Puu สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 476 | วันที่: 19/10/2006 @ 10:25:38 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ตลาดหุ้นผงกหัวขึ้นกว่า 8 จุดหลังได้หุ้นกลุ่มแบงก์และพลังงานทั้งเป็นตัวชูโรงปิดตลาดดัชนีบวกไป 8 จุด
*หุ้น PTT น่าจะเริ่มเห็นการปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญซะที ราคาที่ขยับขึ้นห่างกว่าเป้าหมายอีกเยอะ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ให้ไว้ถึง 250 บาท แม้ดูแล้วงบการเงินไตรมาส 3 ออกมาไม่ค่อยสวยเท่าที่ควรก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นบริษัทเดียวในตลาดที่กำไรทั้งปีแตะแสนล้านบาท
*หุ้น WIN อยู่ดีๆก็วิ่งพรวดขึ้นมาช่วงท้ายตลาดกว่า 23.40% ชนิดไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย จะว่าไปแล้วปัจจัยพื้นฐานไม่เห็นมีดีอะไร 3 ปีเปลี่ยน 3 ธุรกิจ ล่าสุดธุรกิจโลจิสติกส์ ก็ยังไม่เห็นเป็นชิ้นเป็นอันซะที น่าแปลกพฤติกรรมขึ้นพรวดพราดเช่นนี้ น่าจับตากลุ่มวงศ์สวัสดิ์ผู้ถือหุ้นใหญ่ไว้ให้ดีงานนี้เตรียมจะออกของกันหรือเปล่า.!?
*เช่นเดียวกับ ECL ที่วิ่งคู่มากับ DE พ่วงด้วยข่าวนักลงทุนรายใหญ่เอเวอร์กรีน กรุ๊ปจากไต้หวัน ที่มีธุรกิจทั้งในน้ำและบนฟ้า กำลังเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ก็น่าแปลกเหมือนกันว่า หากกลุ่มดังกล่าวจะเข้ามารุกตลาดสินเชื่อเช่าซื้อในไทย ก็ดูไม่ใช่เรื่องง่าย และหากเป็นเรื่องจริง เชื่อว่าคงไม่ใช่แค่ DE หรือ ECL แน่
*หุ้นSINGHA ของตระกูลโบว์เสรีวงศ์ประกาศเพิ่มทุนอัตราส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 2.50 บาท ดูจะเหี้ยมโหดไปนิดหนึ่งเลย ทำให้นักลงทุนทยอยทิ้งกันน่าดู ทว่าหากมองถึงปัจจัยพื้นฐานหุ้นตัวนี้ เชื่อได้เลยว่าหากผู้บริหารไม่ทำอะไรที่พลึกกึกกือเหมือนกับเมื่อก่อนเชื่อได้เลยว่าราคา 4-5 บาทยังถือไม่แพง
*ข่าวควบรวมกิจการ AH และ KPN ไม่น่าจะยืดเยื้อเกินปีนี้ เพราะสูตรสำเร็จเรื่อง M&A ของดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการจากบล.เอเชีย พลัส ทำให้เห็นมาหลายคู่แล้ว ที่สำคัญการควบรวมครั้งนี้ WIN WIN ทั้งคู่ และสุดท้ายไม่พ้นวิธีสวอปหุ้นทำให้ดีลนี้อาจไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียว
*มีเสียงร่ำลือมาจากสปน.ว่ากันว่าเรื่องค่าปรับไอทีวี มีบางคนกำลังยื้อสุดๆ ที่จะไม่ดำเนินการเรียกค่าปรับจากITV ทั้งที่อัยการสูงสุดตีความชัดเจนแล้วว่าตัวเลขกว่า 7 หมื่นล้านบาทถูกต้องแล้ว แต่มีคนชื่อนำหน้าว่าร.กำลังจะนำไปสู่ขั้นตอนของอนุญาโตอีกครั้ง เฮ้อ..ขืนชักช้ากันแบบนี้ ไม่รู้กว่าที่ศาลปกครองจะมีคำสั่งออกมาตัวเลขคงขึ้นไปเฉียด 8 หมื่นล้านบาทแล้วมั้ง..จะทำอะไรก็รีบทำกันซะที
*ปัญหาหนี้สินกองทุนน้ำมันฯกว่า 53,400 ล้านบาทดูจะเป็นยาขมสำหรับปิยสวัสดิ์ อมระนันท์รมว.พลังงานคนใหม่ หลังจากระบบทักษิณทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าก่อนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรจนมีอันเป็นไปทางการเมืองในปัจจุบัน และเบื้องหลังการเลื่อนยกเลิกหัวจ่ายเบนซิน 95 ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาหนี้ก้อนนี้นั่นเอง เพราะหากยกเลิกเบนซิน 95เมื่อไหร่เท่ากับว่าเงินที่เก็บเข้ากองทุนน้ำมันฯจะหายวับไปทันทีเดือนละ 200 กว่าล้านบาทและนั่นก็จะเป็นฝันร้ายสำหรับผู้ใช้แก๊สโซฮอล์ 95 เพราะสุดท้ายแล้วเงิน 200 ล้านบาทที่หายไปจะถูกชดเชยจากราคาแก๊สโซฮอล์ ที่จะปรับขึ้นทันที หลังประกาศยกเลิกหัวจ่ายเบนซิน 95 นั่นเอง...
[/color:49a5248cc0">
|