May 6, 2024   1:34:03 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เวทีวิเคราะห์
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 10/10/2006 @ 11:29:18
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เก็งกำไร STEC เป้าหมาย 5.49 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร STEC คาดรายได้ไตรมาส 3/2549 เติบโต 41% จากปีก่อน และ 21%จากไตรมาส 2/2549 เป็น 4,338 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้เพิ่มเติมหลักๆ จากโครงการที่เพิ่งจะเซ็นสัญญาใหม่ในไตรมาส 2/2549 ได้แก่โครงการศูนย์ราชการกรมธนารักษ์มูลค่าโครงการสูงถึง 5,939 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี ทั้งนี้มูลค่าสัญญาใหม่ทั้งหมดที่เซ็นไปในไตรมาส 2/2549 มีมูลค่าสูงถึง 9,658 ล้านบาท ทำให้รายได้ของไตรมาส 3/2549เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับสัญญาใหม่ที่เซ็นไปในไตรมาส 3/2549 นี้มูลค่า 635 ล้านบาท ส่งผลให้ STEC มีมูลค่างานในมือรวมทั้งหมด ณ.ไตรมาส 3/2549 เท่ากับ32,851 ล้านบาท (ยังไม่หักประมาณการรับรู้รายได้ไตรมาส 3/2549) ซึ่งสามารถทำรายได้ให้กับ STEC ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีหน้า ดังนั้นแนะนำ ?เก็งกำไร? จากผลประกอบการที่เริ่มฟื้นไข้

ซื้อ LPN เป้าหมาย 5.60 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอสวิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ ซื้อ LPN จากการสอบถามบริษัทล่าสุดพบว่ายอดขายในไตรมาส 3/2549 และยอดสะสมช่วง 9 เดือนแรกของปี 2549 เป็น 2,390 ล้านบาท และ 5,950 ล้านบาทสำหรับยอดขายสะสมช่วง 9 เดือนคิดเป็นสัดส่วน 79%-74% เทียบกับเป้าหมายการขายปีนี้ที่ 7,500-8,000 ล้านบาท ตามลำดับดังนั้นจึงคาดว่าบริษัทจะทำยอดขายได้ตามเป้าหมายในปีนี้ ปีหน้าเป้าขายคือ 8,500 ล้านบาท ส่วนยอดการโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 3/2549 และยอดสะสมใน 9 เดือน คิดเป็น 1,263 ล้านบาท และ 3,490 ล้านบาท ตามลำดับ แต่ยอดการรับรู้รายได้ของบริษัทจะเป็นไปตามร้อยละของงานที่เสร็จ คาดว่าไตรมาส 3/2549 เป็นประมาณ 1,400 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเห็นว่ายอดขาย การก่อสร้าง และฐานะการเงินยังคงขยายตัวต่อเนื่อง หรือยังอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจดังนั้นจึงแนะนำ ?ซื้อ? ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท

ซื้อ TMT เป้าหมาย 4.57 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ TMT ผลประกอบการปี 2549 ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปี 2548 คาดว่า TMT จะมีกำไรจากการดำเนินงานในปี 2549 ที่ 305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85% จากปีก่อนขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายอยู่ในระดับ P/E ต่ำเพียง 4.8 เท่า โดยฝ่ายวิจัยกำหนด Fair value ที่ระดับ P/E 7 เท่า น้อยกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมเหล็กที่ P/E 8 เท่า เนื่องจากสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นที่ค่อนข้างน้อย และใช้ผลประกอบการปี 2550 ในการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมแทนปี 2549 เพื่อความอนุรักษ์นิยมเนื่องจากเห็นว่าระดับ gross margin ที่สูงกว่าปกติในปี 2549 อาจทำให้ผลประกอบการในปี 2550 ลดลงได้ จะให้ราคาหุ้นเหมาะสม ณ สิ้นปี 2550 ที่ 4.57 บาท ซึ่งมี Upside จากราคาปัจจุบัน 34% นอกจากนี้นโยบายการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับนักลงทุนระยะยาว โดยคาดว่าระดับ Dividend yield ปี 2549 จะอยู่ที่ 10.5% จึงแนะนำ ?ซื้อ?

ซื้อ BANPU เป้าหมาย 188.70 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด แนะนำ ซื้อ BANPU โดยยังมีมุมมองที่ดีต่อผลประกอบการในอนาคตของ BANPU ถึงแม้บริษัทจะเผชิญความเสี่ยงจากธุรกิจถ่านหินก็ตาม แต่รายได้ที่จะรับรู้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าจะผลักดันให้กำไรในปี 2550 โตโดดเด่นเลยทีเดียว โดยฝ่ายวิจัยได้ประเมินกำไรปี 2550 ไว้ที่ 5,353 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.7% จากปีก่อนในส่วนของกำไรในปี 2550 ประเมินไว้ที่ 3,886 ล้านบาทปรับตัวลดลง30.2% จากปีก่อนเนื่องจากกำไรจากการขายเงินลงทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทปรับลดลง ทั้งนี้การประมาณการที่ทำไว้โดยได้แยกธุรกิจถ่านหินกับธุรกิจโรงไฟฟ้าออกจากกันเหตุจากปัจจุบันทั้ง 2 ธุรกิจยังไม่เห็นการ Synergy อย่างชัดเจนนักถึงแม้โรงไฟฟ้าใหม่จะใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงก็ตาม ธุรกิจไฟฟ้าความหวังใหม่ของ BANPU ถึงแม้ปัจจุบันสัดส่วนรายได้เกือบ 100% จะอยู่ที่ธุรกิจถ่านหินก็ตามแต่คาดการณ์ว่าในปี 2550 รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในหุ้น BANPU ฝ่ายวิจัยจึงแนะนำ ?ซื้อ? ราคาเป้าหมาย 188.70 บาท


ที่มา ทันหุ้น

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com