May 3, 2024   12:34:25 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > MK กำไรลดตามภาวะ
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 19/10/2006 @ 11:02:46
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่1. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 116,191,524 13.412. นายชวน ตั้งมติธรรม 114,094,695 13.163. น.ส.ชุติมา ตั้งมติธรรม 45,487,366 5.254. บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน 35,200,000 4.065. SOMERS (U.K.) LIMITED 34,493,500 3.98คณะกรรมการ1. นายชวน ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ 2. นางอัญชัน ตั้งมติธรรม กรรมการ3. นายศักดิ์ศรี พฤฒิธรรมกูล กรรมการ 4. นายณัฐพสธร นนทจิตต์ กรรมการ5. นายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม กรรมการ

ผลพวงจากภาวะตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว ทำให้ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด(มหาชน) MK มียอดจองเพียง 400 ล้านบาทในไตรมาส 2/49 โดยลดลง 22%เทียบกับปีก่อน และ 33% เทียบกับไตรมาสก่อน จนผู้บริหารต้องปรับลดเป้ายอดจองทั้งปีลงเป็น 2.50 พันล้านบาท จากที่เคยตั้งไว้ที่ 3.0 พันล้านบาท

ผลดังกล่าวทำให้การดำเนินงานไตรมาสสอง สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 ไม่เป็นที่ประทับใจสักเท่าไหร่ หลังกำไรสุทธิลดลงมาที่ระดับ 62 ล้านบาท หรือ 0.07 บาทต่อหุ้น ลดลง 56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 143 ล้านบาท หรือ 0.16 บาทต่อหุ้น

กำไรสุทธิที่ลดลงเป็นผลมาจากรายได้จากการขายและการบริการลดลง 36% จากงวดเดียวกันเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 601 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากยอดขายส่วนใหญ่ในปี 2549เป็นบ้านสั่งสร้าง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 6-10 เดือนในการส่งมอบ จึงยังไม่เกิดการรับรู้รายได้ในส่วนนี้

โดยยอดโอนดังกล่าวจะส่งผลต่อการดำเนินงานครึ่งปีหลัง เนื่องจาก MK มียอดขายรอโอนในครึ่งปีหลังจำนวนมากถึง 1.2 พันล้านบาท ซึ่งมากกว่ารายได้ในครึ่งปีแรกเกือบ 2เท่า จึงประเมินกันว่ากำไรสุทธิในงวดครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นอย่างหวือหวา

นอกจากนี้ MK ยังมีแผนที่จะเร่งยอดรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลัง โดยการเพิ่มสัดส่วนบ้านสร้างเสร็จก่อนขายจากประมาณ 30% ของยอดขายรวมในครึ่งปีแรกเป็น 50-60% ของยอดขายรวมในครึ่งปีหลัง

จากแผนงานเพิ่มสัดส่วนของบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย ทำให้บริษัทต้องกู้เงินเพิ่มเพื่อไปขยายงาน ขณะเดียวกันก็เป็นการช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับการดำเนินงาน จนทำให้งานในส่วนต่างๆ เดินหน้าไปอย่างราบรื่น

เมื่อดูสภาพคล่องในการดำเนินงานถือว่าไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 5,159 ล้านบาท ขณะที่มีหนี้สินหมุนเวียนเพียง 1,061 ล้านบาท และคำณวนออกมาเป็น ค่า Current Ratio เท่ากับ 5.14 เท่า สรุปได้ว่า บริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอต่อการชำระหนี้สินทั้งหมดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์หมุนเวียนที่มีอยู่

หากพิจารณาในด้านอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนยิ่งตอกย้ำว่า บริษัทมีโครงสร้างการเงินที่แข็งแกร่งไม่เป็นรองบริษัทที่ประกอบธุรกิจเดียวกัน เนื่องจากมีส่วนของผู้ถือหุ้น 4,190 ล้านบาท และหนี้สินรวมต่ำเพียง 2,946 ล้านบาท ได้ค่า D/E Ratio เท่ากับ 0.70 เท่าสะท้อนให้เห็นว่าการประกอบธุรกิจมีความเสี่ยงต่ำมาก

ดังนั้นภาพรวม MK ดูดีมากในส่วนของโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง แถมมีสภาพการดำเนินงานที่คล่องตัวดีมาก น่าเสียดายที่ผลประกอบการในงวดนี้ไม่ประสบผลสำเร็จตามเป้าที่ตั้งไว้ อาจเป็นฉนวนเหตุสำคัญที่ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้ามาซื้อหุ้นในช่วงที่กำลังปรับตัวขึ้น

ผลดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นยังทรงตัวที่ระดับ 2.70 บาท ซึ่งเป็นระดับที่สูงพอสมควรเมื่อเทียบกับภาวะตลาดหุ้นผันผวน แต่หากนักลงทุนมองว่าการลงทุนในหุ้นตัวนี้เป็นการลงทุนระยะยาว ระดับราคานี้ก็ไม่แพงเกินไปหรอกครับ




.000002

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com