May 3, 2024   11:04:18 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > จับตาอาณาจักรชินคอร์ป
 

samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
วันที่: 05/10/2006 @ 09:59:28
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ลุ้น!! วันนี้ศาลฯมีคำสั่งรับคำฟ้องถอนสัมปทานกลุ่มชินหรือไม่ หลังสัดส่วนนลท.ต่างชาติเกินเกณฑ์ ผู้บริหาร AIS มั่นใจไม่โดนหางเลข เหตุอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานของทีโอที ด้านเซียนหุ้นคาดหุ้นกลุ่มชิน SHIN-ADVANC-SATTEL-ITV ได้รับผลกระทบแน่ เหตุมีส่วนเกี่ยวข้องกับสัญญาสัมปทานทุกตัว แนะหาจังหวะขาย มองหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลน่าสนใจสุดในช่วงนี้ เหตุมีรายได้สม่ำเสมอและได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นค่าประกันสังคม

ในวันนี้ศาลปกครองสูงสุดนัดฟังคำสั่งรับคำร้อง กรณี นายศาสตรา โตอ่อน ยื่นฟ้อง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) โดยกล่าวหาว่า ละเลยหน้าที่ไม่ดำเนินการยกเลิกสัญญาสัมปทานบริษัทในเครือชิน คอร์ปอเรชั่น(SHIN) หลังขายหุ้นให้นักลงทุนต่างชาติ ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองที่มีการตรวจสอบทุจริตของรัฐบาลชุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างเข้มข้น โดยล่าสุดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นัดกำหนดวันเปิดบัญชีทรัพย์สินอดีต รมต. ชุดทักษิณ 6 ต.ค. นี้ และให้อดีต รมต.-สส.-สว. และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยื่นบัญชีทรัพย์สินภายใน 18 ต.ค.

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการอ่านคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นเครือชิน ถ้าหากศาลฯมีคำสั่งรับคำร้องดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อหุ้นในตระกูลนี้แน่นอน ในทางตรงกันข้ามหากศาลฯไม่รับคำร้องก็จะส่งผลกระทบเชิงบวกกับราคาหุ้น ซึ่งต้องยอมรับว่า ในช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่มชินคอร์ปปรับตัวลดลงแรง ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยการเมืองเป็นหลัก โดยนักลงทุนมองว่า ถ้าการเมืองมีการเปลี่ยนขั่วอำนาจ และต้องการล้มล้างระบอบ ทักษิณ ให้หมดสิ้นอาจทำให้พื้นฐานของหุ้นเครือนชินคอร์ปเปลี่ยนตามด้วย

ทั้งนี้ หากศาลฯมีคำสั่งรับคำฟ้องดังกล่าว อาจเป็นปัจจัยที่คอยหดดันทำให้ราคาหุ้นกลุ่มชินคอร์ปไปได้ไม่ไกลนัก ซึ่งก็เป็นที่ทราบดีว่ากระบวนการพิจารณาของศาลฯ จะต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนไม่กล้าที่จะเข้าซื้อหุ้นในช่วงนี้ เพราะไม่มีความมั่นใจในสถานการณ์ แต่อย่างไรก็ดี ผู้บริหาร AIS ได้ออกมายืนยันชัดเจนว่า หากศาลฯพิจารณารับคำฟ้องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจาก AIS อยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานของ TOT

สำหรับความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่มชินคอร์ปวานนี้ SHIN ปิดที่ระดับ 29 บาท ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 6.03 ล้านบาท ADVANC ปิดที่ระดับ 88.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 113.62 ล้านบาท ITV ปิดที่ระดับ 2.82 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3.75 ล้านบาท และ SATTEL ปิดที่ระดับ 7.15 บาท ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 17.95 ล้านบาท

***วันนี้รู้ผลศาลฯรับฟ้องหรือไม่รับกรณีถอนสัมปทานกลุ่มชินฯหลังขายหุ้นให้ต่างชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้(5 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ศาลปกครองกลางสูงสุด จะนัดอ่านคำสั่งของศาลฯ กรณีนายศาสตรา โตอ่อน ยื่นฟ้อง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) ถูกกล่าวหาว่าละเลยหน้าที่ไม่ดำเนินการยกเลิกสัญญาสัมปทานบริษัทในเครือ ชิน คอร์ปอเรชั่น(SHIN) หลังขายหุ้นให้นักลงทุนต่างชาติ

ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองกลาง ไม่รับฟ้องคดีนี้ โดยวินิจฉัยว่าผู้ฟ้องไม่ใช่คู่สัญญาสัมปทานของรัฐที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย จึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด โดยระบุว่าเขาไม่ได้ยื่นฟ้องในฐานะที่เป็นคู่สัญญา แต่ฟ้องในประเด็นที่หน่วยงานของรัฐงดเว้นการปฏิบัติหน้าที่ยกเลิกสัญญาสัมปทาน




 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#1 วันที่: 05/10/2006 @ 10:01:04 : re: จับตาอาณาจักรชิคอร์ป
*** ADVANC มั่นใจไม่ถูกเพิกถอนสัมปทาน

นายวิเชียร เมฆตระการ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ADVANC) เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า ในขณะนี้ยังมองไม่เห็นแนวทางที่บริษัทจะถูกเพิกถอนสัญญาสัมปทาน เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยทำผิดสัญญาแต่อย่างใด และบริษัทอยูภายใต้สัญญาของบมจ.ทีโอที

หากบริษัททำผิดสัญญากับคู่สัญญาสัมปทานก็อาจจะทำให้ถูกเพิกถอนสัญญาสัมปทานได้ ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวมากกว่า ซึ่งบริษัทก็ไม่เคยทำผิดสัญญาสัมปทาน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทก็จ่ายส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญานายวิเชียรกล่าว

อย่างไรก็ดี หากศาลฯรับคำฟ้องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากบริษัทมีสัญญาการให้บริการโทรศัพท์กับ บมจ.ทีโอที ซึ่งในสัญญาก็ไม่ได้ระบุถึงการถือหุ้นของต่างชาติใน ADVANC และในขณะนี้บริษัทก็คงดำเนินงานตามปกติ และไม่มีการเตรียมแผนรองรับกรณีถูกถอดสัมปทานแต่อย่างใด

***ป.ป.ช. นัดกำหนดวันเปิดบัญชีทรัพย์สินอดีต รมต. ชุดทักษิณ 6 ต.ค. นี้

นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการป.ป.ช.เตรียมกำหนดวันในการจัดแถลงเปิดบัญชีทรัพย์สินของอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หนึ่งและสองให้สาธารณชนทราบ โดยในวันที่ 6 ตุลาคม 2549 จะทราบรายละเอียดว่าคณะกรรมการป.ป.ช.จะกำหนดเปิดบัญชีทรัพย์สินในวันที่เท่าไหร่ และสถานที่ใด

นอกจากนี้ คณะกรรมการป.ป.ช.ขอให้สมาชิกวุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี และศาลรัฐธรรมนูญ ที่สิ้นสุดลงพร้อมกับรัฐธรรมนูญปี 2540 รวมไปถึงที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรี เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผู้ช่วยเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ที่สิ้นสุดลง ภายหลังจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้เข้ายึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 19 กันยายนและมีประกาศฉบับที่ 3 ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ผู้ที่พ้นจากตำแหน่งทั้งหมดมีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 จนถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2549 โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้ยื่นบัญชีรายการหนี้สินและทรัพย์สินในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาที่ยังไม่มีคณะกรรมการป.ป.ช.

***เซียนหุ้นเชื่อข่าวศาลฯนัดฟังคำพิจารณารับคำร้องถอนสัมปทานกลุ่มชินฯ มีผลลบต่อราคาหุ้น

นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทีเอสอีซี เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวคงจะส่งผลลบต่อจิตวิทยาการลงทุน ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงไม่ได้ควรที่จะหาจังหวะขายหุ้นในกลุ่ม SHIN ซึ่งประกอบด้วยบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SATTEL,บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITVและบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ส่วน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว เพราะได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสัมปทาน

ก็มีผลกระทบในภาพรวมอยู่แล้ว ซึ่งในช่วงนี้ควรที่จะหาจังหวะขายอกมาบ้าง แต่ในความคิดเห็นส่วนตัวเชื่อว่าคงจะไม่มีการยกเลิกสัมปทานของกลุ่ม SHIN เพราะเรื่องนี้ไม่น่าจะเลวร้ายและแก้ไขไม่ได้ ซึ่งแนวทางในการแก้ไขคงจะเป็นการปรับเปลี่ยนให้ถูกกฎของการถือหุ้นต่างชาติมากกว่า นางสาวสุภากร กล่าว

สำหรับราคาเป้าหมายของ SHIN ให้ไว้ที่ 35 บาท , SATTEL ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 15 บาท ,ITV ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 1 บาท และ ADVANC ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 100 บาท

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่งกล่าวว่า หากศาลปกครองสูงสุดรับฟังคำร้องดังกล่าวจะส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มชินฯอาจปรับตัวลดลงอย่างเด่นชัดขณะเดียวกันหากศาลปกครองสูงสุดไม่รับคำฟ้องก็จะส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มชินฯมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันเนื่องจากราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวเคลื่อนไหวตามกระแสข่าวที่เข้ามากระทบ

ทั้งนี้ ประเมินแนวรับแนวต้านหุ้นกลุ่ม SHIN ดังกล่าว SHIN มีแนวรับ 28 บาทแนวต้าน 29.50 บาท / ADVANC มีแนวรับ 85.50 บาท แนวต้าน 89.50 บาท ITV มีแนวรับ 27.60 บาท แนวต้าน 29 บาท / SATTELมีแนวรับ 7 บาท แนวต้าน 7.25บาท/SC มีแนวรับ 8 บาท แนวต้าน 8.5 บาท
อย่างไรก็ตาม หากสนใจลงทุนหุ้นกลุ่มชินฯ แนะนำระมัดระวังการลงทุนให้มากเนื่องจากมีความเสี่ยงจากการลงทุนพอสมควร

***นักวิเคราะห์แนะเล่นหุ้นโรงพยาบาล ช่วงการเมืองเมืองไม่นิ่ง

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า เรื่องการฟ้องร้องยกเลิกสัมปทานกลุ่มชินคอร์ปเคยมีการยื่นฟ้องมาแล้ว แต่ศาลปกครองกลางไม่รับฟ้องเนื่องจากวินิจฉัยว่าผู้ฟ้องไม่ใช่คู่สัญญาสัมปทานของรัฐที่ได้รับความเดือนร้อน แต่อย่างไรก็ตามไม่สามารถที่จะประเมินได้ว่าศาลจะรับฟ้องหรือไม่ เนื่องจากเป็นดุลพินิจของศาล

ทั้งนี้ การฟ้องร้องดังกล่าวเป็นการฟ้องร้องกระทรวงไอซีทีซึ่งเป็นผู้เป็นผู้ออกใบอนุญาตประกอบกิจการแก่ SATTEL หากผู้ร้องต้องการฟ้องทุกบริษัทในเครือนชินคอร์ปจะต้องฟ้องร้องหน่วยงานที่ให้ใบอนญาตในการประกอบกิจการจึงจะเป็นผล ดังนั้น จึงว่าการฟ้องร้องข้างต้นเป็นการยื่นฟ้องเพื่อตีความการออกใบอนุญาตฯของแต่ละหน่วยงานของบริษัทในเครือ SHIN มากกว่า

อย่างไรก็ตามคาดว่าข่าวดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบทางจิตวิทยาของหุ้นกลุ่ม SHIN ให้ปรับตัวลดลงบ้างแต่คงไม่กระทบในเรื่องมูลค่าของราคาหุ้น ยังไม่มีการปรับประมาณการ คงต้องรอความชัดเจนมากกว่านี้ ซึ่งหากศาลรับคำฟ้องก็ต้องมีกระบวนการตรวจสอบเพื่อหาข้อยุติต่อไป

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์มองว่าหุ้นกลุ่มสื่อสารที่มีความน่าสนใจ แนะนำซื้อหุ้น TRUE เนื่องจากบริษัทมีโครงสร้างรายได้ที่ค่อนข้างกระจายในหลายธุรกิจ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงทางธุรกิจเมื่อเทียบกับ ADVANC ซึ่งมีรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์มือถือ หากตลาดโทรศัพท์มือถือเริ่มอิ่มตัวก็จะได้รับผลกระทบ

และหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจในกลุ่มอื่นคือ หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล แนะนำ ซื้อ KH เมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว โดยมองว่าเป็นหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องและมีรายได้สม่ำเสมอ และในช่วงไตรมาส 3 ก็คาดว่าจะมีแนวโน้มการดำเนินงานที่ดีขึ้นต่อเนื่องไปถึงปี 50 ก็จะได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นค่าประกันสังคมที่ภาครัฐจะต้องจ่ายให้กับโรงพยาบาล รวมถึงค่ารักษาพยาบาลในโครงการ 30 บาท



ที่มา efinance.com
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#2 วันที่: 05/10/2006 @ 11:37:12 : re: จับตาอาณาจักรชินคอร์ป
เอ้.........สมัยปชป.และชาติไทย เคยเป็นรัฐบาลแล้วยุบสภา เขาต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินรึเปล่า ทำไมไม่เห็นมันคึกโครม หรือโดนคำสั่งแบบรัฐบาลทักษิณเลย มันเอียงไหมเนี่ย
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#3 วันที่: 05/10/2006 @ 17:13:16 : re: จับตาอาณาจักรชินคอร์ป
ศาลปกครองรับฟ้องแล้วครับ คงต้องยกเลิกสัปทานเร็วๆนี้ ครับ
ลูกค้าที่ใช้บริการอยู่ คงให้กับ TOT ครับ
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com