May 6, 2024   8:53:10 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ดาวร่วงเกลื่อน ดับฝันแคปตลท. 5ปี10ล้านล้านบ.
 

samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
วันที่: 11/10/2006 @ 10:29:55
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ประธานสธท.ระบุหุ้นดาวเด่นในกลุ่มหลักเจอมรสุม กระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นที่มีต่อตลาดหุ้น ทั้ง ADNANC PTT BAY หวั่นมาร์เก็ตแคป 10 ล้านล้านบาทใน 5 ปีพลาดเป้า เหตุไอพีโอหาย เล็งปรับโครงสร้างแผนพัฒนาตลาดทุนใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย(สธท.) กล่าวว่าเป็นที่น่าเสียดายว่า ขณะนี้บริษัทจดทะเบียน(บจ.)หรือหุ้นอันดับหนึ่งในกลุ่มขนาดใหญ่กำลังประสบปัญหา อาทิเช่น บริษัทแอ๊ดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANCหุ้นอันดับหนึ่งในกลุ่มสื่อสาร บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน)หรือPTT ในกลุ่มพลังงาน และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)หรือ BAY ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของตลาดหุ้นไทย ซึ่งหากมีการแก้ไขให้มีความชัดเจนในทุกๆกลุ่ม ก็จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กลับมา

สำหรับแผนพัฒนาตลาดทุนไทยที่ตั้งเป้าจะเพิ่มมูลค่าตลาดรวม(มาร์เก็ตแคป)เป็น 10ล้านล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้านั้น อาจจะไม่สามารถทำได้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจาก1 ปีที่ผ่านมายังไม่มีสินค้าใหม่ๆ เข้ามามากนัก นอกจากนี้หุ้นที่เข้าจดทะเบียนส่วนใหญ่ก็เป็นหุ้นขนาดเล็ก ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับเป้าหมายที่วางไว้ได้

อย่างไรก็ตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย 5 ปีโดยภาพใหญ่แล้วยังเหมือนเดิม แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนบ้างในเรื่องของลำดับความสำคัญ โดยที่ผ่านมาได้มีการหารือกับตลาดหลักทรัพย์บ้างแล้ว ซึ่งอาจจะมีการปรับบ้างแต่ต้องขอรอดูนโยบายภาครัฐอีกครั้ง

ดร.ก้องเกียรติ กล่าวต่อว่า ในส่วนของตลาดหุ้นไทยพิจารณาจากพื้นฐานยังถือว่าดีอยู่ บริษัทจดทะเบียน(บจ.)ยังมีอัตราเติบโตของกำไรสุทธิต่อหุ้น(EPS)ระดับ 4% ในปีนี้ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ใช้ได้เมื่อเทียบกับปัจจัยลบมากมายที่เข้ามากระทบ โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ในปีหน้าเชื่อว่ากำไรสุทธิต่อหุ้นจะเติบโตในระดับ 1% ซึ่งลดลงจากในปีนี้

ในแง่ปัจจัยพื้นฐานแล้วมองว่าตลาดหุ้นไทยยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่ทั้งนี้ต้องรอดูนโยบายภาครัฐว่า จะเอื้อกับตลาดทุนอย่างไรบ้าง โดยมองว่าปัจจัยที่จะกระทบต่อตลาดหุ้นไทยในปี 50 ในประเทศคงเป็นเรื่องนโยบายเศรษฐกิจที่ถึงแม้ว่าในระยะเวลา 1 ปีจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆก็ตามดร.ก้องเกียรติ กล่าว

สำหรับกลยุทธ์ในการลงทุน แนะนำให้นักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นที่มีอัตราการเติบโตดีโดยฝ่ายวิจัยของบริษัทคาดว่าในปีหน้าหุ้นในกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตดีประกอบด้วย กลุ่มสื่อบันเทิงและสันทนาการ ที่คาดว่าจะโตในระดับ 62% กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โต 25% กลุ่มเกาตรโต 14% กลุ่มปิโตรเคมีโต 13% กลุ่มอาหารโต 11% และกลุ่มแบงก์โตในระดับ 6% ส่วนกลุ่มที่คาดว่าจะเติบโตลดลงได้แก่ กลุ่ม ธุรกิจขนส่ง ยกเว้นธุรกิจสายการบิน ที่คาดว่าจะเติบโตลดลง 18% ขณะที่กลุ่มพลังงานและที่อยู่อาศัยจะเติบโตลดลงเล็กน้อย






ที่มา ข่าวหุ้น

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com