.45 พันลบ. จากการคาดหมาย Spread เฉลี่ยที่ยังทรงตัวระดับสูงได้ในไตรมาสที่ 180 เหรียญฯ/ตัน และจาก Spread ของผลิตภัณฑ์ขั้นปลาย คือ Cyclohexane (Cx) และ Bz ที่ปรับตัวขึ้นสูงถึง 150 เหรียญฯ/ตัน จากระดับปกติใน 3Q49 ที่ 70 เหรียญฯ/ตัน ซึ่งล้วนส่งผลดีต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 4Q49 K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเก็งกำไร แนวรับ 34.50 บาท แนวต้าน 37 บาท
KBANK ราคาเปิด - ปิด 70 บาท มูลค่าการซื้อขาย 461.77 ล้านบาท คาดว่าFED จะคง Fed Fund Rate ไว้ที่ 5.25% สำหรับการประชุมรอบหน้าในวันที่ 24-25 ต.ค. 2549 เพราะแรงกดดันต่อเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลาย และมองว่าเศรษฐกิจขยายตัวในระดับปานกลาง สำหรับกำไรสุทธิในQ 3 /49 ของ KBANK ลดลง 14% YoY และลดลง 13% QoQ จำนวน 3.1 พันล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ส่วนปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งทั้งทางด้านความสามารถในการทำกำไร โดยมี NIMs ที่สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ คุณภาพสินทรัพย์ที่ดี และสินเชื่อที่ยังมีโอกาสเติบโตสูงใน Q4/49 และได้ประมาณการเงินปันผลสำหรับ 2H/49 ไว้ในอัตราหุ้นละ 0.80 บาทอีกด้วย K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเก็งกำไร แนวรับ 69 บาทต้าน 72 บาท
MCOT ราคาเปิด 30.75 บาท ราคาปิด 30.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 110.79 ล้านบาท คาดว่ากำไรใQ 3/49 ของ MCOT จะเพิ่มขึ้น 25% YoY เป็น 317 ล้านบาท จากการเติบโตของรายได้ทั้งโทรทัศน์ และวิทยุ จากการที่ช่อง 9 ได้ปรับผังรายการตั้งแต่เดือน ก.พ. 2549 โดยเพิ่มสัดส่วนเวลาของรายการที่ผลิตเองและแบ่งกันขายเวลาโฆษณากับผู้ผลิต ประกอบกับมีรายได้เพิ่มเติมจาก Academy Fantasia 3 และยังมีรายได้ต่อเนื่องจากโครงการภาครัฐ เช่น โครงการประหยัดพลังงานของ PTT การประชาสัมพันธ์สนามบินสุวรรณภูมิและงานราชพฤกษ์ 2549 บริษัทมีแนวโน้มเติบโตต่ออย่างมีเสถียรภาพในQ 4/49 เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการใช้งบโฆษณามากและมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของสถานีวิทยุ Met 107 ในวันที่ 20 ต.ค. นี้ แม้ว่ากรรมการผู้อำนวยการใหญ่จะลาออกไปแล้ว คาดการณ์ในช่วง 9 เดือนที่ 1,028 ล้านบาท คิดเป็น 75% ของคาดการณ์กำไรปีนี้ที่ 1,370 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 24% แนะ ซื้อเก็งกำไรแนวรับ 29.50 บาท แนวต้าน 32 บาท
SEAFCO ราคาเปิด 4.76 บาท ราคาปิด 4.70 บาท มูลค่าการซื้อขาย 39.61 ล้านบาท จากประมาณการรายได้ใน 3Q49 มีกำไรโต 135%YoY จากรายได้กว่า 600 ล้านบาท ที่รับรู้ในไตรมาสนี้ ซึ่งนับเป็นการรับรู้รายได้รายไตรมาสที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ SEAFCO เข้าตลาดเมื่อปี 47 ที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ในโครงการที่มีมูลค่าสูง เช่น โครงการ Energy Complex และ Millemnnium Residence ซึ่งมีความคืบหน้าอย่างมากในช่วง 3Q49 จากการเป็นผู้เชี่ยวชาญการก่อสร้างงานเสาเข็ม ทำให้มีโอกาสที่จะได้รับงานในการทำเสาเข็มซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการก่อสร้างโครงการ ไม่ว่าจะเป็นอาคารหรือการก่อสร้างสะพานต่างๆ ทั้งยังมีความพยายามที่จะเพิ่มสัดส่วนงานประเภทอื่น ๆ ที่ต่อเนื่องจากงานเสาเข็มให้มากขึ้น แต่จากสภาวะที่ราคาต้นทุนวัสดุก่อสร้างมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 1H49 กดดันให้คาดว่าระดับ GPM จะปรับลดลงมาอยู่ที่ 14.44% แต่การควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดีขึ้นและคาดว่าจะจ่ายปันผลงวด 2H49 อีก 0.17 บาท/หุ้น (จ่ายไปแล้ว 0.12 บาท/หุ้น) คิดเป็น DVDYield งวด 2H49 เท่ากับ 3.72% ซึ่งถือว่าน่าสนใจ K.KRAZIP แนะ ?ซื้อเก็งกำไร? แนวรับ 4.68 บาท แนวต้าน 4.96 บาท
ต่อท้ายข่าวกระซิบประกาศกันดังดังว่าสำนักคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้จัดสัมนาเรื่องการแก้ไขกฎหมายฟอกเงิน เนื้อหาและร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีและมาตราการของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ในส่วนของบริษัทหลักทรัพย์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซึ่งได้เชิญผู้บริหารของ ปปง. มาให้ข้อมูลเพื่อ บล. และ บลจ. จะได้มีการเตรียมความพร้อมกันให้ถ้วนทั่ว >> ท่านพี่ ก.ล.ต. สั่งเตรียมการคุมเข้มกันขนาดนี้ทั้งโบรกเกอร์และกองทุนคงต้องรีบเตรียมตัวกันให้พร้อมแล้วล่ะ ทำอะไรให้มันถูกต้องตรวจสอบได้แบบว่าโปร่งใส ๆ กันเข้าไว้จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาแก้ตัวกันทีหลัง.....!
K.KRAZIP20/10/2549
[/color:6ea942031b">
|
