???? สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 1,238 | วันที่: 08/10/2006 @ 20:40:18 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต นายสมพงษ์ วชิรคพรรณ ฝ่ายจัดหารายได้ สมาคมค้าทองคำ กล่าวในงานสัมมนา ?น้ำมัน ทองคำ สินค้าสุดฮอตแห่งปี? โดยยอมรับว่า หลังจากราคาน้ำมันตลาดโลกได้เริ่มปรับตัวลดลง ได้ส่งผลให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลงตามไปด้วย
ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำผันผวนมาก ปรับลดลง 500-600 บาท เพราะสินค้าทั้ง 2 ตัว มักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีแนวโน้มปรับลดลงไปถึง 9,830 บาท ในช่วง 1 เดือนข้างหน้า จากราคาทองคำแท่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 10,300 บาท
อีกทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เพราะตามหลักทั่วไป เงินบาทแข็งค่าขึ้นจะทำให้ราคาทองคำในประเทศลดลงประมาณ 150 บาท และหากราคาทองลดลงถึง 9,500 บาท โดยไม่มีเหตุผลรองรับ ก็อาจมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
เพราะแนวโน้มราคาทองคำระยะยาวยังปรับตัวสูงขึ้น และในระยะ 3 เดือน หากราคาทองปรับลดลงมากอาจมีโอกาสลดลงอยู่ที่จุดต่ำสุด 552 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากเมื่อวานอยู่ที่ 568.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
อย่างไรก็ตาม ทองคำยังมีความเสี่ยงผูกติดกับราคาน้ำมัน โดยเฉพาะผลกระทบจากการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และปัญหาด้านต่าง ๆ ซึ่งทำให้ราคาอาจจะดีดกลับขึ้นมาได้
ขณะที่นายสุรงค์ บูลกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับลดลงในช่วงนี้
เนื่องจากการคาดการณ์เกี่ยวกับพายุเฮอริเคนในสหรัฐ จะมีถึง 25 ลูก ทำให้ผู้ค้าน้ำมันได้สำรองน้ำมันไว้สูงมาก แต่หลังจากช่วงฤดูพายุผ่านไปมีปัญหาเพียง 2 ลูก จึงมีปริมาณน้ำมันสำรองจำนวนสูงมาก
ประกอบกับในช่วงฤดูหนาวปีนี้ สภาพอากาศหนาวน้อยกว่าปีที่ผ่านมา รวมทั้งกองทุนเก็งกำไรน้ำมันในช่วงที่ผ่านมาได้ทำกำไรมาก
จึงหันไปแสวงหากำไรในสินค้าอื่น ทำให้การซื้อขายน้ำมันในตลาดลดลงถึงร้อยละ 50 โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมีการซื้อขายถึง 120,000 สัญญา ลดลงเหลือ 30,000 สัญญา เท่านั้น
แต่คาดว่าราคาน้ำมันตลาดโลกคงไม่ต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพราะกลุ่มโอเปกคงไม่ปล่อยให้ราคาต่ำกว่าระดับนี้ เนื่องจากมีต้นทุนในการผลิตโดยเฉพาะการค้นหาแหล่งน้ำมันใหม่ ๆ สูงขึ้น
ด้านนายสุวรรณ วลัยเสถียร ประธานชมรมคนออมเงิน มองว่า ตลาดหุ้นในช่วงนี้ต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2550 คงยังไม่ปรับตัวสูงขึ้นมากนัก และรัฐบาลคงต้องใช้มาตรการอีกหลายด้านในการเข้าไปดูแลตลาดหลักทรัพย์ฯ
ดังนั้น จึงแนะให้ประชาชนที่มีเงินออมไปหาผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยธนาคาร เพราะมีความเสี่ยงน้อยกว่า โดยเฉพาะการเตรียมออกตราสารหนี้ระยะยาว เพื่อก่อสร้างโครงการศูนย์ข้าราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ [/color:9fabeb9da5">
|