May 3, 2024   12:18:49 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เคาะซื้อ !!!! ขึ้นดอยต่อ?แต่ขอหยุดชมวิว?
 

???
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 410
วันที่: 19/10/2006 @ 12:16:29
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ที่มา : ไก่ทอง

ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยระยะสั้นยังคงแกว่งตัวในกรอบ 700 -722 เนื่องจากนักลงทุนมีการขายหุ้นเพื่อปรับพอร์ตการลงทุนระยะสั้นเนื่องจากหุ้นบางกลุ่มราคาเริ่มอิ่มตัวและชนแนวต้านแต่ยังคงมีการ เปลี่ยนตัวเล่น
เพื่อหุ้นอีกกลุ่มหนึ่งพักฐานราคาทำให้ทิศทางระยะสั้นต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนและเลือกลงทุนในหุ้นรายตัวมากขึ้น

แรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทยยังเป็น กุญแจสำคัญ สำหรับกำหนดทิศทางตลาดในระยะสั้น ส่วนมูลค่าการซื้อขายต่อวันที่ระดับต่ำกว่า20,000 ล้านบาทคาดว่ายังเป็นการฟ้องว่าตลาดระยะสั้นยังขาดความมั่นใจและนักลงทุนยังค่อนข้าง กลัว ๆ กล้า ๆ ในการตัดสินใจในการลงทุนส่วนมากตลาดหุ้นยังคงแนวโน้มไว้ได้
แต่หากเมื่อใดที่นักลงทุนกล้าลุยเต็มที่ ให้มองว่าถึงเวลาเก็บสิ่งของและสัมภาระลงจากขบวนรถได้
เพราะมาร์เก็ตเมคเกอร์ฉลาดพอที่จะไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบในการลงทุน

ข้อสังเกตุทางเทคนิคทิศทางตลาดระยะสั้นจะเป็นการแกว่งตัวของดัชนีในกรอบ 705 -722 จุดโดยการปรับตัวที่ต่ำกว่าระดับ 700 จุดจะเป็นสัญญาณที่ไม่น่าไว้วางใจสำหรับการลงทุนระยะสั้น แต่อาจจะเป็น โอกาส สำหรับนักลงทุนระยะกลางที่จะเริ่มสะสมหุ้นอีกครั้ง ส่วนการยืนเหนือ 705 ได้อย่างมั่นคงแสดงว่าดัชนีพร้อมที่จะสร้างจุดสูงเหนือ 718 จุด ซึ่งหากผ่านจุดนี้หมายความว่านักลงทุนสามารถ เที่ยวดอยสุเทพ ได้โดยไม่ต้องกังวลนักสำหรับไตรมาสที่ 4 นี้

จุดที่นักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิดคือหากดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ยืนเหนือ 718 จุดได้แสดงว่าตลาดจะเล่นทางขึ้นต่อเนื่อง และสะท้อนภาวะกระทิงเต็มตัวแม้ว่าโดยข้อเท็จจริงด้านตัวแปรที่กระทบการลงทุนนั้นจะยังคงเป็นลักษณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ กังวล ว่าจะเป็นไปได้อย่างไร เพราะภาพในช่วง 9 เดือนแรกนั้นสะท้อนว่า
ตลาดหุ้นไทยนั้น เล่นยากยิ่งกว่าการจับจระเข้เสียอีก เพราะตลาดมักจะขานรับข่าวร้าย แต่เฉย ๆ กับข่าวดี

อย่างไรก็ตาม หากเราพิจารณาตัวแปรหลักที่นักลงทุนติดตาม เช่น ราคาน้ำมันอัตราดอกเบี้ย และภาพพจน์ของรัฐบาลชุดปัจจุบันเทียบกับสถานการณ์การลงทุนโลกและสถานการณ์โลก โดยรวมแล้วปรากฏว่า บรรยากาศ
ไม่ได้แย่อย่างที่คิด แม้ว่าเกาหลีเหนือจะออกมาท้าทายอำนาจพี่เบิ้ม อย่าง อเมริกา จนนำมาสู่การออกมาตราการแทรกแซงของนานาชาติและทำให้นักลงทุนในตลาดหุ้นตกอกตกใจกันแต่เมื่อแปลความเป็นกิจกรรมการลงทุนในตลาดหุ้นแล้ว แปลงได้เป็น ซื้อกับขายและหมายถึง วิกฤติ กับโอกาสที่กลับข้างสลับกันไปมา

หมายความว่า หากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันนั้นเป็นวิกฤติและกระทบต่อเราอย่างเลี่ยงไม่ได้ เราคงต้องหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจลงแต่หากเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นปรากฎการณ์ปกติที่เกิดขึ้นในโลกเราก็จะสามารถนำมาแปลความและแปลงเป็นสัญญาณในการลงทุน เช่น หากคิดว่าการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ นำมาสู่การเกิดสงคราม
ก็ต้องขายหุ้นลดการลงทุนเพื่อถือเงินสดและลดความเสี่ยง แต่หากมองว่าเป็นเพียงการขู่ เหมือนตำรวจกำลังจะจับนักเลงไพ่ กิจกรรมก็อาจจะหยุดลงเมื่อเหตุการณ์สงบทุกอย่างก็เข้าสู่ภาวะปกติ

สำหรับหลักทรัพย์ที่คาดว่าน่าจะเป็นทางเลือกสำหรับการบรรจุในพอร์ตเพื่อเป็นอาวุธสำหรับนักลงทุนกลุ่มปัจจัยพื้นฐานยังคงเน้นหุ้นในกลุ่ม SET 50 ที่ผลประกอบการ ฐานะการเงินดี ลงทุนแล้วสบายใจ

ส่วนผลตอบแทนก็เป็นเหมือนรถโดยสารขนาดใหญ่ที่วิ่งไปนิ่ม ๆ แต่อาจจะไม่ทันใจเหมือนรถซิ่งคันเล็กหรูราคาแพง หุ้นที่น่าติดตามกลุ่มนี้เช่น PTT PTTEP RRC CK ITD AMATA MCOT ASP PHATRA KEST เป็นต้น

ส่วนหุ้นประเภท โหด เลว ดี ที่ต้องใช้ความกล้าหาญเป็นพิเศษก่อนออกรบ เพราะเป็นหุ้นที่ขับเคลื่อนด้วยสภาพคล่องและการเก็งกำไร ส่วนปัจจัยพื้นฐานนั้น รับได้บ้าง รับไม่ได้บ้าง เช่น D1 GEN MME ACL ZMICO TNITY TRUE SATTEL ITV TWP SCP TPIPL IEC เป็นต้น

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com