May 6, 2024   6:01:06 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > .....................ข่าวสดวันนี้.........................
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 10/10/2006 @ 10:31:26
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

[u:70405883be">[b:70405883be">BANPU: การลาออกของประธานกรรมการบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) [/b:70405883be">[/u:70405883be">

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)ใคร่ขอเรียนว่าเนื่องด้วยนายเกริกไกร จีระแพทย์ ประธานกรรมการ
บริษัทฯ ได้รับการเสนอชื่อและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเกริกไกร
จีระแพทย์ จึงขอยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นกรรมการของบริษัทฯ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2549


^_^

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 10/10/2006 @ 10:32:48 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[u:78302c6fe6">[b:78302c6fe6">ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงซื้อหุ้นเหมือง ดันฟุตซี่ปิดบวก 29.7 จุด [/b:78302c6fe6">[/u:78302c6fe6">

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเดินหน้าขึ้นเมื่อวานนี้ (9 ต.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากที่ราคาโลหะเริ่มฟื้นตัวขึ้นเนื่องจากข่าวการทดสอบยิงอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มดีดตัวขึ้น เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะลดการผลิตน้ำมัน

สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนี FTSE 100 เดินหน้าขึ้น 29.7 จุด หรือ 0.5% ปิดที่ 6,030.9 จุด หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของวันที่ 6,044.5 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.5 พันล้านหุ้น

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากเกาหลีเหนือประกาศทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ใต้พื้นดินเมื่อเช้าวานนี้ โดยหุ้นเวดันตาดีดขึ้น 54 เพนซ์ ปิดที่ 1,265 เพนซ์ หุ้นลอนมินพุ่งขึ้น 122 เพนซ์ ปิดที่ 2,602 เพนซ์ หุ้นรีโอตินโตทะยานขึ้น 109 เพนซ์ ปิดที่ 2,572 เพนซ์ หุ้นเอ็กสตราต้าเพิ่มขึ้น 78 เพนซ์ ปิดที่ 2,109 เพนซ์ และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดีดขึ้น 32 เพนซ์ ปิดที่ 937 เพนซ์

ส่วนหุ้นกลุ่มน้ำมันปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ จากการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศโอเปค กำลังพิจารณาลดการผลิตน้ำมันเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี และจากการคาดการณ์ที่ว่าสภาพอากาศในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐฯจะหนาวเย็นลงได้ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ หุ้นบีพีขยับขึ้น 6 เพนซ์ ปิดที่ 578-1/2 เพนซ์ หุ้นบีจีทะยานขึ้น 8-1/2 เพนซ์ ปิดที่ 655 เพนซ์ หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ปรับตัวขึ้น 14 เพนซ์ ปิดที่ 1,781 เพนซ์ และหุ้นเครน เอ็นเนอร์จี พุ่งขึ้น 33 เพนซ์ ปิดที่ 1,840 เพนซ์

หุ้นแกล็คโซสมิธไคลน์ปรับตัวขึ้น 9 เพนซ์ ปิดที่ 1,454 เพนซ์ หลังจากบริษัทแกล็คโซสมิธไคลน์ยืนยันว่าได้ยื่นขออนุมัติจากคณะกรรมการสหภาพยุโรปเพื่อขอนำยารักษามะเร็งเต้านม Tykerb ออกวางจำหน่ายในประเทศกลุ่มอียู

[/color:78302c6fe6">
^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#2 วันที่: 10/10/2006 @ 10:33:57 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[b:bc91569560">[u:bc91569560">ภาวะตลาดทองคำ NYMEX: ข่าวนิวเคลียร์โสมแดง ดันราคาทองพุ่งปิดที่ 582.80$[/u:bc91569560">[/b:bc91569560">

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 6 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ (9 ต.ค.) จากแรงซื้อเพื่อชดเชยการทำช็อตเซลล์ที่ส่งเข้าหนุนตลาด หลังจากเกาหลีเหนือประกาศทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ และจากการที่ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กฟื้นตัวขึ้น

สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงานว่า สัญญาทองคำในตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 582.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 575.50-585.20 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 11.42 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 24.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ดีดขึ้น 2.45 เซนต์ ปิดที่ 3.4130 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,094.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 14.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 303.25 ดอลลาร์/ออนซ์ ดีดขึ้น 3 ดอลลาร์

นายเดฟ เมเกอร์ นักวิเคราะห์จากเอลารอน เทรดดิ้งกล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทองพุ่งขึ้นคือการที่เกาหลีเหนือประกาศทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งส่งผลให้นานาประเทศออกมาประณามการกระทำดังกล่าว

ข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกแก่ตลาด และทำให้นักลงทุนกรูกันเข้าซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิทองคำ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่ไม่ค่อยมีความเสี่ยง นายเมเกอร์กล่าว

เกาหลีเหนือประกาศทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เมื่อเช้าวานนี้ ส่งผลให้นานาประเทศออกมาประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งรวมถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

นอกจากนี้ นายคิม ซึง เกียว หัวหน้าหน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ได้รายงานกับรัฐสภาว่า คาดว่าเกาหลีเหนืออาจจะสะสมพลูโตเนียมถึง 40 กิโลกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอที่จะผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้มากถึง 7 ลูก และเชื่อเกาหลีเหนืออาจจะทดสอบนิวเคลียร์อีก แม้ว่าจะได้ทดลองไปแล้วเมื่อวานนี้

[/color:bc91569560">
^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#3 วันที่: 10/10/2006 @ 10:36:09 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[u:9b08889a79">[b:9b08889a79">ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 7.60 จุดหลังทะยานแตะระดับสูงสุด [/b:9b08889a79">[/u:9b08889a79">

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อวานนี้ (9 ต.ค.) หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวัน โดยตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ออกมาประณามเกาหลีเหนือที่ทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ใต้ดิน

สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้น 7.60 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 11,857.81 จุด หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดของวันเป็นประวัติการณ์ที่ 11,872.94 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.08 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 1,350.66 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 11.78 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 2,311.77 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.27 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในสัดส่วน 5 ต่อ 3 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 1.55 พันล้านหุ้น

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงในช่วงเปิดการซื้อขาย หลังจากเกาหลีเหนือประกาศทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ใต้ดิน และจากข่าวที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) อาจจะลดการผลิตน้ำมันเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นด้วย

แต่ต่อมาดัชนีดาวโจนส์เริ่มดีดตัวขึ้น และประคองตัวจนสามารถปิดในแดนบวกได้สำเร็จ หลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติออกมาประณามการทอบสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ โดยรายงานระบุว่าเกาหลีเหนือได้ทดสอบนิวเคลียร์ใต้พื้นดินสำเร็จในช่วงเช้าวานนี้ ซึ่งไม่มีกัมมันตรังสีรั่วไหลออกมาจากฐานการยิงทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ใต้พื้นดิน

ปฏิบัติการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือส่งผลให้ค่าเงินวอนของเกาหลีใต้ร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนขายเงินวอน อีกทั้งยังส่งผลให้ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วง 228.15 จุดเมื่อวานนี้เช่นกัน

หุ้นกูเกิ้ล ทะยานขึ้น 8.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 429 ดอลลาร์ หลังจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์สรายงานว่า บริษัทกูเกิ้ลจะประกาศทำข้อตกลงเข้าซื้อหุ้น YouTube.com มูลค่าประมาณ 1.6 พันล้านดอลลาร์

ส่วนหุ้นเมอร์แคนไทล์ แบงค์แชร์ส คอร์ป พุ่งขึ้น 8.16 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.94 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทพีเอ็นซี ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส ตกลงที่จะซื้อหุ้นเมอร์แคนไทล์ในรูปของเงินสดและหุ้น มูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์ แต่ข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นพีเอ็นซีร่วงลง 3.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.40 ดอลลาร์

[/color:9b08889a79">
^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#4 วันที่: 10/10/2006 @ 10:38:29 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[u:81eacdad7d">[b:81eacdad7d">DISTAR ขายหุ้น DE ออกอีก 0.57% คงเหลือถือหุ้น 14.68% [/b:81eacdad7d">[/u:81eacdad7d">

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้รับแบบรายงานการจำหน่าย หุ้นของบมจ. ดี อี แคปปิตอล(DE) โดย บมจ. ไดสตาร์ อิเลคทริก คอร์เปอเรชั่น (DISTAR) ซึ่งเป็นการจำหน่าย เมื่อวันที่ 06/10/2549 จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายคิดเป็น -0.57% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่ายคิดเป็น 14.68% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด


^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#5 วันที่: 10/10/2006 @ 10:40:36 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[u:fb1a3a11e6">[b:fb1a3a11e6">BERMUDA ถือหุ้น MAJOR 5.02% หลังเก็บเพิ่มอีก 0.11%[/b:fb1a3a11e6">[/u:fb1a3a11e6">

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้รับแบบรายงานการได้มา หุ้นของบมจ. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) โดย LLOYD GEORGE INVESTMENT MANAGEMENT (BERMUDA) LTD ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 05/10/2549 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น 0.11% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 5.02% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด


^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#6 วันที่: 10/10/2006 @ 10:50:16 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[u:28d71117a3">[b:28d71117a3">ปฏิทินหุ้น ประจำวันที่ 10 ต.ค.2549 [/b:28d71117a3">[/u:28d71117a3">

ตุลาคม 2549

10 ต.ค. ASK ลูกหุ้นเข้า 115,000,000 หุ้น
CK ลูกหุ้นเข้า 154,100 หุ้น
HANA ลูกหุ้นเข้า 1,191,100 หุ้น
KMC ลูกหุ้นเข้า 6,145,897 หุ้น
SAMART ลูกหุ้นเข้า 12,813,620 หุ้น
TASCO ลูกหุ้นเข้า 9,617,469 หุ้น
ZMICO ลูกหุ้นเข้า 535,691 หุ้น

11 ต.ค. ASP ลูกหุ้นเข้า 321,065 หุ้น
LH ลูกหุ้นเข้า 35,273,446 หุ้น
PRANDA ลูกหุ้นเข้า 2,202,400 หุ้น
HEMRAJ XD หุ้นละ 0.03 บาท
TCAP XD หุ้นละ 0.30 บาท
SPALI จ่ายปันผล หุ้นละ 0.15 บาท

12 ต.ค. AOT จ่ายปันผล หุ้นละ 0.95 บาท
JTS จ่ายปันผล หุ้นละ 0.13 บาท
PTTCH จ่ายปันผล หุ้นละ 2.50 บาท

13 ต.ค. SIAM XD หุ้นละ 0.40 บาท
AEONTS จ่ายปันผล หุ้นละ 0.75 บาท

16 ต.ค. MODERN XD หุ้นละ 1.25 บาท
TPIPL XD หุ้นละ 0.25 บาท

17 ต.ค. FNS-W1 ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ

18 ต.ค. RAM XD หุ้นละ 5.00 บาท

20 ต.ค. TF จ่ายปันผล หุ้นละ 11.07 บาท
TVO จ่ายปันผล หุ้นละ 0.25 บาท
QH-W3 ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ

25 ต.ค. PR จ่ายปันผล หุ้นละ 2.58 บาท
SCIB จ่ายปันผล หุ้นละ 0.50 บาท

26 ต.ค. TTTM จ่ายปันผล หุ้นละ 1.50 บาท

27 ต.ค. HEMRAJ จ่ายปันผล หุ้นละ 0.03 บาท
MODERN จ่ายปันผล หุ้นละ 1.25 บาท
TCAP จ่ายปันผล หุ้นละ 0.30 บาท
TPIPL จ่ายปันผล หุ้นละ 0.25 บาท


พฤศจิกายน 2549

6 พ.ย. RAM จ่ายปันผล หุ้นละ 5.00 บาท

7 พ.ย. HMPRO XR 1:1 @ 1.00 บาท
THRE-W1 ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ

9 พ.ย. TNH XD หุ้นละ 0.18 บาท

10 พ.ย. KMC XR 1:1 @ 1.50 บาท

23 พ.ย. PRG จ่ายปันผล หุ้นละ 1.25 บาท

30 พ.ย. MBK จ่ายปันผล หุ้นละ 1.75 บาท
TNH จ่ายปันผล หุ้นละ 0.18 บาท


ธันวาคม 2549
1 ธ.ค. CITY XD หุ้นละ 0.16 บาท

27 ธ.ค. CITY จ่ายปันผล หุ้นละ 0.16 บาท


^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#7 วันที่: 10/10/2006 @ 11:03:35 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[u:d50eb77cf6">[b:d50eb77cf6">AI ซื้อเรือบรรทุก-ตั้งบริษัทใหม่ ลุยธุรกิจขนส่ง-พลังงานทดแทน[/b:d50eb77cf6">[/u:d50eb77cf6">

เอเชียน อินซูเลเตอร์ เดินหน้าธุรกิจขนส่งทางเรือและพลังงานทดแทนเต็มที่ ล่าสุดตั้งบริษัทใหม่ - ซื้อเรือ -เพิ่มทุนบริษัท เพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ

นายธนิตย์ ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน อินซูเลเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ AI เปิดเผยว่าตามที่คณะกรรมการบริษัทฯได้มีมติอนุมัติการลงทุนในบริษัทใหม่เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2549 นั้น บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ทุนจดทะเบียน 300,000,000 บาท แบ่งออกเป็น 30,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตพลังงานทดแทนเพื่อจำหน่ายให้แก่บริษัทขนส่ง สถานีบริการน้ำมันเรือบรรทุกสินค้าซึ่ง AI ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 75 คิดเป็นมูลค่า 225 ล้านบาท เนื่องจากเล็งเห็นถึงโอกาสการเติบโตของธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งพลังงาน มีแนวโน้มที่จะประสบปัญหาภาวะขาดแคลนและมีราคาสูงขึ้นในอนาคตอันใกล้


ขณะเดียวกัน AI ได้ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัท เอไอ โลจิสติกส์ จำกัดจาก 1 ล้านบาทเป็น 40 ล้านบาท ซึ่ง AI ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 80 และคณะกรรมการ AI อนุมัติให้บริษัท เอไอ โลจิสติกส์ จำกัด ซื้อเรือบรรทุกจำนวน 2 ลำรวมมูลค่า 113.60 ล้านบาท นอกจากนี้ AI ได้ทำการซื้อหุ้นของบริษัท อิเลคทริคอล โพรเจคส์ จำกัด จำนวน 1,071,417 หุ้น จากบริษัท คิลแพทริค กรีน จำกัด ประเทศออสเตรเลีย คิดเป็นมูลค่า 8.04 ล้านบาทอีกด้วย


สำหรับการเพิ่มทุนใน บริษัท เอไอ โลจิสติกส์ จำกัด นั้น AI มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกและทะเล โดยAI ได้ลงทุนเป็นจำนวนเงิน 32 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 80 โดยได้มีการชำระค่าหุ้นจำนวน1 ล้านบาท และ 31 ล้านบาทในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 และวันที่ 3 ตุลาคม 2549 ตามลำดับ โดยประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับเนื่องจาก AI เล็งเห็นถึงโอกาสการเติบโตของธุรกิจการขนส่ง ซึ่งมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งทางทะเลมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการขนส่งในช่องทางอื่นๆ


ส่วนกรณีที่ บริษัท เอไอ โลจิสติกส์ จำกัด ซื้อเรือบรรทุกจำนวน 2 ลำ รวมมูลค่า 113.60 ล้านบาท ได้แก่ เรือธารีรัตนา 2 ได้ทำการจัดซื้อเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2549 และเรือธารีรัตนา 3 คาดว่าจะทำการจัดซื้อในวันที่ 25 มีนาคม 2550


เนื่องจาก AI ต้องการขยายกองเรือเพื่อรองรับงานบริการขนส่งซึ่งมีความต้องการเพิ่มขึ้น


ขณะที่การซื้อหุ้นของ บริษัท อิเลคทริคอล โพรเจคส์ จำกัด จากบริษัท คิลแพทริค กรีน จำกัด ประเทศนั้นประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยและติดตั้งสายส่งกำลังไฟฟ้า โดยประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุน เนื่องจากเล็งเห็นถึงโอกาสการเติบโตของธุรกิจวิศวกรรม และรับเหมาก่อสร้าง [/color:d50eb77cf6">

โดย กระแสหุ้น

^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#8 วันที่: 10/10/2006 @ 11:05:08 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[u:214425fcf6">[b:214425fcf6">ITD คว้างานรวด 5 โครงการ 685 ล[/b:214425fcf6">[/u:214425fcf6">.


อิตาเลียนไทย คว้ารวด 5 โครงการ 685.36 ล้านบาท เซียนหุ้นมองส่งผลบวกแก่ราคาหุ้น แนะนำเก็งกำไรเข้าซื้อ ขณะเดียวกันรัฐบาลช่วยกระตุ้นจำนวนงานโตเพิ่มในปีหน้า ตามนโยบายด้านระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ขณะเดียวกันหลายปัจจัยที่กดดันเริ่มคลี่คลาย ช่วยหนุนสภาพธุรกิจสดใส

นางนิจพร จรณะจิตต์ กรรมการรองประธานบริหารอาวุโส บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เปิดเผยว่าในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม พ.ศ. 2549 บริษัทฯได้ลงนามสัญญาก่อสร้าง จำนวน 5 โครงการ ได้แก่โครงการปรับปรุงมูลนิธิคณะกรรมการมูลค่า 75,646,000 บาท ,โครงการก่อสร้างพระตำหนัก กรมชลประทาน 106,820,000 มูลค่าบาท ,โครงการงานโยธาสำหรับ บริษัท ซี ที ซี ไอ มูลค่า255,013,429.60 บาท,โครงการก่อสร้างโครงสร้าง บริษัท ซี ที ซี ไอ สำหรับรองรับท่อผลิตภัณฑ์ภายในเขตโรงงาน มูลค่า 132,336,182.40 บาท และโครงการก่อสร้างโครงสร้างเหล็กภายในโรงงาน บริษัท ซี ที ซี ไอ มูลค่า 115,550,380.90 บาท มูลค่ารวมประมาณ 685.36 ล้านบาท


นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ บล.เอเซียพลัส เปิดเผยถึงกรณีที่ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ได้งานใหม่ 5 โครงการ รวมมูลค่า 685 ล้านบาท ว่า แสดงให้เห็นถึงการที่บริษัทเร่งหางานภาคเอกชนเข้ามา หลังจากที่งานภาครัฐไม่มีการเดินหน้า อย่างไรก็ตาม มูลค่าโครงการถือว่าไม่มากนัก เมื่อเทียบกับขนาดของบริษัทที่น่าจะได้งานมูลค่าหลักหมื่นล้านบาท ดังนั้น จากข่าวนี้คงจะส่งผลบวกต่อราคาหุ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะมูลค่างานไม่มาก ประกอบกับสภาวะตลาดโดยรวมมีแนวต้านที่ 700 จุดเท่านั้น


อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงแนะนำซื้อเก็งกำไร โดยให้แนวรับที่ 6 บาท แนวต้านที่ 6.50 บาท ทั้งนี้หากมองด้านพื้นฐาน ราคา ITD ถือว่าปรับลงมามากแล้ว แต่หลังจากนี้คงปรับขึ้นได้อีกไม่มากนัก เนื่องจากยังต้องรอโครงการของภาครัฐที่จะลงทุนต่อไป


นายพงษ์พันธุ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยมองว่าปัจจัยพื้นฐานของ ITD ยังคงอยู่ในระดับที่ดี แม้ว่าที่ผ่านมา ITD เองจะยังไม่มีการประมูลโครงการใหม่ๆก็ตาม แต่ตัวเลข BACKLOG ที่รอรับรู้รายได้ได้อีกหลายหมื่นล้านบาท


อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าหลังจากที่ได้รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศแล้ว ทางภาครัฐก็คงจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยอาจะมีการสร้างอินฟราสตรัคเจอร์และระบบขนส่งมวลชนเพิ่ม ซึ่งก็จะช่วยให้มีการเข้าประมูลโครงการใหม่ๆเกิดขึ้นในปีหน้า ขณะเดียวกัน ภาวะราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลดลงและภาวะอัตราดอกเบี้ยเริ่มทรงตัวแล้ว ส่งผลให้หุ้นกลุ่มรับเหมามีต้นทุนที่ลดลง ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงได้ประเมินราคาเป้าหมายของหุ้น ITD อยู่ที่ 7.65 บาท


นางสาววิชชุดา ปลั่งมณี ผู้จัดการส่วนวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKS เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยประเมินว่ารายได้ในไตรมาส 4/2549 น่าจะยังคงดีอยู่ เนื่องจาก Gross Margin เริ่มที่จะปรับตัวดีขึ้น เพราะว่าต้นทุนการก่อสร้างเริ่มปรับตัวลดลง ซึ่งจะเห็นได้ว่าทิศทางราคาเหล็ก น้ำมันและอัตราดอกเบี้ยเริ่มปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยมองว่าระดับราคาหุ้น ITD ที่รับขึ้นนั้นสาเหตุก็น่าจะมาจากการเข้าเก็งกำไรเกี่ยวกับข่าวที่จะมีการสร้างรถไฟฟ้า ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้รวมของ ITD ปีนี้น่าจะอยู่ที่ 42,776 ล้านบาท ส่วนกำไรน่าจะอยู่ที่ 1,184 ล้านบาท ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงได้ประเมินกรอบราคาทางเทคนิคโดยให้แนวรับอยู่ที่ 6 บาท ส่วนแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 6.60 บาท[/color:214425fcf6">

โดย กระแสหุ้น

^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#9 วันที่: 10/10/2006 @ 11:06:54 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[u:cf53fd9ee3">[b:cf53fd9ee3">S&P ประกาศเครดิตพินิจบ.เหล็กบราซิล CVRD หลังเสนอซื้อบ.นิกเกิ้ลแคนาดา [/b:cf53fd9ee3">[/u:cf53fd9ee3">

สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศเครดิตพินิจ แนวโน้มเชิงบวก แก่บริษัทคอมแพนเฮีย เวล โด รีโอ โดซ หรือ CVRD ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ของบราซิล โดย S&P ระบุว่า สถานะทางการเงินสำหรับแผนการเข้าซื้อหุ้นในบริษัทอื่นเป็นเหตุผลสำคัญในการประกาศเครดิตพินิจครั้งนี้
CVRD ได้เสนอซื้อหุ้นมูลค่า 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ในบริษัทอินโค ซึ่งเป็นบริษัทแร่นิกเกิ้ลของแคนาดาเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาบริษัทอินโดได้ตอบรับข้อเสนอในเดือนก.ย. และบริษัท CVRD วางแผนที่จะซื้อหุ้นดังกล่าวผ่านทางเงินกู้
ถ้าข้อเสนอดังกล่าวประสบความสำเร็จตามเงื่อนไขในปัจจุบัน เราคาดว่าอันดับความน่าเชื่อถือของ CVRD จะลดลง ซึ่งปัจจุบันอันดับความน่าเชื่อถือของ CVRD อยู่ที่ BBB+ S&P ระบุ สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงาน

[/color:cf53fd9ee3">
^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#10 วันที่: 10/10/2006 @ 11:08:33 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[b:3d8db30a38">[u:3d8db30a38">TTA ตั้งบ.ใหม่ในสิงคโปร์หวังรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีค่าระวางเรือ 10 ปี [/u:3d8db30a38">[/b:3d8db30a38">

ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการ บมจ.โทรีเซน ไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) เปิดเผยว่า คณะกรรมการของบริษัท เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2549 มีมติอนุมัติให้ลงทุนในบริษัทย่อยใหม่ คือ บริษัท โทรีเซน ชิปปิ้ง สิงคโปร์ พีทีอี ลิมิเต็ด ถือหุ้น 100%เพื่อขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเล โดยเป็นเจ้าของเรือเอง หรือเช่าเรือมาเพื่อประกอบ ธุรกิจ และ/หรือเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้น (holding company) ซึ่งจะลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเล

บริษัทดังกล่าวจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และจะเพิ่มทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเป็น 15.5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ โดยจะจ่ายเงินทุนประมาณเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งแหล่งเงินทุนมาจากเงินทุนหมุนเวียนของ TTA

วัตถุประสงค์ในการลงทุน เนื่องจากประเทศสิงคโปร์มีโครงการ AISE (the Approved International Shipping Enterprise) ภายใต้ พ.ร.บ. ภาษีเงินได้ของประเทศสิงค์โปร์ ซึ่งให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจขนส่งสินค้าหว่างประเทศทางทะเล

บริษัท โทรีเซน ชิปปิ้ง สิงคโปร์ พีทีอี ลิมิเต็ด ได้ยื่นขอเป็นสมาชิกของโครงการ AISE และ ได้รับอนุมัติให้เข้าเป็นสมาชิก โดยในช่วงแรกจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นเวลา 10 ปี มีบริษัทที่ประกอบธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเลจำนวน 80 บริษัท ที่เป็นสมาชิกของโครงการดังกล่าว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเลของประเทศสิงคโปร์

การจัดตั้ง บริษัท โทรีเซน ชิปปิ้ง สิงคโปร์ พีทีอี ลิมิเต็ด จะเป็นการลดภาระภาษีค่าระวางเรือ ทั้งนี้เพราะประเทศสิงคโปร์มีอนุสัญญาภาษีซ้อนกับประเทศต่าง ๆ จำนวนมากกว่าประเทศไทย

ทั้งนี้ TTA มีแผนที่จะเดินเรือประจำเส้นทางสายหลัก ๆ และเรือบางลำโดยผ่านบริษัท โทรีเซน ชิปปิ้ง สิงคโปร์ พีทีอี ลิมิเต็ด เพื่อลดภาษีค่าระวางเรือ และ อาจจะใช้บริษัท โทรีเซน ชิปปิ้ง สิงคโปร์ พีทีอี ลิมิเต็ด หรือบริษัทย่อยของบริษัท โทรีเซน ชิปปิ้ง สิงคโปร์ พีทีอี ลิมิเต็ด เพื่อเป็นเจ้าของเรือเดินทะเลในอนาคต

[/color:3d8db30a38">
^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#11 วันที่: 10/10/2006 @ 11:19:38 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[u:630f9913bd">[b:630f9913bd">*UCOM เผยขายหุ้นใน DTAC ไม่เกิน 28 ล้านหุ้น ได้เงิน 4.2 พันลบ. [/b:630f9913bd">[/u:630f9913bd">

บมจ.ยูไนเต็ด คอมมูนิเกชั่น อินดัสตรี (UCOM) แจ้งว่า บริษัทขายหุ้นสามัญที่ถืออยู่ในบมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ในจำนวนไม่เกิน 28 ล้านหุ้น คิดเป็นประมาณร้อยละ 6.11 ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ DTAC ในปัจจุบัน

หากใช้ราคาหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ของ DTAC เฉลี่ย 5 วันทำการก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติในเสนอขายหุ้น DTAC ในครั้งนี้ มาใช้ในการคำนวณแล้ว จะมีมูลค่าประมาณ 4,199 ล้านบาท โดยจะทำการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปพร้อมกับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของ DTAC ที่คาดว่าจะดำเนินการภายในปี 2549

บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปทำการชำระคืนเงินกู้และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท นอกจากนี้ ยังเป็นการใช้ประโยชน์จากผลขาดทุนสะสมทางภาษีเป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 3,600 ล้านบาท และยังทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทลดลง

อย่างไรก็ดี ราคาเสนอขายหุ้นสามัญที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จะได้จากการทำ Bookbuilding ซึ่งเป็นวิธีการสำรวจปริมาณความต้องการซื้อหุ้นของนักลงทุนสถาบันภายในประเทศในแต่ละระดับราคาเสนอขาย โดยการตั้งช่วงราคา (Price Range) ในระดับต่างๆ กัน แล้วเปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันแจ้งราคาและจำนวนหุ้นที่ประสงค์จะซื้อมายังผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

ทั้งนี้ในการตั้งช่วงราคา (PriceRange) ดังกล่าวจะอ้างอิงกับราคาหุ้นของ DTAC ซึ่งทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ในช่วงเวลาที่จะทำการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ซึ่งหากใช้ราคาหุ้นที่ซื้อขายของ DTAC เฉลี่ย 5 วันทำการก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติในเสนอขายหุ้น DTACเป็นเกณฑ์ที่ใช้การกำหนดมูลค่าสิ่งตอบแทน จะมีราคาประมาณ 149.96 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ สัดส่วนของหุ้นที่ถือก่อนการขาย ประมาณร้อยละ 43.13 ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วในปัจจุบันของ DTAC หลังขายหุ้น UCOM จะมีสัดส่วนของหุ้นที่ถือประมาณร้อยละ 37.02 ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วก่อนการเสนอภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรกของ DTAC หรือประมาณร้อยละ 35.74 ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้


^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#12 วันที่: 10/10/2006 @ 11:23:07 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[b:578c55118c">[u:578c55118c">วอร์แรนต์ERAWAN- CKคึก [/u:578c55118c">[/b:578c55118c">

โบรกมองนักลงทุนโยกเล่นวอร์แรนต์หลังตลาดหุ้นขาดสีสัน วอลุ่มบางเฉียบไม่ถึงหมื่นล้าน ดันคู่หู ERAWAN-W และ CK-W1 วิ่งอุตลุดหลังหุ้นแม่ยังมีปัจจัยสนับสนุน นำโดย CK หลังรอดหวุดหวิดจากการตรวจสอบของ คตส. ดันราคาหุ้นวิ่ง แนะเก็งกำไร ให้แนวรับที่ 4.50 บาท แนวต้านที่ 5.00 บาท ส่วน ERAWAN-W วิ่งรับเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยวฟ้าเปิดการเมืองคลี่คลาย แนะนำเก็งกำไร ให้แนวรับที่ 1.08 บาท แนวต้านที่ 1.15 บาท แนวต้านถัดไปที่ 1.20 บาท

ความเคลื่อนไหวราคา ERAWAN-W วานนี้ (9 ต.ค.) ปิดที่ราคา 1.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท หรือ 2.80% มูลค่าการซื้อขายรวม 97.27 ล้านบาท ส่วน CK-W1 ปิดที่ราคา 4.56 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท หรือ 3.64% มูลค่าการซื้อขายรวม 85.46 ล้านบาท

นายสิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง รองผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาหุ้นของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นคึกคักในการซื้อขายวานนี้ (9 ต.ค.49)เพราะนักลงทุนปรับกลยุทธ์มาเลือกลงทุนในหุ้นขนาดกลางและหุ้นขนาดเล็กในช่วงบรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไม่ค่อยสดใส ซึ่งหุ้นใบสำคัญแสดงสิทธิ( วอแรนต์) เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเช่นกัน

ส่วนราคาหุ้นใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)CK-W1 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นไปตามการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัทแม่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) CK เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากจิตวิทยาการลงทุนกรณีที่ CK เป็นผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่รายเดียวที่ไม่ถูกตรวจสอบความผิดจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) ต่างจาก บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) STEC และ บริษัท อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ITD ที่อยู่ระหว่างรอผลการการตรวจสอบจาก คตส.ในการรับงานก่อสร้างโครงการภาครัฐที่ผ่านมาหลังจากพบว่างานก่อสร้างล่าช้าและไม่เรียบร้อยอย่างที่ควรจะเป็น

สำหรับใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) CK-W1 มีอัตราการใช้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญในอัตรา 1 ต่อ 1 โดยมีราคาใช้สิทธิ 4.50 บาทต่อหุ้น และกำหนดวันหมดอายุในวันที่ 30 มีนาคม 2550

ส่วนราคาหุ้นใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ERAWAN-W ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ก็เป็นไปตามแรงซื้อเก็งกำไรในช่วงภาวะตลาดซบเซาเท่านั้น และราคาหุ้นบริษัทแม่คือ บริษัท ดิ เอราวัณกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ERAWANก็ไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นโดดเด่นแต่อย่างใด

ปกติแล้วราคาหุ้นวอแรนต์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมักวิ่งตามตัวแม่หรืออีกกรณีหนึ่งคือมีส่วนลดเพราะหลังจากแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญแล้วจะมีกำไรจากส่วนต่าง ซึ่งในส่วน CK และ CW-W1 มีส่วนต่างราคาถึง 2 เท่า ฉะนั้นแม่ขึ้น 1% ลูกก็ขึ้น 1% ส่วนERAWAN น่าจะเป็นไปตามแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มโรงแรมที่ได้อานิงสงส์จากสนามบินสุวรรณภูมิดึงนักท่องเที่ยวเข้าพักโรงแรมเพิ่มและ ERAWAN เองก็เป็นหุ้นพื้นฐานที่ดีอีกตัวหนึ่ง นายสิทธิเดช กล่าว

ทั้งนี้ ERAWAN-W เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ด้ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2549 และมีอัตราใช้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญในอัตรา 2 ต่อ 1 ในราคาหุ้นละ 2.15 บาท โดยครบกำหนดในวันที่ 17 ธันวาคม 2550

นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สัญญาณทางเทคนิค ERAWAN-W และ CK-W1 ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แนะนำเก็งกำไร ให้แนวรับ ERAWAN-W ที่ 1.08 บาท แนวต้านที่ 1.15 บาท แนวต้านถัดไปที่ 1.20 บาท ส่วน CK-W1 .ให้แนวรับที่ 4.50 บาท แนวต้านที่ 5.00 บาท



ที่มา : ทันหุ้น




^_^[/color:578c55118c">
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#13 วันที่: 10/10/2006 @ 11:32:13 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[b:8b6c95180f">[u:8b6c95180f">PATKLกองทุนนอกไล่จีบ [/u:8b6c95180f">[/b:8b6c95180f">

PATKL เด้งสวนดัชนีตลาดหุ้นหลัง ด้าน?ปิยะ จงวัฒนา?ผู้บริหารชงข่าวดีคว้างานก่อสร้างโรงงานเอทานอลเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท ระบุเตรียมเซ็นสัญญาก่อนหมดโค้งสุดท้ายของปีนี้ ล่าสุดเพิ่มเป้าผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรขึ้นเป็นปีละ 400-500 ชิ้น ลั่นผลการดำเนินงานยังคงวิ่งเข้าตากองทุนต่างประเทศไล่จีบร่วมทุนเพียบ โบรกเกอร์ประเมินสัญญาณเทคนิคหุ้นมีลุ้นวิ่งขึ้นได้ต่อทั้งหุ้นแม่และลูกแนะตั้งรับเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว

นายปิยะ จงวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พัฒน์กล จำกัด (มหาชน) หรือ PATKL เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเซ็นสัญญารับงานก่อสร้างโรงงานเอทานอลให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ในช่วงปลายปี 2549 นี้อีกจำนวน 2 โครงการ หรือมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ดังกล่าวตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป

ทั้งนี้ล่าสุดบริษัทได้รับงานก่อสร้างโรงการเอทานอลให้กับบริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด ในมูลค่า 3,148 ล้านบาท มีกำลังการผลิตที่ 1,020,000 ลิตรต่อวัน อีกทั้งบริษัทได้เพิ่มทุนในบริษัทย่อย จำนวน 30 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงสภาพคล่องของบริษัทย่อยจากการที่บริษัทย่อยขยายพื้นที่ในการผลิตเพิ่มจากเดิมอีก 1 เท่าตัว ในการผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมทำความเย็นและโครงการเอทานอล ที่คาดว่าจะทำให้สัดส่วนรายได้จากโครงการเอทาอนอลเพิ่มเป็น 50% ในปี 2550

?บริษัทจะเริ่มผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องจักรที่ใช้ในโครงการเอทานอลได้ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2549นี้ โดยในเบื้องต้นบริษัทตั้งเป้าการผลิตเครื่องจักรที่ใช้ในโครงการเอทานอลที่ประมาณ 400-500 ชิ้นต่อปี ภายหลังที่บริษัทๆได้มีการย้ายโรงงานไปผลิตที่บริษัท พัฒน์กล แมนนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว?นายปิยะกล่าว

นายปิยะ กล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่าวงการเจรจาการร่วมทุนกับกองทุนจากยุโรป และสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่าการลงทุนดังกล่าวจะมีการลงทุนผ่านกองทุนในประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากกองทุนจากประเทศยุโรป และสหรัฐอเมริกาได้มีการลงทุนในประเทศสิงคโปร์อยู่แล้ว เหตุผลที่กองทุนต่างประเทศให้ความสนใจที่จะเข้าร่วมทุนกับบริษัทนั้น อาจเป็นเพราะบริษัทเองได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ๆ โดยการหันมาลงทุนในการก่อสร้างโรงงานเอทานอลแบบครบวงจรมากขึ้น

อย่างไรก็ดีสำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2549 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2549 ประมาณ 20% โดยไตรมาส 2/2549 บริษัทมียอดรับรู้รายได้ทั้งสิ้น 810 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 26 ส่วนทั้งปีบริษัทค่อนข้างมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 25% โดยในปี 2548 บริษัทมีรายได้อยู่ทั้งสิ้น 2,700 ล้านบาท

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ไซรส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น PATKL และ PATKL-W1 อาจจะมีการปรับตัวลดลงได้ในระยะสั้น เนื่องจากในช่วงก่อนหน้าราคาหุ้นได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมามากแล้ว ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนแนะตั้งรับเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว โดยให้แนวรับของ PATKL ไว้ที่ 3.20-3.00 บาท แนวต้าน 3.80-4.00 บท ส่วน PATKL-W1 ให้แนวรับที่ 0.90-0.80 บาท และแนวต้านที่ 1.30-1.40 บาท

ราคาหุ้น PATKL ( 9 ต.ค.49) ปิดซื้อขายที่ 3.78 บาท เพิ่มขึ้น 0.26 บาท มูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 12.86 ล้านบาท ส่วน PATKL-W1 ปิดซื้อขายที่ 1.21 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท มูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 29.59 ล้านบาท


ที่มา : ทันหุ้น



[/color:8b6c95180f">
^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#14 วันที่: 10/10/2006 @ 11:36:24 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[u:9fe7a0f1c1">[b:9fe7a0f1c1">PAE?คืนสังเวียนวันแรกสุดฮอต [/b:9fe7a0f1c1">[/u:9fe7a0f1c1">

ที่มา : ทันหุ้น
PAE คืนสังเวียนวันแรกสุดฮอตราคาวิ่งกระฉูดแตะระดับ 2.14 บาท หลังพ้นเหตุเพิกถอนและปลด SP ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์จากค่ายกสิกรไทยชี้ช่องราคาหุ้นมีโอกาสอ่อนตัวช่วงแรกก่อนจะสปีดดีดขึ้นมาได้อีกครั้งอันใกล้นี้แนะรอจังหวะ ?ช้อนซื้อ? ส่วนนักวิเคราะห์เทคนิคประเมินกรอบสัญญาณราคาหุ้นยังคงเด้งขึ้นได้ช่วงสั้นแนะซื้อ?เก็งกำไร?ให้แนวรับ รับที่ 2.10 บาท แนวต้าน 2.20 บาท

ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้พิจารณาให้บริษัท พีเออี (ประเทศไทย) จำกัด ( มหาชน) PAE พ้นเหตุเพิกถอน โดยปลดเครื่องหมาย SP (Suspension) และ NC (Non-Compliance) หลักทรัพย์ของ PAE และอนุญาตให้กลับเข้าซื้อขายในหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (กลุ่มอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง) ได้ในวันแรกวานนี้ (9 ต.ค.49) ทั้งนี้ PAE เป็นบริษัทที่พ้นเหตุแห่งการเพิกถอนในลำดับที่ 12 ของปี 2549 ส่งผลให้ราคาหุ้น PAE ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง

วานนี้ราคาหุ้น PAE ปรับขึ้นทดสอบที่ระดับ 2 บาท โดยระหว่างวันราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 2.32 บาท และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1.88 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ระดับราคา 2.14 บาท มูลค่าซื้อขาย ทั้งสิ้น 350 ล้านบาท เพิ่มขึ้นหากเทียบกับราคาก่อนหน้าที่จะถูกสั่งห้ามการซื้อขายตั้งที่ปี 2542 ที่ 1.30 บาท

ด้านนางสาวภัทรวัลลิ์ หวังมิ่งมาศ นักวิเคราะห์เทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้น PAE เริ่มกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯวันแรกวานนี้ หลังจากที่หยุดการซื้อขายในปี 2542 ที่ผ่านมา โดยภายหลังจากที่เริ่มการซื้อขายราคาหุ้นเหวี่ยงตัวขึ้นเช่นเดียวกับหุ้นตัวอื่นๆ ที่กลับเข้ามาซื้อขายครั้งแรก ดังนั้น สัญญาณทางเทคนิคระยะสั้นหากราคาหุ้นปรับตัวต่ำกว่า 2.16 บาท ราคาอาจปรับตัวลดลงแรงต่อเนื่องได้

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนทางเทคนิคระยะสั้นในหุ้น PAE แนะนำให้ ?รอดูจังหวะลงทุน? แม้ว่าราคาจะปรับลดลงแต่ยังเป็นจังหวะการช้อนซื้อที่ดี โดยที่จังหวะที่สามารถทยอยซื้อโดยให้แนวรับแรกที่ระดับ 2.06 บาท และแนวรับถัดไปที่ 2.00 บาท ส่วนแนวต้านที่ระดับ 2.34 บาท

นักวิเคราะห์เทคนิครายหนึ่ง กล่าวว่า หุ้นที่กลับเข้ามาเทรดใหม่ส่วนใหญ่จะมีการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงค่อนข้างรุนแรง ฉะนั้น กลยุทธ์การลงทุนของหุ้น PAE แนะนำ ?ซื้อเก็งกำไร? โดยให้แนวรับที่ 2.10 บาท และแนวต้าน 2.20 บาท

อย่างไรก็ตามบริษัท พีเออี (ประเทศไทย) จำกัด ( มหาชน) หรือ PAE ประกอบธุรกิจ 4 ประเภท ได้แก่ 1.ให้บริการอุตสาหกรรม เช่น การซ่อมบำรุง ให้เช่าอุปกรณ์และเครื่องจักร งาน Fabrication และ stallation เกี่ยวกับงานท่อและโลหะ และจัดส่งบุคลากรเพื่อซ่อมบำรุงฐานขุดเจาะน้ำมันและโรงงานอุตสาหกรรม

2.โทรคมนาคม เช่น ก่อสร้างและติดตั้งงานระบบและขยายเครือข่ายโทรคมนาคม งานระบบรับส่งสัญญาณดาวเทียม 3.ก่อสร้าง เช่น งานโยธา และงานเครื่องกล และ 4. ตัวแทนจำหน่ายและผู้จัดหาอุปกรณ์และวัตถุดิบ ทั้งนี้ PAE มีนโยบายที่จะมุ่งเน้นงานด้านการก่อสร้างอาคารโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงงานด้านเครื่องกล เป็นหลัก







^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#15 วันที่: 10/10/2006 @ 11:41:22 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[u:9a2e874025">[b:9a2e874025">NWRลุ้นงานเอกชนปลายปี500ล[/b:9a2e874025">[/u:9a2e874025">.

ที่มา : ทันหุ้น
NWR มีลุ้นคว้างานเอกชนในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้อีก 400-500 ล้านบาท คาดรู้ผลประมูลปลายปีนี้พร้อมเตรียมเปิดรายชื่อพันธมิตรร่วมทุน เข้าประมูลโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย หลังมีความชัดเจนจากรัฐบาล ยันปีนี้ยังทยอยรับรู้รายได้ทั้งในและต่างแดนต่อเนื่อง มั่นใจทั้งปีโกยรายได้ 4 พันล้านบาท โบรกมองแนวต้าน 0.84 บาท แนวรับ 0.75-0.70 บาท

นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) NWR เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ บริษัทอยู่ระหว่างรองานประมูลโครงการของภาคเอกชน รวมมูลค่า 400-500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทราบผลประมูลปลายปีนี้ และคาดว่าจะได้งานประมูลดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้ปีนี้ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 3,784.12 ล้านบาท

สำหรับสัดส่วนรายได้ปีนี้ จะมาจากโครงการในต่างประเทศประมาณ 30% ได้แก่ ในดูไบ ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอีก 2,000 ล้านบาท , กัมพูชาอีกประมาณ 100 ล้านบาท และในเวียดนามอีกประมาณ 335 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนในประเทศ 70% แบ่งเป็นงานจากภาครัฐบาล 53% และเอกชน 17%

ส่งผลให้มีมูลค่างานในมือ(Backlog)ทั้งสิ้น 9,000 ล้านบาท
ส่วนโครงการในต่างประเทศขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาที่จะยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างที่ประเทศการ์ต้า และประเทศไลบีเรียในทวีปอาฟริกาเนื่องจากประเทศดังกล่าวมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

นายปสันน กล่าวต่อว่า สำหรับการเข้าประมูลโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย ในเบื้องต้นได้มีการเจรจากับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อเข้ามาประมูลโครงการดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญาความร่วมมือ(MOU)อย่างเป็นทางการ โดยจะรอดูความชัดเจนก่อน

?บริษัทคงต้องรอดูความชัดเจนในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สายว่าท้ายที่สุดแล้วจะมีความชัดเจนเมื่อใด ซึ่งหากมีความชัดเจนบริษัทพร้อมจะเปิดเผยรายชื่อบริษัทที่เข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อจะเข้าร่วมประมูลในโครงการดังกล่าว?นายปสันน
กล่าว

นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า จากเส้นกราฟเทคนิค ราคาหุ้นNWR มีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเพราะมีแรงเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นดังกล่าวต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม หากจะเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นดังกล่าว ควรจะระมัดระวังการลงทุนด้วย เนื่องจากหุ้นดังกล่าวหากมีการเข้ามาเก็งกำไรสูงจะมีแรงเทขายสลับออกไปเช่นเดียวกัน โดยประเมินแนวรับที่ 0.70 บาท และ 0.72 บาทตามลำดับ แนวต้าน 0.84 บาท

นักวิเคราะห์ทางเทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ฟาร์อีสท์ จำกัด แนะนำ?เก็งกำไร?NWR โดยให้แนวรับที่0.75 บาท และแนวต้านที่ 0.84 บาท อย่างไรก็ตามจากกราฟเทคนิคหุ้นNWR ยังสามารถเก็งกำไรได้ระยะสั้น

?ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นวานนี้ ส่วนหนึ่งอาจมาจากการเข้ามาเก็งกำไร กับกระแสข่าวNWR เตรียมจะหาพันธมิตรร่วมทุนใหม่ แต่ท้ายที่สุดแล้วข่าวดังกล่าวจะจริงหรือไม่คงต้องรอบริษัทเป็นผู้ชี้แจง?นักวิเคราะห์กล่าว
NWR(9 ต.ค.)ปิดที่ 0.77 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท หรือ 4.05% มูลค่าซื้อขาย 29.34 ล้านบาท






[/color:9a2e874025">
^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#16 วันที่: 10/10/2006 @ 11:46:27 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[u:959d3a8051">[b:959d3a8051">TACขายหุ้น44.4ล้านหุ้นยูคอมลดถือหุ้นเหลือ35%[/b:959d3a8051">[/u:959d3a8051">

ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง แทค เล็งขายหุ้นไม่เกิน 44.4 ล้านหุ้น เผย ยูคอมนำหุ้นเก่าขาย ไม่เกิน 28 ล้านหุ้น ส่งผลถือหุ้นจาก 43.13% เหลือ 35.74%

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)แจ้งว่า บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ท คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ TAC ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(IPO) จำนวนไม่เกิน 44.4 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 10 บาท คิดเป็น 9.4% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วภายหลังการเพิ่มทุน แบ่งเป็น 16.4 ล้านหุ้น และอีก ไม่เกิน 28 ล้านหุ้น เป็นหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บริษัท ยูไนเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ UCOM

สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของ TAC ครั้งนี้ถือว่าเป็นบริษัทแรกที่มีการจดทะเบียนทั้ง 2 ตลาด (ดูโอลิสต์ติ้ง) โดยปัจจุบันTAC ได้มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ซึ่งแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้TAC จะมีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว จำนวน 5,114.16 ล้านบาท

ส่วนเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้บริษัทจำนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานทั่วไปของบริษัทสำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรกประกอบด้วย บริษัท ยูคอม ถือหุ้น 43.13% ภายหลังการขายหุ้นเหลือ 35.74% เทเลนอร์ ถือหุ้น 36.62% ภายหลังขายหุ้น 31.49% บริษัท ทีโอที ถือหุ้น 5.77% ภายหลังขายหุ้น 5.57% บริษัทไทย เทลโค โฮลดิ้งส์ถือหุ้น 1.98% ภายหลังถือหุ้น 1.91% และบริษัท กสท.ถือหุ้น 0.11% ภายหลังถือหุ้น 0.11%

^_^[/color:959d3a8051">
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#17 วันที่: 10/10/2006 @ 13:45:16 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[u:a61d8a6f9b">[b:a61d8a6f9b">หุ้น MCOT ลบ 2.38% โบรกฯมองยังมีความเสี่ยงด้านลบอีกมากจากการเปลี่ยนรบ.[/b:a61d8a6f9b">[/u:a61d8a6f9b">

หุ้น MCOT ราคารูดลง 2.38% มาอยู่ที่ 30.75 บาท ลดลง 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 105.39 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.27 น. โดยเปิดตลาดที่ 31.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 31.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 30.50 บาท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต แนะขายหุ้น MCOT ประมาณการกำไรจะมีการชะลอตัวลงจาก 19% ในปี 2006 เป็นทรงตัวในปี 2007 และจากการปรับลดประมาณการกำไร ส่งผลให้ราคาเป้าหมายปรับลดลง 17% จาก 32 บาท เหลือเพียง 26.5 บาท ถึงแม้ว่าราคาหุ้นของ MCOT ได้ปรับลดลงถึง 23% จากต้นเดือน ก.ย. แต่คิดว่ายังมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับลดลงได้อีก และยังไม่ถูกพอที่จะเข้าลงทุน
เนื่องจากเชื่อว่ามีความเสี่ยงสูงที่ MCOT จะไม่สามารถรักษาสถานภาพการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันไว้ได้ โดยรายได้ค่าโฆษณาจากโครงการของภาครัฐ ซึ่งคิดเป็นราว 30-40% ของรายได้ค่าโฆษณาทั้งหมด น่าจะปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีทีมรัฐบาลรักษาการชุดใหม่เข้ามา โดยคาดว่ารัฐบาลชุดใหม่จะทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายเหล่านี้ รวมถึงตัดงบโฆษณา ขณะที่คิดว่าความเชื่อมั่นของผู้จ่ายค่าโฆษณาต่อแนวโน้มธุรกิจของ MCOT ดูเหมือนว่าขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้ว จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ประกอบการจะย้ายไปโฆษณาที่สถานีอื่น
นอกจากนี้ ทิศทางการพัฒนาต่อไปในอนาคตยังดูคลุมเครือ เนื่องจากไม่มีคุณมิ่งขวัญเป็นผู้บริหาร ส่งผลให้ทิศทางการดำเนินธุรกิจในอนาคตดูไม่ชัดเจน ขณะที่การขยายตัวในด้านต่าง ๆ ของ MCOT ยังคงมีอยู่ต่อไป แต่คู่แข่งสำคัญอย่าง BEC กำลังกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ดังนั้น คาดว่า มีโอกาสอย่างมากที่ MCOT จะสูญเสียส่วนแบ่งค่าใช้จ่ายในการโฆษณาทางทีวีให้แก่ BEC
เพื่อสะท้อนถึงการคาดการณ์ที่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อปัจจัยพื้นฐานของ MCOT จึงปรับลดประมาณการกำไรลง 13% ในปี 2007 และ 15% ในปี 2008
ทางด้านเทคนิค ประเมินว่า แกว่งตัวออกด้านข้าง แต่มีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง มีโอกาสดีดกลับได้ แต่การดีดกลับยังจะชะลอตัวที่แนวต้าน แนวรับ 31+/-0.50 แนวต้าน 33.50, 34.50


^_^[/color:a61d8a6f9b">
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#18 วันที่: 10/10/2006 @ 15:36:14 : re: .....................ข่าวสดวันนี้.......................
[u:c57a52194f">[b:c57a52194f">ก.ล.ต.เตรียมกำหนดวงเงินเทรดหุ้นที่ติดอันดับปริมาณหมุนเวียนสูง[/b:c57a52194f">[/u:c57a52194f">

ก.ล.ต.เผย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ อยู่ระหว่าง หารือเพื่อกำหนดวงเงินในการซื้อขายหุ้นที่มีปริมาณหมุนเวียน(turnover) สูง
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : โดยจะได้ ข้อสรุปภายในสิ้นเดือนต.ค.นี้ และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในม.ค.ปี 50

นายประเวช องอาจสิทธิกุล ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส ก.ล.ต.กล่าวว่า การ กำหนดวงเงินดังกล่าว เพื่อป้องกันความเสี่ยงของการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ โดยให้ตลท. และสมาคมบล. หารือร่วมกันเพื่อกำหนดรายละเอียดการให้วงเงินการซื้อ ขายหุ้นที่มี turnover สูง เราได้คุยเรื่องนี้ไปแล้วเพื่อหาแนวทางป้องกัน หลังจากที่ตลาดได้ออก มาตรการในการดูแลการซื้อขายหุ้น แต่ไม่ได้ผลมากนัก เราจึงคิดว่า น่าจะมีสาเหตุมา จากผู้ลงทุนมากกว่า จึงควรที่จะมาควบคุมที่ตัวผู้ลงทุน นายประเวช กล่าวกับผู้สื่อข่าว

เขากล่าวว่า ก.ล.ต.ได้กำหนดให้ตลท. และสมาคมบล.ส่งผลการหารือ รวม ถึงแนวทางในการพิจารณาให้กับก.ล.ต.ภายในสิ้นเดือนต.ค. และคาดว่าจะมีการ ประกาศใช้กฎเกณฑ์ในการกำหนดวงเงินการซื้อขายหุ้นที่มี turnover สูงได้ในเดือน ม.ค.50 เขากล่าวว่า การกำหนดวงเงินสำหรับการซื้อขายหุ้นที่มี turnover สูงดัง กล่าวจะพิจารณาเป็นรายตัวและรายผู้ลงทุน โดยก.ล.ต.จะประกาศรายชื่อหุ้นที่เข้าข่าย ถูกจัดว่ามี turnover สูง ทุกวันศุกร์ของแต่ละสัปดาห์ เราจะประกาศตามปกติทุกวันศุกร์ หลังจากนั้นโบรกเกอร์ก็จะนำหุ้น high turnover ที่เราประกาศออกมาไปใช้ในวันจันทร์ นายประเวช กล่าว

เขามองว่า สาเหตุที่ต้องมีการทบทวนวงเงินในการซื้อขายหุ้นของผู้ลงทุนดัง กล่าว เนื่องจากพบว่าหุ้นบางตัวมีการซื้อขายมาก ขณะที่ผู้ลงทุน 1 ราย อาจมีการซื้อขาย หุ้นตัวนั้นสูง ดังนั้นหากราคาหุ้นปรับตัวในทิศทางขาลงจนผู้ลงทุนอาจชำระราคาหุ้นไม่ได้ ก็ อาจส่งผลกระทบลุกลามจากโบรกเกอร์หนึ่งไปยังอีกโบรกเกอร์หนึ่ง

เขากล่าวว่า ขั้นตอนกำหนดแนวทางในรายละเอียดอยู่ระหว่างการพิจารณา ของตลาดและสมาคมบล.อย่างไรก็ตาม อาจมีการกำหนดให้นักลงทุนที่มีการซื้อขายหุ้นที่มี turnover สูง ต้องมีการวางหลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับการซื้อขายหุ้นตัวนั้น 50% หรือ 80% จากปกติที่จะมีการวางหลักทรัพย์ค้ำประกันเพียง 10%


^_^
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com