|
| |
|
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 |  วันที่: 09/10/2006 @ 10:35:32 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต [u:aa33a405b4">[b:aa33a405b4">ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผย SET Visit เจาะกลุ่มผู้ลงทุนหน้าใหม่ได้ผล[/b:aa33a405b4">[/u:aa33a405b4">
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยโครงการ SET Visit ที่จัดร่วมกับ 24 โบรกเกอร์ชั้นนำ ตั้งแต่ต้นปี 2549 เป็นต้นมา โดยการ
จัดบรรยายให้ความรู้แบบใกล้ชิดที่เน้นเจาะกลุ่มผู้ลงทุนหน้าใหม่ที่ไม่เคยลงทุนมาก่อน ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนที่เข้า
ร่วมกิจกรรม เปิดบัญชีซื้อขายใหม่กว่าร้อยละ 25 พร้อมเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม SET Visit เพื่อฟัง
การบรรยายและรับเอกสารเพื่อการลงทุนและของที่ระลึกในงาน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ www.set.or.th
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สายงานศูนย์ระดมทุน เปิดเผยว่า โครงการ
SET Visit เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเข้าถึงผู้ลงทุนหน้าใหม่ที่เป็นลูกค้าเป้าหมายของบริษัทสมาชิก ได้แก่ กลุ่มพนักงาน
บริษัทและรัฐวิสาหกิจ กลุ่มที่มี Lifestyle ต่าง ๆ อาทิ ผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬา ผู้ที่รักการอ่านหนังสือ รวมทั้งผู้สนใจ
ทั่วไป โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทสมาชิก จะร่วมกันจัดบรรยายและให้ข้อมูลการลงทุนเพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้
ลงทุน พร้อมทั้งการออกบูธให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญการลงทุนเป็นประจำทุกเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
ที่ผ่านมา ปัจจุบันได้รับการตอบรับจากบริษัทสมาชิกที่จะเข้าร่วมโครงการแล้ว 24 แห่ง
SET Visit ได้รับการตอบรับดีทั้งจากบริษัทสมาชิกและผู้ลงทุนที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยจากการจัดงาน SET Visit
จำนวน 16 ครั้ง ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 900 ราย และมีผู้ที่ตัดสินใจเปิดบัญชีซื้อขายใหม่ประมาณ 200 คน
ในขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการ SET Visit ยังได้สร้างความคุ้นเคยและสัมพันธภาพที่ดีแก่ลูกค้าของตน
และที่สำคัญคือทำให้ผู้ที่ไม่เคยลงทุนมาก่อน มีข้อมูลที่จะตัดสินใจเป็นลูกค้าในอนาคตของบริษัทหลักทรัพย์ได้ง่ายขึ้น นาย
วิเชฐกล่าว
สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้เคยร่วมจัดงาน SET Visit กับตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วมีรวม 7 แห่ง ได้แก่ บล.
กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) บล. ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) บล.พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) บล. เคจีไอ
(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บล.เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) บล. สินเอเซีย จำกัด บล. กสิกรไทย จำกัด
(มหาชน) บล. ธนชาต จำกัด (มหาชน) และ บล. นครหลวงไทย จำกัด
กิจกรรม SET Visit จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน สำหรับในเดือนตุลาคมนี้ มีการจัดงานรวม 6 ครั้ง คือ วัน
อังคารที่ 3 ตุลาคม 2549 ตั้งแต่เวลา 09.30 - 14.00 น. โดย บล. กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดการ
เสวนาในหัวข้อ ?จัดสรรเงินทองอุ่นใจ หลักทรัพย์กสิกรไทยใส่ใจดูแลคุณ? ให้กับลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย จำกัด
(มหาชน) ณ ห้อง Meeting Room 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2549 ตั้งแต่เวลา
13.00 ? 17.00 น. บล.ธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขา จังหวัดภูเก็ต จะจัดบรรยายในหัวข้อ ลงทุนอย่างชาญ
ฉลาดกับธนชาต และตลาดหลักทรัพย์ ณ ไทนี่ คอฟฟี่ (Tiny Coffee) ถ.เทพกษัตรี อ.เมือง ภูเก็ต และวันเสาร์ที่
14 ตุลาคม 2549 ตั้งแต่ 9.00 - 12.00 น. บล. นครหลวงไทย จำกัด จะจัดบรรยายในหัวข้อ สารบัญการ
ลงทุน ณ ห้องประชุม 1101 ชั้น 11 อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ถ. รัชดาภิเษก
สำหรับวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2549 จะจัดงานโดย บริษัทหลักทรัพย์ 3 ราย ได้แก่ 1) หัวข้อ ลงทุนทันหุ้นคุณ
ทำได้ จัดโดย บล. เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) เวลา 08.30 -12.00 น. 2) หัวข้อ ลงทุนอย่างไรให้
ไกล.... ความเสี่ยง จัดโดย บล. นครหลวงไทย จำกัด เวลา 13.00 - 16.00 น. ซึ่งจัด ณ ห้องประชุม
1101 ชั้น 11 อาคารตลาหลักทรัพย์ฯ ถ. รัชดาภิเษก และ 3) หัวข้อ Turn Pro with AYS วิธีการเล่นหุ้น
แบบมืออาชีพ จัดโดย บล. กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เวลา 9.00 -17.00 น. ณ อาคาร ดิ ออฟฟิศ
เศสแอท เซ็นทรัลเวิลด์ ถ. พระราม 1
ผู้สนใจติดตามข้อมูลและสมัครเข้าร่วมกิจกรรมและรับข้อมูลบริการต่าง ๆ ของบริษัทสมาชิกได้ที่ www.set.or.th
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายการตลาดผู้ลงทุน โทร 0 2229 2729 หรือ 0 2229 2053
^_^
|
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #1 วันที่: 09/10/2006 @ 10:38:20 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:c1f67ddeb7">[b:c1f67ddeb7">สรุปข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์กระแสหุ้นรายวัน [/b:c1f67ddeb7">[/u:c1f67ddeb7">
APURE ธุรกิจ ไฮซีซั่น อัตราเติบโตปีนี้กว่า 20%
อกริเพียว โฮลดิ้งส์ ยันเดินแผนล้างขาดทุนสะสมหมดภายใน 3 ปี เล็งลด-เพิ่มทุน ผู้บริหาร ภูมิพัฒน์ ธนาวรพิทักษ์ ลั่นธุรกิจกำลังอยู่ในช่วงไฮซีซั่น หนุนรายได้ไตรมาส4 เติบโตต่อเนื่อง มั่นใจรายได้รวมปีนี้เติบโตตามเป้าร้อยละ 20% ยอมรับค่าบาทผันผวนกระทบส่งออก ด้านนักวิเคราะห์ระบุหุ้น APURE มีพื้นฐานพอใช้ ทางเทคนิคแนวโน้มดีแนวต้านสำคัญ 3 บาท
รอราคาน้ำมัน-การเมืองชัด หนุนต่างชาติซื้อสุทธิเพิ่มขึ้น คาดบาทแกว่ง 37.40-37.70
ปมการเมืองยังกดดัน ชี้ประเด็นตั้งทีมเศรษฐกิจรัฐบาลออกมาตามคาด เชื่อไม่ส่งผลบวกลบต่อตลาดรุนแรง หวังแรงซื้อต่างชาติหนุนต่อเนื่องดันดัชนีฯ ประเมินแนวโน้มดัชนีหุ้นแกว่งแคบๆ จับตาปัจจัยราคาน้ำมันเป็นสำคัญ ด้านค่าเงินบาทคาดจะแกว่งที่ระดับ 37.40 - 37.70 บาท/ดอลลาร์
AMC สดใสไตรมาส 4 ดันแผนผลิตทะลุ2แสนตัน
เอเซีย เมทัล ลั่นธุรกิจจะฟื้นตัวชัดไตรมาส 4 ผู้บริหาร ชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ ยอมรับไตรมาส 3 รายได้ลดจากปัจจัยเศรษฐกิจการเมือง แต่มั่นใจทำรายได้ปีนี้ตามเป้า 4.8 พันล้าน เผยแผนเพิ่มทุนยังรอ ก.ล.ต.อนุมัติ หวังนำเงินไปลงทุนขยายโรงงาน เพิ่มกำลังผลิตให้ถึง 2 แสนตันต่อปี ด้านนักวิเคราะห์ประเมินหุ้น AMC ธุรกิจยังชะลอตัวตามราคาเหล็กโลก ราคาหุ้นเห็นสัญญาณรีบาวด์
^_^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #2 วันที่: 09/10/2006 @ 10:40:10 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:797ec90559">[b:797ec90559">สรุปข่าวหุ้น-การเงิน-ประกัน หนังสือพิมพ์แนวหน้า[/b:797ec90559">[/u:797ec90559">
เครดิตบูโรยื่นขออำนาจเพิ่ม เปิดช่องวิเคราะห์สถานะจัดเกรดลูกค้า
นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ เครดิต บูโร เปิดเผยว่าบริษัทจะเสนอให้รัฐบาลใหม่แก้กฎหมายเครดิตบูโร ตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. 2545 เพื่อให้บริษัทสามารถจัดอันดับรายละเอียดของความน่าเชื่อถือ (เครดิต สกอร์ริ่ง) และนำข้อมูลที่ได้รับจากสถาบันการเงินมาวิเคราะห์และจัดอันดับเครดิตของลูกค้าแต่ละคนให้เป็นหมวดหมู่ได้ว่ามีเครดิตหรือไม่และมากน้อยอย่างโดยก่อนหน้านี้ได้หารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ซึ่งเห็นด้วยที่จะให้จัดเครดิตสกอร์ริ่ง เพราะถือเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคทางหนึ่งเช่นกัน
เอกชนแบกหนี้นอก ธปท.ระบุไตรมาส2เพิ่มกว่า2.3หมื่นล้าน
รายงานข่าวจากทีมสำรวจหนี้ต่างประเทศ ส่วนสำรวจข้อมูล ฝ่ายบริหารข้อมูล ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลการสำรวจหนี้ต่างประเทศภาคเอกชนที่มิใช่ธนาคาร ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2549 พบว่าภาคเอกชนที่มิใช่ธนาคารพาณิชย์มีหนี้ต่างประเทศคงค้างรวมทั้งสิ้น 27,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,056,900 ล้านบาท(คิดจากค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ 39 บาท) เพิ่มขึ้นจากยอดหนี้คงค้าง ณ สิ้นเดือนมีนาคมจำนวน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23,400 ล้านบาท
TFEXตั้งเป้าปี50 นักลงทุนไทย-เทศ ดันยอดซื้อขายพุ่ง 5,000สัญญาต่อวัน
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัทตลาดอนุพันธ์(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน)หรือ TFEX เปิดเผยว่า คณะกรรมการมีมติเห็นชอบแผนธุรกิจของตลาดอนุพันธ์ ที่ให้มีการซื้อขาย SET50 Index Options ภายในปี 2550 พร้อมให้ศึกษาสินค้าประเภทอื่นทั้ง อนุพันธ์ที่อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ โดยตลาดคาดว่าปริมาณการซื้อขายรวมจะโตขึ้นจากการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในระดับ 5,500-6,000 สัญญา
แบงก์ออมสินเปิดตัว GSB Saving& Health จ่ายดอกเบี้ยคงที่5% รับฝาก9ตุลาคมนี้
นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินในรูปแบบ เงินฝากคุ้มครองสุขภาพ หรือ GSB Saving & Health เพื่อเพิ่มทางเลือกในการออมเงินแก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไป โดยเป็นเงินฝากประจำ วงเงินตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป ให้ผลในรูปแบบของอัตราดอกเบี้ยและการคุ้มครองสุขภาพตลอดระยะเวลาฝาก กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุกเดือนในอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% และได้รับคุ้มครองตลอดระยะเวลาการฝาก
บลจ.มั่นใจเศรษฐกิจฟื้นตัว วางแผนออกสินค้าตัวใหม่ป้อนนักลงทุน
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บรัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า การบริหารจัดการของบลจ.ในช่วง 1 ปี ที่มีคณะรัฐบาลแต่งตั้งบริหารประเทศ ไม่น่าจะสร้างความกังวลเป็นพิเศษต่อผู้จัดการกองทุน เนื่องจากโผรายชื่อคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจส่วนใหญ่ ล้วนเป็นผู้มีความรู้ในด้านการเงินและการคลังเป็นอย่างดี ทั้ง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล และนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
[/color:797ec90559">
^_^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #3 วันที่: 09/10/2006 @ 10:52:47 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:9930693cdd">[b:9930693cdd">ITD: ลงนามในสัญญาก่อสร้าง 5 โครงการ [/b:9930693cdd">[/u:9930693cdd">
บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งว่า ในช่วงเดือน
กันยายน-ตุลาคม พ.ศ. 2549 บริษัทฯได้ลงนามสัญญาก่อสร้าง จำนวน 5 โครงการ
ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้ :-
ชื่อโครงการ เจ้าของโครงการ มูลค่างาน
(รวม VAT)
1.โครงการปรับปรุง มูลนิธิคณะกรรมการ 75,646,000 บาท
โรงยิมเนเซี่ยม ฝ่ายสถานที่แข่งขันที่พักและอาหาร
ฤดูร้อน ครั้งที่ 24 การจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (พ.ศ. 2550 )
ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี
เพื่อรองรับการแข่งขัน
กีฬามหาวิทยาลัยโลก
ฤดูร้อน ครั้งที่ 24
(พ.ศ. 2550 )
วันที่เซ็นสัญญา: 2 ต.ค. 2549
ระยะเวลาก่อสร้าง: 210 วัน
2.โครงการก่อสร้างพระตำหนัก กรมชลประทาน 106,820,000 บาท
บรมวโรภาสพิมาน 1 และ 2
เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
วันที่เซ็นสัญญา: 27 ก.ย. 2549
ระยะเวลาก่อสร้าง:360 วัน
3.โครงการงานโยธาสำหรับ บริษัท ซี ที ซี ไอ 255,013,429.60 บาท
โครงการ พีทีที ฟีนอล (ประเทศไทย) จำกัด
จ.ระยอง
วันที่เซ็นสัญญา: 1 ก.ย. 2549
ระยะเวลาก่อสร้าง:18 เดือน
4.โครงการก่อสร้างโครงสร้าง บริษัท ซี ที ซี ไอ 132,336,182.40 บาท
เหล็กสำหรับรองรับท่อผลิตภัณฑ์ (ประเทศไทย) จำกัด
ภายในเขตโรงงาน พีทีที ฟีนอล
จ.ระยอง
วันที่เซ็นสัญญา: 1 ก.ย. 2549
ระยะเวลาก่อสร้าง:9 เดือน
5.โครงการก่อสร้างโครงสร้าง บริษัท ซี ที ซี ไอ 115,550,380.90 บาท
เหล็กภายในโรงงาน พีทีที ฟีนอล (ประเทศไทย) จำกัด
จ.ระยอง
วันที่เซ็นสัญญา: 1 ก.ย. 2549
ระยะเวลาก่อสร้าง: 16 เดือน
โดยแต่ละโครงการมีรายละเอียดลักษณะงานก่อสร้างดังนี้
1.โครงการปรับปรุงโรงยิมเนเซี่ยม มหาวิทยาลัยธรรมสาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี
เพื่อรองรับการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ฤดูร้อน ครั้งที่ 24 (พ.ศ. 2550 )
ลักษณะงานก่อสร้างประกอบไปด้วย: ปรับปรุง ซ่อมแซม โรงยิมเนเซี่ยม 1, 2, 4, 5,6 และ 7
ประกอบด้วยงานสถาปัตยกรรม งานระบบสุขาภิบาล งานระบบปรับอากาศ งานระบบไฟฟ้า
2.โครงการก่อสร้างพระตำหนักบรม วโรภาสพิมาน 1 และ 2 เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
ลักษณะงานก่อสร้างประกอบไปด้วย :เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น
ก่อสร้างเป็นพระตำหนักบรมวโรภาส พิมาน 1 และ 2
3. โครงการงานโยธาสำหรับโครงการ พีทีที ฟีนอล จ.ระยอง
ลักษณะงานก่อสร้างประกอบไปด้วย : ฐานรากคอนกรีตสำหรับเครื่องจักร และโครงสร้างคอนกรีต
สริมเหล็กปริมาณ 25,000 ลบ.ม. ถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นที่ 52,000 ตารางเมตร
4.โครงการก่อสร้างโครงสร้างเหล็กสำหรับรองรับท่อผลิตภัณฑ์ภายในเขตโรงงาน
พีทีที ฟีนอล จ.ระยอง
ลักษณะงานก่อสร้างประกอบไปด้วย : จัดซื้อ จัดจ้าง ประกอบ และติดตั้งโครงสร้างเหล็ก
สำหรับรองรับท่อผลิตภัณฑ์ภายในเขตโรงงาน พีทีที ฟีนอล จ.ระยอง
5.โครงการก่อสร้างโครงสร้างเหล็กสำหรับภายในโรงงาน
พีทีที ฟีนอล จ.ระยอง
ลักษณะงานก่อสร้างประกอบไปด้วย : จัดซื้อ จัดจ้าง ประกอบ
และติดตั้งโครงสร้างเหล็กสำหรับภายในโรงงาน พีทีที ฟีนอล จ.ระยอง[/color:9930693cdd">
^_^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #4 วันที่: 09/10/2006 @ 10:55:20 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:d30b5b4055">[b:d30b5b4055">หาวิธีดับร้อนหุ้นแสบ[/b:d30b5b4055">[/u:d30b5b4055">
ตลาดหลักทรัพย์เล็งเพิ่มดีกรีตรวจสอบหุ้นแสบ เดินตามรอยตลาดต่างประเทศ ลดเพดานซิลลิ่งและฟลอร์ออกเกณฑ์ให้โบรกเกอร์คุมออเดอร์ผิดปกติ
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภายหลังการปรับโครงสร้างผู้บริหารโดยย้ายนายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ไปดูแลงานด้านบรรษัทภิบาล และให้งานกำกับและตรวจสอบขึ้นตรงต่อผู้จัดการตลาด ยืนยันว่าคุณภาพในการตรวจสอบหุ้นเก็งกำไรของตลาดหลักทรัพย์ยังคงความเข้มข้นเหมือนเดิม
นอกจากนั้น ขั้นตอนการขึ้นเครื่องหมายต่างๆ ก็ยังเป็นไปตามหลักเกณฑ์เดิมเช่นกัน อาทิ การห้ามซื้อขายแบบ หักกลบค่าซื้อค่าขายหุ้นตัวเดียวกันวันเดียวกัน (เน็ตเซตเทิลเมนต์) และห้าม ซื้อขายด้วยสินเชื่อ (มาร์จิ้น) ผู้จัดการ ตลาดเป็นผู้ลงนามคำสั่งหากพบว่ามีการซื้อขายเข้าเกณฑ์ที่กำหนด
ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์กำลังศึกษาวิธีการดูแลการซื้อขายหุ้นที่มีการ เก็งกำไรสูงๆ โดยมีความสนใจจะนำ วิธีการตรวจสอบและดูแลของตลาดหุ้นต่างประเทศมาใช้ในบางเรื่อง
นางภัทรียา ได้ยกตัวอย่างกรณีไปดูงานที่ตลาดหุ้นเกาหลีว่า บริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) มีการกลั่นกรองรายการซื้อขายผิดปกติ ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น หากพบรายการดังกล่าวให้โบรกเกอร์เตือนนักลงทุน หรือลดวงเงิน ในการให้สินเชื่อเพื่อซื้อขายหุ้น ซึ่งตลาดหลักทรัพย์มีความสนใจจะนำมาใช้
แม้ว่าปัจจุบันตลาดหุ้นไทยจะมีการปฏิบัติตามแนวทางนี้อยู่แล้ว แต่เป็นเพียงการขอความร่วมมือจากโบรกเกอร์เท่านั้น ยังไม่มีการออกเป็นข้อบังคับ
?ปัจจุบันโบรกเกอร์จำนวนหนึ่งได้ทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว แต่ก็มีบางรายที่ไม่ได้ช่วยดูแล ต่อไปตลาดหลักทรัพย์อยากออกเป็นกติกา เพื่อให้โบรกเกอร์ทั้งหมดช่วยดูแลการซื้อขายตั้งแต่ต้นทาง จะช่วยลดภาระการทำงานด้านตรวจสอบหุ้นของตลาดหลักทรัพย์? นางภัทรียา กล่าว
นางนงราม วงษ์วานิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการไปดูงานที่ตลาดหุ้นอินเดีย พบว่า วิธีการลดความร้อนแรงการซื้อขายหุ้นเก็งกำไร ตลาดอินเดียจะจำกัดอัตราเปอร์เซ็นต์การปรับตัวขึ้นลงสูงสุดต่อวัน (ซิลลิ่ง และฟลอร์) โดยให้ช่วงแคบกว่าราคาหุ้นปกติทั่วไป ซึ่งจะทำให้การเก็งกำไรน้อยลงได้ผล
นางนงราม กล่าวว่า ตลาดหุ้นอินเดียยังกำหนดให้หุ้นเก็งกำไรมาซื้อขายผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ ทำให้การดูแลและตรวจสอบใกล้ชิดขึ้นกว่าการ ทำรายการผ่านระบบโบรกเกอร์
[/color:d30b5b4055">
^_^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #5 วันที่: 09/10/2006 @ 10:56:47 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:9956e0b969">[b:9956e0b969">รายใหญ่ฮุบ?ดีอี?60% ส่ง?นอมินี?ถือหุ้นแทน[/b:9956e0b969">[/u:9956e0b969">
?เสี่ยพี? นักลงทุนรายใหญ่ ควงกองทุนต่างชาติดอดเทกโอเวอร์หุ้น DE งานนี้ถือหุ้นขั้นต่ำ 60% สรุปราคา 1.20 บาท คาดกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมขายเกลี้ยง
แหล่งข่าวโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า หุ้นบริษัท ดีอี แคปปิตอล (DE) ราคายังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 1.16 บาทนั้น เนื่องจากมีแรงซื้อเก็งกำไรจากข่าวการครอบงำกิจการ หรือเทกโอเวอร์ของนักลงทุนรายใหญ่ ที่ชื่อ ?เสี่ยพี? ซึ่งเสี่ยคนนี้เข้ามาเก็บหุ้นตั้งแต่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาแล้ว โดยมีเป้าหมายจะเทกโอเวอร์บริษัท ดีอีฯ สัดส่วนเบื้องต้น 60% ของทุนจดทะเบียน
แหล่งข่าวกล่าวว่า การเก็บหุ้นของเสี่ยรายใหญ่จะทำไม่โฉ่งฉ่าง หรือปรากฏตัว แม้กระทั่งการทำรายการซื้อขายรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) ก็ค่อยๆ ทำเว้นวัน วันละ 1-2 รายการ หรือบางครั้งก็ซื้อขายกันในกระดานไม่เป็นที่สังเกตมาก และการเทกโอเวอร์ครั้งนี้จะมีตัวแทน (นอมินี) ถือหุ้น 5-6 คน เพื่อไม่ให้เข้าเกณฑ์การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จากนักลงทุนทั่วไป (เทนเดอร์ออฟเฟอร์)
?ล่าสุดมีการโยนหุ้นกันในกระดาน 3 ล้านหุ้น ราคา 1.15 บาท ก่อนหน้าเพียง 1 วัน ทำบิ๊กล็อต 25 ล้านหุ้น ราคา 1.10 บาท เท่าที่รู้กลุ่มวัฒนสมบัติ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมทิ้งหุ้นขายออกมาแล้ว 4.8% จากทั้งหมดที่ถืออยู่ 10.6%? แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ดีอีฯ ประกอบด้วย 3 กลุ่มหลักๆ คือกลุ่มวัฒนสมบัติ กลุ่มทีฆะคีรีกุล และบริษัท ไดสตาร์ อิเลคทริก คอร์ปอเรชั่น (DISTAR)
?กลุ่มที่คาดว่าจะขายหุ้นออกมาน่าจะเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมทั้ง 3 กลุ่ม โดยมีบางกลุ่มที่ขายหุ้นบางส่วนแล้ว ซึ่งจะ ทยอยแจ้งข้อมูลผ่าน ก.ล.ต.แต่จะไม่ระบุชื่อคนซื้อ เพราะเป็นการขายในกระดานหุ้น ส่วนการขายบิ๊กล็อต ก็ไม่ถึงเกณฑ์ต้องรายงาน จึงไม่ต้องแจ้ง? แหล่งข่าวกล่าว [/color:9956e0b969">
ที่มา โพสทูเดย์
^_^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #6 วันที่: 09/10/2006 @ 12:23:00 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [b:73ef5bc278">[u:73ef5bc278">TUFหุ้นปันผลน่าลงทุน [/u:73ef5bc278">[/b:73ef5bc278">
TUF มองแผนปี 2550 เร่งขยายตลาดส่งออกเพิ่มขึ้น รวมทั้งออกสินค้าใหม่ หวังเปิดช่องทางเพิ่มรายได้ ยอมรับผลงานปีนี้โดนผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่า และต้นทุนที่ขยับสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ฉุดกำไรหดไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่ทำกำไรสุทธิได้กว่า 2,000 พันล้านบาท ส่วนโบรกมองจุดเด่นเป็นหุ้นลงทุนที่มีปันผลสม่ำเสมอ น่าลงทุนระยะยาว ให้เป้าหมาย 27.00 บาท
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด(มหาชน)หรือ TUF เปิดเผยว่า แผนธุรกิจ ในปี2550 บริษัทยังมุ่งเน้นการส่งออกทูน่าแช่แข็ง ,ทูน่า กระป๋อง , กุ้ง ,อาหารกุ้ง , อาหารแมว ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง ในสัดส่วนการส่งออก 90% โดยบริษัทจะพยายามรักษาสัดส่วนการส่งออกในแต่ละธุรกิจให้สามารถดำเนินไปพร้อมๆกัน เพื่อกระจายความเสี่ยงของรายได้
ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนที่จะขยายตลาดส่งออกในกลุ่มคู่ค้ารายใหม่ให้มีความหลากหลายเพิ่มขึ้น แต่การขยายตลาดดังกล่าวนั้นบริษัทก็ยังคงเน้นให้อยู่ในกลุ่มประเทศส่งออกเดิม อย่าง ตะวันออกกลาง ที่มีสัดส่วนส่งออก 10% ,ยุโรป 20% ,สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ประมาณ 50% ฯลฯ และมีแผนจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งในปี 2550 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 10-15%
สำหรับผลการดำเนินของบริษัทในปีนี้ บริษัทคาดบริษัทจะมีกำไรสุทธิลดลงไม่ต่ำกว่า10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิที่กว่า 2,082 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากค่าเงินบาทที่มีการแข็งค่าขึ้น ประกอบกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยจะเห็นได้จากในช่วงครึ่งปีแรกที่ลดลงกว่า 20% ขณะที่รายได้ในปีนี้คาดว่ายังคงเติบโตได้ประมาณ 10% จากปีก่อนที่รายได้อยู่ที่ 54,017 ล้านบาท
นางสาวสุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง(ประเทศไทย)จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า หากพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของTUF แล้วยังมีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะธุรกิจส่งออกอย่างทูน่า และกุ้ง ฯลฯ ยังคงมีปริมาณความต้องการสูงในต่างประเทศ และยังเป็นหุ้นที่มีการจ่ายการเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นแนะนำ?ซื้อลงทุน? โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 27.00 บาท
ส่วนประมาณการผลการดำเนินงานในปี 2549 คาดว่าจะปรับลดลงเหลือ 1,650 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิประมาณ 2,082 ล้านบาท เพราะได้รับผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ราคาหุ้น TUF ล่าสุด(6ต.ค.) ปิดตลาดทรงตัวที่ 23.90 บาท และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 11 ล้านบาท
ที่มา : ทันหุ้น
[/color:73ef5bc278">
^_^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #7 วันที่: 09/10/2006 @ 12:24:49 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:1e72f13e63">[b:1e72f13e63">NWR เซ็นสัญญาก่อสร้างโครงการกับกทม.มูลค่า 415 ลบ. [/b:1e72f13e63">[/u:1e72f13e63">
นางวัฒนา สัมนาวงศ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) เปิดเผยว่า ล่าสุดได้ลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างกับกรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการก่อสร้างภายในเขตวังทวีวัฒนา
ลักษณะงาน ประกอบด้วยการก่อสร้างอาคารอัลฟ่า น. ซึ่งเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น ดาดฟ้า 1 ชั้น พื้นที่ประมาณ 3,900 ตารางเมตร, อาคารทวีวัฒนาอัลฟ่า น.2 ซึ่งเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น ดาดฟ้า 1 ชั้น และ หลังคา พื้นที่ประมาณ 9,300 ตารางเมตร
นอกจากนี้ยังมีอาคารโรงยิมถาวร ซึ่งเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 1 ชั้น พื้นที่ประมาณ 436 ตารางเมตร, โรงยิมเดิม (บางส่วน) ซึ่งเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 1 ชั้น ดาดฟ้า 1 ชั้น และ ลานจอดรถ รั้ว ระบบระบายน้ำ ภายนอกอาคารอัลฟ่า น.
รวมมูลค่าโครงการ 415 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 120 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2549 ถึงวันที่ 26 มกราคม 2550
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา
^_^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #8 วันที่: 09/10/2006 @ 12:37:22 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:e810f61da0">[b:e810f61da0">BTเจาะกลยุทธ์การลงทุน [/b:e810f61da0">[/u:e810f61da0">
สำนักวิจัยธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน)หรือBT ประเมินภาวะดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์นี้(9-13 ต.ค.49) คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ถึงปรับตัวลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากอาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมา หลังจากดัชนีหุ้นไทยได้ปรับตัวขึ้นในช่วงสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศมีความชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ ประกอบกับการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ โดยคาดว่าดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์นี้จะมีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 700 - 705 จุด และมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 680 จุด
สำหรับมูลค่าการซื้อขายคาดว่าจะอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนรอดูการรายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนก.ย. ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากระดับ 73.2 ในเดือนส.ค. รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ โดยกลยุทธ์การลงทุนทางเทคนิคในสัปดาห์นี้คือการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น อาทิเช่น กลุ่มธนาคาร(BBL,KBANK,SCB) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์(QH,SPALI,PRIN,NOBLE) และกลุ่มหลักทรัพย์(PHATRA,KEST) เป็นต้น
ค่าเงินบาทเคลื่อนไหว37.40 ? 37.70 บาท
สำนักวิจัยมองว่าค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 37.40 ? 37.70 บาท/ดอลลาร์ ไม่แตกต่างจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากตลาดยังรอดูความชัดเจนของคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของไทยที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามในส่วนของดอลลาร์ถูกกดดันจากการคาดว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 125,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ย. ลดลงจาก 128,000 ตำแหน่งในเดือน ส.ค. และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ 4.7% ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าว ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอในช่วงก่อนหน้านี้ มีแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมที่ 5.25%
คาดบีโอเจตรึงอัตราดอกเบี้ย ระดับ 0.25% ต่อ
ธนาคารกลางญี่ปุ่น ( บีโอเจ ) จะมีการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดีและศุกร์ที่ 12 และ 13 ต.ค.นี้ สำนักวิจัย มองว่า จากรายงานสำรวจภาคธุรกิจของธนาคารกลางญี่ปุ่น (Tankan) ล่าสุดที่ชี้ว่า บริษัทของญี่ปุ่นมีแผนจะเร่งเพิ่มการใช้จ่ายมากที่สุดในรอบ 16 ปี ส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังมีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่องดังที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่นคาดไว้เมื่อ 6 เดือนก่อน และจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นยังมีแนวโน้มสูงขึ้น
อย่างไรก็ดีมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจจะยังไม่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังต่ำ อีกทั้งธนาคารกลางญี่ปุ่นเพิ่งปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นไปที่ 0.25% เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาภายหลังจากที่อัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นอยู่ที่ระดับใกล้ศูนย์มาเป็นเวลานาน ซึ่งหากเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปอาจส่งผลลบต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่เพิ่งฟื้นตัวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาภายหลังจากที่เศรษฐกิจตกต่ำต่อเนื่องในช่วงหลายปีก่อนหน้านั้น
แนวโน้มตลาดตราสารหนี้
ส่วนภาวะการซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์นี้(9-13 ต.ค.49) คาดว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนตลาดตราสารหนี้ไทย ทั้งนี้ ทิศทางของอัตราผลตอบแทน US Treasury ในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางที่ค่อนข้างผันผวนหลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมาคมเศรษฐกิจในกรุงวอชิงตันว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯอยู่ในช่วงปรับฐานลง ซึ่งจะส่งผลให้จีดีพีสหรัฐฯขยายตัวในอัตราที่เชื่องช้าลงด้วย
ในขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ทยอยประกาศออกมาไม่ได้สะท้อนถึงความอ่อนแอมากนัก อาทิ ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นมากเกินคาด จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลง รวมไปถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานที่ทรงตัว จากปัจจัยดังกล่าวอาจทำให้อัตราผลตอบแทน US Treasury มีแนวโน้มเคลื่อนไหวเชิงผันผวนไปตามการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจ และส่งผลให้อัตราผลตอบแทนตลาดตราสารหนี้ไทยเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันด้วย
ที่มา : ทันหุ้น[/color:e810f61da0">
^_^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #9 วันที่: 09/10/2006 @ 12:38:42 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:ae5bba53bb">[b:ae5bba53bb">ดัชนีฮั่งเส็งร่วง 274.59 จุดหลังเกาหลีเหนือประกาศทดสอบนิวเคลียร์ [/b:ae5bba53bb">[/u:ae5bba53bb">
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลง 274.59 จุด เมื่อเวลา 11.03 น.ตามเวลาท้องถิ่นในฮ่องกงวันนี้ หลังจากที่เกาหลีเหนือประกาศว่า ได้ทดสอบนิวเคลียร์ในช่วงเช้าวันนี้ ส่งผลให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยไปทั่วภูมิภาคและยังทำให้เกิดความตึงเครียดทางการเมืองยิ่งขึ้น
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า เมื่อเวลา 11.03 น. ดัชนีฮั่งเส็งร่วง 274.59 จุด หรือ 1.53% อยู่ที่ระดับ 17,628.80 แตะระดับต่ำที่ 17,589.12 และระดับสูงที่ 17,876.04 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.10 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง
แอนดรูว์ ซัลลิแวน หัวหน้าฝ่ายขายประจำไดว่า ซิเคียวริตี้ส์ เอสเอ็มบีซี ฮ่องกอง กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่ดัชนีร่วงลงวันนี้มาจากรายงานเรื่องการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ไม่มีใครรูว่าปัญหาทางการเมืองจะเกิดขึ้นอีกยาวนานเท่าไน นักลงทุนจำนวนมากได้ใช้รายงานข่าวนี้เป็นข้ออ้างในการทำกำไรหลังจากที่ดัชนีได้พุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็วๆนี้
ซัลลิแวนกล่าวต่อไปว่า เกาหลีเหนืออาจจะพยายามกดดันสหรัฐฯ เนื่องจากเกาหลีเหนือถูกกดดันอย่างหนักจากสหรัฐฯที่ได้ระงับบัญชีของเกาหลีเหนือในธนาคารสหรัฐฯหลายแห่ง
^_^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #10 วันที่: 09/10/2006 @ 12:40:00 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:d73c2e5fc5">[b:d73c2e5fc5">หุ้น ITV รูด 2.90% หลังมีข่าวอัยการสูงสุดเห็นพ้องสปน.ระบุ ITV ผิดสัญญา [/b:d73c2e5fc5">[/u:d73c2e5fc5">
หุ้น ITV ราคารูดลง 2.90
% มาอยู่ที่ 2.68 บาท ลดลง 0.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 1.9 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.17 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.66 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.68 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.66 บาท
เช้านี้ หนังสือพิมพ์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า อัยการสูงสุดส่งหนังสือตอบกลับมายังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.)กรณี บมจ.ไอทีวี (ITV)โดยระบุว่าการดำเนินการของสปน.เป็นประโยชน์ต่อภาครัฐ ดังนั้น อสส.จึงไม่จำเป็นต้องแสดงความเห็นชี้แนะอีก
แหล่งข่าวระบุอีกว่าความหมายของอัยการสูงสุด คือหลังศาลปกครองกลางตัดสินเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ สปน.ได้ทำหนังสือแจ้งไอทีวีให้กลับมาดำเนินการตามสัญญาร่วมการงานเดิม ซึ่งหมายถึงค่าปรับกรณีผิดสัญญาผังรายการด้วย แต่เรื่องนี้ความคิดเห็นระหว่างสปน.และไอทีวีไม่ตรงกัน ก็คงต้องให้ศาลปกครองสูงสุดตัดสิน
ทั้งนี้ สปน.จะเสนอให้นายรองพล เจริญพันธุ์ รักษาการปลัดสปน.เรียกประชุมคณะกรรมการประสานงานเพื่อแก้ไขข้อพิพาทในสัญญาร่วมการงานและดำเนินกิจการสถานีวิทยุโทรทัศน์ระหว่างสปน.และไอทีวีในเร็วๆนี้ เพื่อกำหนดทีท่าต่อไป
^_^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #11 วันที่: 09/10/2006 @ 12:40:54 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:4adb404bb1">[b:4adb404bb1">หุ้น PAE พุ่ง 58.46% หลังย้ายกลับเข้าเทรดวันแรก โบรกฯแนะหลีกเลี่ยง [/b:4adb404bb1">[/u:4adb404bb1">
หุ้น PAE บวก 58.46% ราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ 2.06 บาท เพิ่มขึ้น 0.76 บาท (เมื่อเวลา 10.26น.)เปิดตลาดที่ 2.00 บาทจากราคาปิดครั้งสุดท้าย 1.30 บาท และเช้านี้ราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 2.32 บาท
ตลท. ให้ บมจ.พีเออี (ประเทศไทย) (PAE) พ้นเหตุเพิกถอน พร้อมทั้งปลดเครื่องหมาย SP และ NC และอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์ของ PAE ในหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (กลุ่มอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง) ได้ตั้งแต่วันนี้ (9 ต.ค.49) เป็นต้นไป
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคินซัน กล่าวว่า หุ้น PAE ในแง่พื้นฐานยังต้องดูต่อไปเพราะเพิ่งกลับมาและเพิ่งเพิ่มทุน ขณะที่ BV อยู่ที่ 0.70 บาท ถือว่าต่ำ จึงมองราคาหุ้นแพงเกินไป ขณะที่ผลการดำเนินยังไม่ดี
ราคา ณ ตรงนี้ถือว่าเสี่ยง แนะนักลงทุนให้หลีกเลี่ยงการลงทุนไปก่อน นายรณกฤต กล่าว
[/color:4adb404bb1">
^_^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #12 วันที่: 09/10/2006 @ 12:42:26 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:ba5e925686">[b:ba5e925686">สรุปข่าวตลาดเงิน-ทุน หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ [/b:ba5e925686">[/u:ba5e925686">
อุ๋ยมั่นใจทุนสำรองปึ้กรับความผันผวน ธปท.ส่งซิกอ้าแขนรับทุนนอกไหลเข้า
ธปท.พร้อมรับมือเงินทุนเคลื่อนย้ายจากสหรัฐสู่เอเชีย ที่ไหลเข้าตลาดเงิน-ตลาดทุนต่อเนื่องถึงปีหน้า โดยมุ่งดูแลไม่ให้การไหลเข้าออกผันผวน แต่ขณะเดียวกันไม่ฝืนกระแสโลก เผยที่ผ่านมาลงทุนในตราสารหนี้ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ มั่นใจทุนสำรองประเทศพอชำระหนี้ระยะสั้น ตปท.หากออกพร้อมกัน และเชื่อมั่น ไม่เทขายหุ้นรวดเดียว
AIA ส่งแพ็กเกจประกันโรคร้าย เร่งเพิ่มฐานลูกค้าชิงแชร์ปลายปี
เอไอเอ เตรียมออกแพ็กเกจประกันโรคร้ายแรงช่วงปลายปี หลังผลสำรวจดัชนี ไลฟ์แมทเทอร์ส ระบุคนไทยกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงทางด้านการเงิน ขาดการเตรียมความพร้อมสำหรับค่ารักษาพยาบาลโรคร้ายแรง เล็งเพิ่มสัดส่วนผู้ถือหุ้นประกันสุขภาพโรคร้ายแรงเพิ่มเป็น 11-12%
จูงใจย้ายฝากประจำเข้าเซฟวิ่งดบ.ต่ำ ธนชาตเดินแผน 2 ชูแคมเปญออมทรัพย์
แบงก์ธนาชาตเดินแผนสอง อยู่ได้อย่างมีเสถียรภาพ หลังสเต็ปแรกประสบความสำเร็จเงินฝากประจำแพง กวาดลูกค้าเข้าพอร์ตเพียบส่งแคมเปญ ออมทรัพย์รับทอง 100 วัน 100 รางวัล จูงใจลูกค้าด้วยฝ้ายฝากประจำมาฝากออมทรัพย์ ลดภาระดอกเบี้ยจ่าย จาก 5-5.75% เหลือ 3% หนุนมาร์จิ้นปี 50 อยู่ที่ 3% พร้อมเข้มเพิ่มมาตรการทวงหนี้ คุม NPL ไม่เกิน 1.3%
ธนส.จับมือ JBIC ปล่อยกู้เอกชนผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพข้ามโขง
ธนส.ควง JBIC หนุนปล่อยกู้นักธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น ลงทุนข้ามโขง ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ ณรงค์ชัย แนะ ครม.ชุดใหม่ ฉวยจังหวะนี้ปรับโครงการสร้างการเกษตรไทย เปิดประตูการค้าเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน
[/color:ba5e925686">
^_^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #13 วันที่: 09/10/2006 @ 13:02:52 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:4f6243df8f">[b:4f6243df8f">หุ้นแม่-ลูก ERAWAN บวก-คึกคัก โบรกฯชี้เทคนิคฟื้น-อนาคตเติบโตสูง [/b:4f6243df8f">[/u:4f6243df8f">
หุ้น ERAWAN-W ราคาวิ่งขึ้น 6.54% มาอยู่ที่ 1.14 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท มูลค่าซื้อขาย 48.82 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.11 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.08 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.18 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.07 บาท
ขณะที่หุ้นแม่ ERAWAN วิ่งขึ้น 1.04% มาอยู่ที่ 3.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท มูลค่าซื้อขาย 4.41 ล้านบาท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.สินเอเซีย แนะซื้อหุ้น ERAWAN-W ระยะสั้น ถึงเพิ่งเข้าไม่นานแต่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวจากเครื่องมือเทคนิคในกราฟรายวัน และจากการยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้นในกราฟ 30 นาที โดยให้แนวรับ 1.05 บาท แนวต้าน 1.10 บาท และมีจุด Stop Loss 1.04 บาท
ขณะที่ บล.กรุงศรีอยุธยา ได้แนะซื้อ หุ้น ERAWAN เพื่อ Capital Gain เป็นหลัก โดยให้มูลค่าพื้นฐานสำหรับปี 50 ที่ 5.11 บาท ทั้งนี้ มองศักยภาพสูงสำหรับการเติบโตของผลประกอบการในอนาคตจากการขยายการลงทุนบวกกับภาวะอุตสาหกรรมที่เอื้อต่อการเติบโต แม้ว่าการเพิ่มทุนจะส่งผลต่อ Dilution Effect ประมาณ 13% และอัตราตอบแทนเงินปันผลอยู่ในระดับต่ำ 1.2-1.4% ในปี 49-50
เม็ดเงินเพิ่มทุนบวกกับ EBITDA ที่คาดการณ์ไว้ในอีก 3 ปีข้างหน้าประมาณ 1.2-1.7 พันล้านบาทต่อปี ช่วยสนับสนุนงบการขยายลงทุน ส่วนผลประกอบการปี 49 ได้รับผลดีจากการลงทุนปรับปรุงสินทรัพย์อย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการรับรู้รายได้อย่างเต็มที่จาก Renaissance เกาะสมุย และการปรับขึ้นค่าเช่าทั้งในส่วนของโรงแรมและอาคารสำนักงาน
รวมทั้ง คาดการณ์อัตราเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 10-11% ต่อปี โดยมีนักท่องเที่ยวจีนและอินเดียเป็นกลุ่มที่มีอัตราเติบโตสูงตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศ
Source - IQ Biz
[/color:4f6243df8f">
^_^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #14 วันที่: 09/10/2006 @ 13:13:36 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:ce1e832410">[b:ce1e832410">SATTEL บ.ในเครือเปิดบริการใหม่โทรทางไกลต่างประเทศในกัมพูชาผ่าน VoIP [/b:ce1e832410">[/u:ce1e832410">
นายจิโรจน์ ศรีนามวงศ์ ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท แคมชิน จำกัด บริษัทฯ ในสายธุรกิจต่างประเทศของ บมจ. ชินแซทเทลไลท์ (SATTEL) ซึ่งให้บริการโทรศัพท์มือถือใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศกัมพูชา เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวบริการใหม่ ซึ่งเป็นบริการโทรทางไกลต่างประเทศผ่านระหัส ?005? สำหรับประเทศกัมพูชา เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการโทรออกต่างประเทศ
บริการดังกล่าวของบริษัทฯ สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการโทรไปต่างประเทศจากอัตราปกติได้ถึง 25-50% ซึ่งช่วยเพิ่มประ
สิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจข้ามชาติ อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้สามารถติดต่อสื่อสารกับต่างประเทศได้มากขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่าย
บริษัทฯ มั่นใจว่าผู้ใช้บริการโทรทางไกลต่างประเทศผ่าน?005?จะได้รับความพึงพอใจในคุณภาพของเสียงที่ผ่านระบบ VoIP ดังกล่าว โดยลูกค้าจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างจากโทรศัพท์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน การใช้งานง่ายเพียงกดระหัส ?005? แล้วตามด้วยเลขหมายปลายทางต่างประเทศที่ต้องการ ก็สามารถเข้าใช้บริการโทรทางไกลในระบบ VoIP ไปทั่วโลก
บริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสเติบโตอีกมากมายในธุรกิจการให้บริการโทรศัพท์มือถือ และบริการโทรทางไกลต่างประเทศในกัมพูชา
จะเห็นได้ว่าหลังจากเปิดให้บริการโทรทางไกลกด ?005? ไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่ามีผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี?
[/color:ce1e832410">
^_^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #15 วันที่: 09/10/2006 @ 13:42:05 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:1c1a177998">[b:1c1a177998">สรุปข่าวการเงิน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ [/b:1c1a177998">[/u:1c1a177998">
แบงก์สกัดเงินฝากครบดิว เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่รั้งลูกค้ารายย่อย-ใหญ่แปรพักตร์
แบงก์สกัดลูกค้าเงินฝากไหลออกช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนปิดงบปี 49 เปิดตัวผลิตภัณฑ์เงินฝากจ่ายอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ยูโอบีอัดแคมเปญดึงลูกค้า ยูโอบี 3-พลัส จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 5 % ขณะที่ ไทยธนาคาร เปิดตัว เงินฝากเพิ่มค่า ปลอดภาษีแบบมีประกันอุบัติเหตุ ด้านธนชาตออก 100วัน100รางวัล หวังขยายฐานเงินฝากออมทรัพย์ ส่วนนครหลวงไทยเปิดรับเงินฝาก 7 วันตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป ด้านแบงก์กรุงเทพยันตรึงดอกเบี้ยจนถึงสิ้นปี 49
ตลาดอนุพันธ์ฯลุยหนักเพิ่มสินค้าปี50 เปิดซื้อขาย SET50 อินเด็กซ์ ออพชัน
บมจ. ตลาดอนุพันธ์ฯ มีแผนเปิดให้ซื้อขายสินค้าใหม่ SET50 อินเด็กซ์ ออฟชั่น ภายในปีหน้า ตั้งเป้ามูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 5,500-6,000 สัญญาต่อวัน ส่วนนักลงทุนสถาบันยังเมิน เหตุตลาดยังขาดสีสัน เสนอไอเดียเปิดให้ซื้อขายเซ็คเตอร์ อินเด็กซ์
ธอส.ประเคนเงินกู้ลูกค้าเก่า ปรับเกณฑ์รับจำนองบ้าน กลางต.ค.นี้ให้กู้เพิ่มจาก50%เป็น80%ของราคาประเมิน
บอร์ดธอส.ไฟเขียวปรับเงื่อนไขเพิ่มวงเงินให้กู้รับจำนองบ้าน จาก 50% เป็น 80% ของราคาประเมิน เจาะกลุ่มลูกค้าเดิมที่หมดภาระหนี้และใกล้หมดภาระหนี้ ดีเดย์กลางเดือนตุลาคมนี้ แจงเป็นการรักษาฐานลูกค้าและอำนวยความสะดวกเพิ่ม ไม่ได้เลียนแบบโปรดักส์แบงก์พาณิชย์ เล็งร่อนหนังสือเชิญลูกค้าใช้วงเงิน หลังพบ
บลจ.ปั่ดฝุ่นขายกองทุนหุ้น เอ็มเอฟซี เปิดจองซื้อ 9-18 เดือนนี้ ? บลจ.ทหารไทยลุย อินฟาสตรัคเจอร์ฟันด์
สัญญาณโปรดักส์กองทุนหุ้นมาแล้ว หลังการเมืองคลี่คลาย บลจ.งัดกองทุนที่ค้างเติ่งออกขาย เอ็มเอฟซี นำร่องดีเดย์ ขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี แฮปปี้ ดี ไฟฟ์ ฟันด์ 5 ซึ่งเป็นกองทุนพันธุ์ผสม ขาย 9-18 ตุลาคมนี้ จองซื้อขั้นต่ำหมื่นบาท บลจ.ทหารไทยเปิดลิ้นชักหยิบกองทุนอินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์ มูลค่าโครงการพันล้าน ศึกษาต่อ คาดต้นปีหน้าคลอดแน่ ส่วนบลจ.อยุธยา เผยปีนี้ออกแน่กองทุนผสมแบบยืดหยุ่น คาดปี 50 หุ้นให้ผลตอบแทน 10 %
อุ๋ยเตือนอีกรอบรับมือเงินทุน ลากยาวถึงสิ้นปี 50 เป็นอย่างน้อย
ตัวเลขทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ วันที่ 29 กันยายน 2549 ที่ยังสูงอยู่ที่ระดับ 61.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ น่าจะเป็นการการันตีความเชื่อมั่นต่อคำยืนยันของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ดีที่สุดว่า เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพเพียงพอรองรับการไหลออกของเงินลงทุนจากต่างประเทศไทย
^_^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #16 วันที่: 09/10/2006 @ 13:43:30 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:b87512f0f9">[b:b87512f0f9">ADVANC ร่วง 4.09% ช่วงสั้นถูกกดดันจากคาดกำไร Q3/49 ชะลอ-สอบนอมินี SHIN[/b:b87512f0f9">[/u:b87512f0f9">
หุ้น ADVANC ราคาร่วงลง 4.09% มาอยู่ที่ 82 บาท ลดลง 3.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 86.13 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.29 น. โดยเปิดตลาดที่ 84 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 84 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 81 บาท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุว่า ราคาหุ้น ADVANC คาดว่าจะยังคงถูกกดดันในระยะนี้ เนื่องจาก แนวโน้มกำไรชะลอตัวในไตรมาส 3/49 รวมถึงการตรวจสอบกรณีนอมีนีของ SHIN อย่างไรก็ดี ด้วยโอกาสได้ประโยชน์จากระบบค่าเชื่อมโยงฯ อีกทั้งสัมปทานที่เชื่อว่าจะไม่มีการยกเลิก และอัตราเงินปันผลตอบแทน 7.4% ประกอบกับราคาเหมาะสมที่ 98 บาทตามวิธีคิดลดกระแสเงินสด จึงแนะซื้อลงทุนหลังจากที่ราคาหุ้นอ่อนตัวในระยะสั้น
ทั้งนี้ ประมาณการว่า ADVANC จะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/49 มีกำไร 3.9 พันล้านบาท ตกลง 5% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูงขึ้นในขณะที่รายได้มีแนวโน้มคงที่จากสมมติฐานลูกค้าเพิ่มสุทธิ 335,000 เลขหมายและรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) ที่ชะลอตัว
ขณะเดียวกัน นสพ.ระบุว่า ดีแทค ได้ออกโปรโมชั่นโทรครั้งละ 1 บาท ให้กับลูกค้าใหม่ และก่อนหน้านี้ก็มีโปรโมชั่นนาทีละ 25 สตางค์ ให้กับลูกค้าทั้งใหม่และเก่า เพื่อป้องกันการไหลออกของลูกค้าของดีแทค ขณะที่ แหล่งข่าวจาก TRUE MOVE ได้ระบุว่า มีแผนออกโปรโมชั่นตอบโต้เอไอเอสภายในสัปดาห์นี้เช่นกัน โดยจะเป็นโปรโมชั่นช็อคตลาดด้วย และถือเป็นการตอบโต้ที่รุนแรง [/color:b87512f0f9">
^_^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #17 วันที่: 09/10/2006 @ 14:40:57 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:a2c4b0fb05">[b:a2c4b0fb05">PTTEP ลบเกือบ 1% โบรกฯคาดกำไร Q3 ลด/หลุม M9 ในพม่าสำรวจไม่คุ้มค่า[/b:a2c4b0fb05">[/u:a2c4b0fb05">
ราคาหุ้น PTTEP ปรับลง 0.93% มากกว่าตลาด มาอยู่ที่ 106 บาท ลบ 1.00 บาท เมื่อปิดตลาดช่วงเช้า มูลค่าซื้อขายหนาแน่นถึง 135.6 ล้านบาท โดยเป็นราคาต่ำสุดจากราคาเปิดตลาดที่ 107 บาท
บล.ยูไนเต็ด แนะนำ ซื้อ หุ้น PTTEP เมื่ออ่อนตัวที่ราคา 100 ลงมา จากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวต่ำกว่า 60 เหรียญฯ/บาร์เรล และกำไรสุทธิ 3Q49 คาดว่าจะปรับลดลง โดยให้ราคาเป้าหมายปี 49 ที่ 117 บาท
กำไรสุทธิ 3Q49 คาดว่าลดลง 4% QoQ และ 2%YoY โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาขายเฉลี่ยที่คาดว่าลดลงเล็กน้อย ปริมาณขายใกล้เคียงกับ 2Q49 ที่ 171,662 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ/วัน (BOED) เป็นผลจากการผลิตในโครงการโอมาน 44 เกิดความล่าช้าต้องเลื่อนจากเดิมที่เริ่มผลิตในเดือน ก.ค.ไปในเดือน ต.ค. โดยมีปริมาณผลิตที่ 40 ล้านลบ.ฟุต/วัน
และยังมีการบันทึกค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากหลุมสำรวจ 1 แห่งของแหล่ง M9 ในพม่าที่พบว่าไม่คุ้มค่าในเชิงพาณิชย์ โดยประเมินเบื้องต้นไว้ประมาณ 400 ล้านบาท (10 ล้านเหรียญฯ)
ประกอบกับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอ่อนตัว จากความต้องการใช้ที่ชะลอตัว โดยราคาน้ำมันดิบ (ดูไบ) ได้ปรับตัวลดลงมาต่ำกว่า 60 เหรียญฯ/บาร์เรล ทำให้ OPEC จะปรับลดปริมาณผลิตลง 1 ล้านบาร์เรล/วัน (4% ของปริมาณผลิตทั้งกลุ่มที่ 28 ล้านบาร์เรล/วัน) เพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบดูไบให้อยู่ที่ 50-55 เหรียญฯ/บาร์เรล
^_^[/color:a2c4b0fb05"> |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #18 วันที่: 09/10/2006 @ 18:49:13 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:2cd9c8ca10">[b:2cd9c8ca10">รอราคาน้ำมัน-การเมืองชัด หนุนต่างชาติซื้อสุทธิเพิ่มขึ้น คาดบาทแกว่ง 37.40-37.70 [/b:2cd9c8ca10">[/u:2cd9c8ca10">
ปมการเมืองยังกดดัน ชี้ประเด็นตั้งทีมเศรษฐกิจรัฐบาลออกมาตามคาด เชื่อไม่ส่งผลบวกลบต่อตลาดรุนแรง หวังแรงซื้อต่างชาติหนุนต่อเนื่องดันดัชนีฯ ประเมินแนวโน้มดัชนีหุ้นแกว่งแคบๆ จับตาปัจจัยราคาน้ำมันเป็นสำคัญ ด้านค่าเงินบาทคาดจะแกว่งที่ระดับ 37.40 - 37.70 บาท/ดอลลาร์
นายชัย จิรเสรีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ (9-13 ต.ค.) ว่า ดาดดัชนีจะยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ และคงจะปรับตัวขึ้นไปได้ไม่มาก เนื่องจากนักลงทุนยังคงติดตามประเด็นเรื่องของการแต่งตั้งคณะรัฐมตรีชุดใหม่ รวมไปถึงเรื่องของการตรวจสอบคดีทุจริตสนามบินสุวรรณภูมิ ซีทีเอ็กซ์ และแอร์พอร์ตลิ้งค์ ปัจจัยเหล่านี้ยังคงเป็นตัวกดดันให้ดัชนีฯปรับตัวไปไหนได้ไม่ไกล ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศนั้น ยังต้องติดตามประเด็นอิหร่านในเรื่องของเทคโนโลยีอาวุธนิวเคลียร์ สำหรับทิศทางของนักลงทุนต่างประเทศนั้น มองว่าเริ่มที่จะเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่อาจจะเลือกลงทุนเป็นรายเซ็กเตอร์ เช่น กลุ่มแบงก์และกลุ่มพลังงาน ดังนั้นจึงประเมินกรอบแนวรับอยู่ที่ 685-687 จุด ส่วนแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 700-705 จุด
นายสิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด หรือ ZMICO กล่าวให้ความเห็นว่า คาดว่าตลาดยัง Side Way แกว่งตัวผันผวนแคบๆในกรอบ 680-705 จุด ถ้าปรับตัวลงให้ซื้อลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่มีประเด็นเรื่องที่โอเปคจะลดปริมาณการผลิตลง ขณะที่กลุ่มน้ำมันรอราคาปรับลงมากกว่านี้ค่อยเข้าซื้อ ส่วนหุ้นกลุ่มสื่อสารควรรอแพนนิคก่อน ตราบใดที่ยังไม่ชัดเจนในเรื่องของกลุ่ม SHIN ให้น้ำหนักว่าตลาดน่าจะตามทิศทางตลาดต่างประเทศมากกว่า ปัจจัยในประเทศ ต้องจับตามองในเรื่องการประกาศการจ้างงานภาคเกษตรของสหรัฐฯ เป็นตัววัดว่า เศรษฐกิจในสหรัฐฯชะลอตัวหรือไม่ โดยถ้ามีการจ้างงานต่ำกว่าจะเป็นสัญญาณไม่ดีน่าจะขายทำกำไรออกมา
ทั้งนี้ ยังคงต้องดูในเรื่องของราคาน้ำมันว่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไร ขณะที่ปัจจัยในประเทศอย่างการเมืองที่น่าจะเผยโฉมหน้าของคณะรัฐบาลออกมา ซึ่งจะต้องดูว่าใครจะมาเป็นผู้ดูแลเรื่องเศรษฐกิจของประเทศด้วย โดยถ้าผู้ที่เข้ารับตำแหน่งเป็นผู้มีประสบการณ์เรื่องการเงิน และเศรษฐกิจน่าจะช่วยให้การลงทุนในประเทศมีการเติบโตมากขึ้น
คาดดัชนีหุ้นแนวโน้มปรับตัวลง
รายงานจากสำนักวิจัย ธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) สำนักวิจัยมองว่าในสัปดาห์นี้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ถึงปรับตัวลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากอาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมา หลังจากดัชนีหุ้นไทยได้ปรับตัวขึ้นในช่วงสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศมีความชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ ประกอบกับการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ โดยคาดว่าดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์นี้จะมีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 700 - 705 จุด และมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 680 จุด สำหรับมูลค่าการซื้อขายคาดว่าจะอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนรอดูการรายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ก.ย. ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากระดับ 73.2 ในเดือน ส.ค. รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ โดยกลยุทธ์การลงทุนทางเทคนิคในสัปดาห์นี้คือการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น อาทิเช่น กลุ่มธนาคาร (BBL,KBANK,SCB) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (QH,SPALI,PRIN,NOBLE) และกลุ่มหลักทรัพย์(PHATRA,KEST) เป็นต้น
คาดเงินบาทแกว่ง 37.40 - 37.70
ด้านค่าเงินบาท สำนักวิจัยมองว่าค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 37.40 - 37.70 บาท/ดอลลาร์ ไม่แตกต่างจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากตลาดยังรอดูความชัดเจนของคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของไทยที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามในส่วนของดอลลาร์ถูกกดดันจากการคาดว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 125,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ย. ลดลงจาก 128,000 ตำแหน่งในเดือน ส.ค. และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ 4.7% ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าว ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอในช่วงก่อนหน้านี้ มีแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมที่ 5.25%
โดย กระแสหุ้น
^-^ |
| | กลับขึ้นบน |
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #19 วันที่: 09/10/2006 @ 18:57:07 : re: " ข่าวสด 9 ตุลา...." [u:fdc5e7a8c1">[b:fdc5e7a8c1">ตลท.พอใจ SET Visit เวิร์ค เจาะกลุ่มผู้ลงทุนใหม่ได้[/b:fdc5e7a8c1">[/u:fdc5e7a8c1">
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยโครงการ SET Visit ที่จัดร่วมกับ 24 โบรกเกอร์ชั้นนำ ตั้งแต่ต้นปี 2549 เป็นต้นมา โดยการจัดบรรยายให้ความรู้แบบใกล้ชิดที่เน้นเจาะกลุ่มผู้ลงทุนหน้าใหม่ที่ไม่เคยลงทุนมาก่อน ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนที่เข้าร่วมกิจกรรม เปิดบัญชีซื้อขายใหม่กว่าร้อยละ 25 พร้อมเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม SET Visit เพื่อฟังการบรรยายและรับเอกสารเพื่อการลงทุนและของที่ระลึกในงาน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ www.set.or.th
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สายงานศูนย์ระดมทุน เปิดเผยว่า โครงการ SET Visit เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเข้าถึงผู้ลงทุนหน้าใหม่ที่เป็นลูกค้าเป้าหมายของบริษัทสมาชิก ได้แก่ กลุ่มพนักงานบริษัทและรัฐวิสาหกิจ กลุ่มที่มี Lifestyle ต่างๆ อาทิ ผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬา ผู้ที่รักการอ่านหนังสือ รวมทั้งผู้สนใจ ทั่วไป โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทสมาชิก จะร่วมกันจัดบรรยายและให้ข้อมูลการลงทุนเพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ลงทุน พร้อมทั้งการออกบูธให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญการลงทุนเป็นประจำทุกเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ปัจจุบันได้รับการตอบรับจากบริษัทสมาชิกที่จะเข้าร่วมโครงการแล้ว 24 แห่ง
SET Visit ได้รับการตอบรับดีทั้งจากบริษัทสมาชิกและผู้ลงทุนที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยจากการจัดงาน SET Visit จำนวน 16 ครั้ง ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 900 ราย และมีผู้ที่ตัดสินใจเปิดบัญชีซื้อขายใหม่ประมาณ 200 คน ในขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการ SET Visit ยังได้สร้างความคุ้นเคยและสัมพันธภาพที่ดีแก่ลูกค้าของตน และที่สำคัญคือทำให้ผู้ที่ไม่เคยลงทุนมาก่อน มีข้อมูลที่จะตัดสินใจเป็นลูกค้าในอนาคตของบริษัทหลักทรัพย์ได้ง่ายขึ้น นายวิเชฐกล่าว
สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้เคยร่วมจัดงาน SET Visit กับตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วมีรวม 7 แห่ง ได้แก่ บล. กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) บล. ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) บล.พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บล.เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) บล. สินเอเซีย จำกัด บล. กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บล. ธนชาต จำกัด (มหาชน) และ บล. นครหลวงไทย จำกัด
ทั้งนี้ กิจกรรม SET Visit จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน สำหรับในเดือนตุลาคมนี้ มีการจัดงานรวม 6 ครั้ง คือ วันอังคารที่ 3 ตุลาคม 2549 ตั้งแต่เวลา 09.30 - 14.00 น. โดย บล. กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดการเสวนาในหัวข้อ จัดสรรเงินทองอุ่นใจ หลักทรัพย์กสิกรไทยใส่ใจดูแลคุณ ให้กับลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ณ ห้อง Meeting Room 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2549 ตั้งแต่เวลา 13.00 - 17.00 น. บล. ธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขา จังหวัดภูเก็ต จะจัดบรรยายในหัวข้อ ลงทุนอย่างชาญฉลาดกับธนชาต และตลาดหลักทรัพย์ ณ ไทนี่ คอฟฟี่ (Tiny Coffee) ถ.เทพกษัตรี อ.เมือง ภูเก็ต และวันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม 2549 ตั้งแต่ 9.00 -12.00 น บล. นครหลวงไทย จำกัด จะจัดบรรยายในหัวข้อ สารบัญการลงทุน ณ ห้องประชุม 1101 ชั้น 11 อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ถ. รัชดาภิเษก
สำหรับวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2549 จะจัดงานโดย บริษัทหลักทรัพย์ 3 ราย ได้แก่ 1) หัวข้อ ลงทุนทันหุ้นคุณทำได้ จัดโดย บล. เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) เวลา 08.30 -12.00 น. 2) หัวข้อ ลงทุนอย่างไรให้ไกล.... ความเสี่ยง จัดโดย บล. นครหลวงไทย จำกัด เวลา 13.00 -16.00 น. ซึ่งจัด ณ ห้องประชุม 1101 ชั้น 11 อาคารตลาหลักทรัพย์ฯ ถ. รัชดาภิเษก และ 3) หัวข้อ Turn Pro with AYS วิธีการเล่นหุ้นแบบมืออาชีพ จัดโดย บล. กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เวลา 9.00 -17.00 น. ณ อาคาร ดิ ออฟฟิศเศสแอท เซ็นทรัลเวิลด์ ถ. พระราม 1
โดย กระแสหุ้น
^-^[/color:fdc5e7a8c1"> |
| | กลับขึ้นบน |
| |
