ซื้อ LANNA เป้าหมาย 14.75 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ LANNA ประเมินกำไรจากการดำเนินงานปกติไตรมาส 3/2549 ของ LANNA ได้ราว 134 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และ 7% จากไตรมาส 2/49 ซึ่งอัตราการเติบโตของกำไร ที่สูงอย่างมีนัยสำคัญ มาจากการขยายตัวของรายได้ ทั้งจากธุรกิจถ่านหินและเอธานอล ซึ่งมีปริมาณและราคาขายที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยราคาขายเอธานอลในไตรมาสนี้อยู่ที่ 25.30 บาทต่อลิตร เทียบกับไตรมาส 3/2548 ที่ 15 บาทต่อลิตร จากผลการดำเนินงานทั้งธุรกิจถ่านหินและเอธานอลที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และราคาหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าที่เหมาะสม (วิธี Sum of?the-parts) ที่ 14.75 บาท อยู่ 17% (ยังไม่รวมผลตอบแทนการลงทุนจากโครงการขยายกำลังการผลิตเอธานอล) ทำให้เรายังคงคำแนะนำ ?ซื้อ? LANNA ทั้งนี้บริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท (XD 26 ตุลาคม 2549)

ซื้อ DELTA เป้าหมาย 24.47 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ ซื้อ DELTA แนวโน้มอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิคส์ยังมีการเติบโตต่อเนื่องโดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม consumer electronics ทำให้ทางฝ่ายปรับประมาณการยอดขายเพิ่มขึ้นจากปัจจัยดังกล่าว คาดหมายยอดขายปี 2549 ที่ 42,224 ล้านบาทลดลง 4% เทียบจากปีก่อน แต่ราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อการทำกำไรในบางผลิตภัณฑ์ให้ลดลง รวมไปถึงสัดส่วนการจำหน่ายจอภาพที่เพิ่มขึ้นคาดว่าจะกดดันอัตรากำไรให้ต่ำกว่าที่เคยคาดไว้ ทางฝ่ายปรับประมาณการกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3.5% จากเดิมคาดหมายกำไรสุทธิ 2,285 ล้านบาทเป็น 2,330 ล้านบาท ทั้งนี้ DELTA ยังเป็นหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนที่ทางฝ่ายคาดว่าจะยังมีการเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งแนวโน้มการดำเนินงานในอนาคตที่จะเพิ่มยอดขายในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูงเพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าและตลาดให้เพิ่มขึ้นจากเดิม มองเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการในอนาคต ทางฝ่ายยังคงคำแนะนำ ?ซื้อ?

ซื้อ SPPT เป้าหมาย 5.10 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ สินเอเชีย จำกัด แนะนำ ซื้อ SPPT แม้ผลการดำเนินงานปี 2549 ฝ่ายวิจัยคาดว่า SPPT จะมีกำไรปกติ 159 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นที่คาดว่าจะลดลงจาก 28.6% ในปี 2548 เป็น 27.7% ในปีนี้ เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบหลัก คือ สแตนเลสตีลที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึง SG&A/Sale ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น แต่จากรายได้อื่นที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจึงคาดว่ากำไรปกติจะยังทรงตัวได้เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา แต่ปี 2550 คาดว่ากำไรปกติจะ อยู่ที่ 194 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 22% จากปีนี้ จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น 43% ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ และเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่คือจำหน่ายเครื่องจักรที่ใช้ในการแปรรูปขยะพลาสติกให้กลายเป็นน้ำมันดิบ

รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 30.4% เนื่องจากธุรกิจใหม่มีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับที่สูงกว่าธุรกิจเดิม
แนะนำ ?ซื้อ?

ซื้อ BECL เป้าหมาย 28.50 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ BECL ปริมาณการใช้ทางด่วนโดยเฉลี่ยในไตรมาส 3/2549 อยู่ที่ประมาณ 935,000 คันต่อวัน เพิ่มขึ้น 3.2% จากไตรมาสก่อน ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตขึ้นราว 7% จากไตรมาสน 2/2549 ส่วนผลประกอบการในครึ่งปีหลังของปี 2549 คาดว่าจะเติบโตขึ้นเล็กน้อยจากช่วงครึ่งปีแรกของปี 2549 เนื่องจากปริมาณผู้ใช้ทางด่วนเพิ่มขึ้นจากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ อย่างไรก็ตาม ปริมาณผู้ใช้ทางด่วนสุขสวัสดิ์และด่านดินแดงกลับลดลง รวมทั้งยังถูกกดดันจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการปรับเพิ่มอัตราเงินกู้ใหม่ ส่วนแผนการออกบัตรทางด่วนอัตโนมัติตามระยะทาง ยังคงรอการอนุมัติจาก ครม. ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในหุ้น BECL ยังคงแนะนำ ?ซื้อ? ราคาเป้าหมาย 28.50 บาท



ที่มา ทันหุ้น